ตอนที่แล้วตอนที่3 โถงห้องบรรพบุรุษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 วิชาโบราณ

ตอนที่4 กองเลือด


บรรยากาศในห้องโถงบรรพบุรุษเริ่มแข็งถื่อขึ้น หน้าหัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกเหมือนจมอยู่ในน้ำเย็น“อะไรกันหลี่สอง นายไม่พอใจกับข้อตกลงของข้า?” พวกคนเลวหลายคนเหล่านี้เริ่มถูกำปั้นและม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วรวมถึงหัวหน้าหัวล้านก็หยิบมีดขึ้นมา

 

ผู้อาวุโส ก็หลับตาแล้วและแนะนำเขา“หลี่สองน้อย อย่าคับข้องใจเลยและอย่าทำท่าทางหยาบคายแบบนั้น”  “แขนไม่สามารถบิดขาได้ เดวิดไม่สามารถเทียบกับโกไลแอทได้”  “พ่อบ้านหลิวจะจ้างนายเป็นคนงานในคฤหาสน์ของเขาและให้เงินนายเพื่มขึ้นอีกนิดหน่อย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนายจะไม่อดตาย”

 

หลี่ ฉิงชาน ยังไม่ตอบอะไร เขาไม่รู้ว่าเขาออกจากห้องโถงบรรพบุรุษยังไง เมื่อเขาวิ่งออกไปคนหัวล้านก็ทำให้เขาสะดุดจนเกือบล้ม แล้วเดินออกจากเขาสักพักก็เริ่มหัวเราะออกมาอย่างดัง

 

ระหว่างทางเขาได้พบกับแม่มด เธอหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ“หายนะ หายนะมันยังไม่สายเกินไปที่จะเคารพพระเจ้า”

 

หลี่ ฉิงชาน กลับมาที่บ้านหลังใหม่ที่ตีนเขา วัวหมอบ และล้มตัวลงนอนก่อน ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความสุขภายในหัวใจของเขา

 

ดวงอาทิตย์ร่วงลงใต้เทือกเขาทางทิศตะวันตก สีของท้องฟ้าลดลงจนถึงค่ำ ไก่ส่งเสียงร้องและหมาก็เห่าเบาลงๆจนเงียบแล้วหมู่บ้านก็กลับคืนสู่ความสงบ

 

วัวสีเขียวเดินเข้ามาจากด้านนอก หลี่ ฉิงชาน กำลังลุกขึ้นเพื่อจะพูด แต่วัวสีเขียวพูดตามจริงว่า “ข้าเห็นทุกอย่าง แต่ข้าไม่ได้ช่วยเจ้า”

 

“ข้าไม่ได้คิดที่จะขอความช่วยเหลือจากเจ้า ข้ายังไม่สนใจเกี่ยวกับที่ดินไม่กี่ที่เหล่านั้น เพียงแต่ข้า”

 

"ไม่สามารถยอมรับความโกรธนี้ได้เหรอ"

 

“ใช่”

 

“สีดำกับสีขาวมันไม่ได้แยกจากกัน นี้แหละคือหลายๆสิ่งหลายๆอย่างภายใต้ท้องฟ้าผืนนี้ บางครั้งแม้แต่พระพุทธรูปอมตะและนักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจที่เจาะทะลุทะลวงสรรค์ทั้งหลายก็ประสบกับความคับข้องใจและความอับอายขายหน้า ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ตัวเล็กๆแบบเจ้า เที่ยบกับความโกรธเล็กๆของเจ้าแล้วเป็นยังไง?”

 

หลี่ ฉิงชาน จ้องมองแล้วพูด“แต่ข้าไม่ต้องการที่จะทนและเจ็บใจในคนเดียว”เขาก็นึกถึงมีดสั้นอีกครั้ง

 

วัวสีเขียวเฝ้าดูเขาอยู่อย่างเงียบๆเป็นเวลานานแล้วก็หัวเราะ“ดีดีดีไม่ต้องการที่จะทนและเจ็บใจ เป็นวิธีที่ถูกแล้ว ผู้ชายที่มี บุคลิกที่ตรงไปตรงมาละทิ้งความเศร้าโศกและความเสียใจ ความเมตตากรุณาของมื้ออาหารมื้อเดียวนี้ต้องได้รับการตอบแทน ความเกลียดความโกรธนี้ต้องแก้แค้น ตั้งแรกข้าเห็นพลังของเจ้าพึ่งตื่นมาในปีนี้ แต่ที่น่าแปลกก็คือเจ้ายังคงมีพลังบางอย่างของชายหนุ่มที่อยู่ในหน้าอกของเจ้า แค่นี้ก็คุ่มค่าที่จะสอนนายแล้ว”

 

หลี่ฉิง ชาน จ้องมองอย่างว่างเปล่า“เจ้ากำลังทดสอบข้าหรือปล่าว”

 

วัวสีเขียวจามและพูดว่า“นี้ยังนับเป็นการทดสอบ? ไม่ใช่แค่ถามนะเด็กน้อยแต่เจ้าต้องการจะเดินทางไหน”

 

“ทางไหน?” หลี่ ฉิงชาน ไม่เข้าใจความหมาย

 

“เต๋า ของโลกนี้มีมากมาย…..มีเต๋าแห่งการดูดกลืนและเอาชีวิตของนายไปวางไว้ก่อนที่จะมีกฏนอกจากนี้ยังมี เต๋าแห่งการสรรสร้างอาวุธ มนุษย์มีเต๋าของมนุษย์ ปีศาจมีเต๋าของปีศาจ พระเจ้ามีเต๋าแห่งพระเจ้า ผีมีเต๋าของผี  แต่ละคนมีมุมมองเต๋าของตัวเอง แต่ละคนมีทางเลือกเต๋าของตัวเอง”

 

หลี่ ฉิงชาน ได้ยินคำว่า เต๋า ไม่หยุดไม่หย่อนเขารู้สึกว่าหัวหมุน อย่าบอกนะว่าคุณกำลังร้องเพลงะให้ผมฟัง“เต๋า เต๋า เต๋า”

หลังจากฟังซักครู่แล้วเขาก็ขัดจังหวะ“ฉันจะค้นหาเต๋าของฉัน!!”

 

วัวสีเขียวตอนแรกจ้องแล้วก็มีความสุข“นายเข้าใจแล้วใช่ไหม เต๋าที่ยิ่งใหญ่มีมากมาย นายต้องคนหาเต๋าของตัวเอง” เขาหยิบเอาน้ำเต้าออกมาไม่รู้ว่าเอาออกมาจากไหน น้ำเต้าโผล่ขึ้นมาบนมือ หลี่ ฉิงชาน“ตั้งแต่นายไม่ต้องการที่จะทนและกลืนความโกรธลงไปฉันจะสอนว่าต้องทำยังไง”

 

หลี่ ฉิงชาน รู้สึกหนักบนมือของเขาและมีของเหลวอยู่ข้างใน เขาดึงจุกไม้น้ำเต้าออกและมีกลิ่นของแอลกอฮอล์พุ่งออกทันที

 

หลี่ ฉิงชานยิ้มแบบบูดบึ้งหลังจากกินเนื้อแล้วเขาจำเป็นตองดื่มเหล้าจริงๆหรือ มันดูสมเหตุสมผลมาก แต่ผู้ที่พึ่งพาสองสิ่งเหล่านี้เพื่อที่จะบ่มเพาะ?  ถ้าการกินเนื้อสัตว์และดื่มเหล้าเพียงพอที่จะกลายเป็นอมตะแล้วทุกคนที่ร่ำรวยใต้ผืนฟ้านี้คงจะเป็นอมตะหมด สำหรับคนโลภมันจะเป็นอมตะได้จริงหรือ

 

วัวสีเขียวพูดเพียง8คำ“เนื้อช่วยเสริมสร้างร่างกาย แอลกอฮอล์ทำให้ความกล้าหาญเพิ่มขึ้น”

 

หลี่ฉิง ชาน กัดฟันตัวเอง ยกหัวขึ้นและ กระดกเหล้าลงไป มันเป็นเพียงไวน์ข้าวของหมู่บ้านเท่านั้น แต่เมื่อที่ไวน์ไหลลงถึงท้องของเขาแล้ว เขารู้สึกว่าท้องฟ้าหมุนและพื้นดินก็หมุนไปรอบๆ ตาของเขามองตรงไปที่วัวสีเขียว นี้คือการดื่มเพื่อให้ความกังวลของเขาให้ออกไป?

 

“ไปฆ่าใครสักคนแล้วฉันจะสอนนายเรื่องการบ่มเพาะ!”วัวสีเขียวพูดอย่างสงบเช่นที่เขากำลังพูดเหมือนเรื่องที่เล็กน้อยไม่สำคัญจากนั้นก็คุกเข่าลง

 

หลี่ ฉิงชาน รู้สึกถึงความหนาวเย็นผ่านหลังของเขา ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าด้านหน้าของเขาไม่ได้เป็นวัวแก่ตัวเดิมที่ขยันขันแข็งที่คลุกคลีมาพร้อมกับเขามานานกว่าสิบปี มันเป็นวิญญาณสัตว์ประหลาดวัวที่ชั่วร้ายจริงๆ สิ่งที่เรียกว่าการสอนก็ไม่ได้หมายถึงการเจียมเนื้อเจียมตัวและมีเต๋าที่ออนโยนของพระอมตะ แต่คือสิ่งที่ชั่วร้ายและมีเต๋าโหดร้ายของสัตว์ประหลาดและปีศาจ

 

มันก็ยังคงไม่ได้สอนให้เขามีทักษะเหนือธรรมชาติใด ๆและบอกให้เขากินแค่เนื้อกับเหล้าและตอนนี้เขาต้องไปฆ่าคน

 

เขาต้องไปฆ่าคนจริงๆหรือ? หลายใบหน้าลอยอยู่หน้าของเขา เขาเกลียดคนเหล่านั้นและอยากจะฆ่าพวกเขา แต่เขารู้ว่าตัวเองไม่กล้าทำเช่นนั้น วัวสีเขียวก็รู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาดื่มเหล้าเพื่อให้เขากล้าที่จะทำ

 

นี่เป็นสัญญาเลือดหรือพิธีกรรมเพื่อฝึกหัด? ระลึกถึงความยากลำบากในปัจจุบัน ไวน์เข้าไปในหัวของเขาและความโกรธของเขาก็ทะลักออกมา หลี่ ฉิงชาน ยกหัวขึ่นและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วลดศีรษะลง “ฆ่าใคร?”

 

“นั้นคือปัญหาของนาย มาตกลงกันก่อน ฉันไปไม่ไปช่วยนาย ฉันจะไม่ช่วยชีวิตนายด้วยเหมือนกัน ฉันเป็นแค่วัวธรรมดาๆ”

 

แสงจันทร์ในตอนกลางคืนสว่างไสวและสดใส ส่องแสงสีขาวลงบนพื้นดิน หลี่ ฉิงชาน เดินอยู่คนเดียวกับน้ำค้างที่แข็งสีขาวและเห็นดวงจันทร์ส่องประกายระยิบระยับเหนือหัวของเขา เขาไม่สามารถรอให้เมฆที่มืดมนมาบังได้

 

ภายในหมู่ที่บ้านเงียบสง เสียงเท้าของ หลี่ ฉิงชาน กำลังเดินไปอย่างเคว้งคว้างพร้อมกับหัวใจที่ว่างเปล่า

 

เสียงโห่ร้องของมนุษย์ที่ดังออกมาจากข้างในบ้านที่โทรมๆในขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ หลี่ ฉิงชาน สามารถได้ยินเสียงพวกมันได้อย่างชัดเจนนั่นคือพวกนักเลงจากห้องโถงบรรพบุรุษในวันนี้ เขารีบก้มลงเอาหูไปแนบผนังและฟังสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึง

 

“ไวน์นี้ได้มาง่ายจริงๆ เราแค่ไปยืนในห้องโถงบรรพบุรุษนิดหน่อย แต่พ่อบ้านหลิวก็ให้รางวัลเรามาซะเยอะเลย”

 

หลี่ ฉิงชาน  จำเสียงนี้ได้ทันที ไอหัวล้านหลิว อันธพาลที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน ที่มักจะไม่ยอมทำงานตลอด และไปขโมยไก่และสุนัข นิสัยของเขาช่างเลวทรามและโหดเหี้ยมและก็เขาถือมีดบังตอไว้ตลอด ทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกกลัวเล็กน้อยและแม้ว่าเขาจะโดนขโมยพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะไปทำอะไรเขา พวกโง่คนอื่น ๆ ก็ถือว่าเขาเป็นหัวหน้าของพวกเขา

 

“ทั้งหมดเป็นเพราะพลังและอำนาจของพี่ เห็นหน้าเด็กนั้นไหม เขากลัวจนหน้าซีด”มีเสียงหัวเราะระเบิดออกมาจากในบ้าน

 

หลี่ ฉิงชาน เขาไม่รู้ว่าหน้าของเขาตอนนั้นเป็นยังไง แต่ตอนนี้มันเป็นสีแดงสดใสจริงๆ เหล้าผสมกับความโกรธของเขา เขาอยากจะรีบวิ่งพุ่งไปที่หัวของไอนั้นทันที่

 

“น่าเสียดายที่เจ้าคนอ่อนแอนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย ข้ายังไม่ได้ใช้กำปั้นและขาของฉันเลย ตอนแรกข้าคิดว่าจะใช่เขาเป็นคู่ซ้อมสักหน่อย เด็กบ้านี้ไม่เคยที่จะทำให้ฉันเอาจริงได้เลย”

 

หลี่ ฉิงชาน  เป็นคนสองโลกและเขาเพียงไม่เกรงกลัวมันแค่นั้นเขาคิดว่ามันเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาเหมือนเขา เขาไม่คาดคิดว่าเขา เขาถูกจูงใจด้วยความเกลียดชังแบบนี้

 

"มันไม่ใช่เรื่องยากถ้าพี่ใหญ่จะต้องการจะทุบตีเขา ไอโง่นี้สร้างบ้านของเขานอกหมู่บ้าน เป็นที่ๆดีมากสำหรับเราและเราจะมีความสุขด้วยที่ทุบตีมัน เราจะเอาวัวของมักลากที่ไปตลาดและขายมัน เราคงได้เงินมานิดหน่อยและไวน์บางส่วนมา

 

พวกอันธพาลคนอื่นๆ ทั้งหมดเห็นด้วย

 

หลี่ ฉิงชาน ถุยน้ำลายออกพร้อมกับกลื่นเหล้าหึ่งและถือมีดสั้นไว้ตรงหน้าอกของเขาอย่างแน่น

 

ไอหัวล้านหลิวดื่มไวน์มากไปและออกมาข้างนอกบ้านเพื่อที่จะฉี่ แต่เขาไม่ได้กลับเข้าไปข้างในแต่เค้ากลับเดินไปบนเส้นทางเล็ก ๆแทน ไปทางทิศใต้ของหมู่บ้าน

 

หลี่ ฉิงชาน รู้สึกอยากรู้อยากเห็นและลุกขึ้นยืนเดินตามไป เขาเดินมาถึงประตูบ้านของแม่ม้ายหลิวตะโกนใส่เธอเพื่อให้เปิดเธอประตู หลี่ ฉิงชาน รู้แล้วว่าเขาต้องการทำอะไร

 

ไอหัวล้าน หลิว ใช้อารมณที่กำลังเมามายพูดจาหยาบคาย เตะประตูอย่างรุนแรงสองสามครั้ง เขาตะโกนคำสาปแช่งและดูถูกไปสักพักนึง ทำให้สุนัขในหมู่บ้านเห่าและเขาก็หันหลังแล้วเดินไปทางซ้าย

 

แม่ม่ายหลิวใจเย็น ด้านในประตูเธอแอบมองออกไปนอกประตูผ่านรอยต่อของประตูเธอเห็นว่าหลิวได้เดินไปไกลแล้วจริงๆถึงรู้สึกโล่งใจแต่แล้วเงาหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาผ่านสายตาเธอและเงานั้นก็ตามหลังของหลิวไป คืนนี้มืดมิดและเธอไม่สามารถมองเห็นเสื้อผ้าหรือรูปลักษณ์ได้ชัดเจน เธอคิดว่าเขาเป็นผู้ติดตามของเขา แม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดปกติบางอย่างเล็กน้อย

 

หลี่ ฉิงชาน ตามไอหัวล้านหลิวไปยังที่รกร้าง ความรุนแรงพลันโผล่ขึ้นมาในใจของเขาและเขาตะโกนดังขึ้นและพุ่งไปข้างหน้า

 

หัวล้านหลิวหันหลังกลับมามองด้วยความตกใจและเห็นมีดสีเข้มและหมองคล้ำทะลุเขา แล้วจู่ ๆ เขาก็ตื่นขึ้นมาจากอาการเมาเหล้าพยายามหลบหนีและโต้ตอบกลับไป แต่มือและเท้าของเขาไม่มีแรง  โดยปกติเขาเพียงแค่ถือมีดและข่มขู่คนธรรมดาๆ นอกจากนี้เขายังต่อสู้ด้วยกำปั้นจริงๆเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เมื่อไหร่ที่เขาเจอประสบการ์ณการต่อสู้จริงๆที่เอาชีวิตเป็นเดิมพัน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเด็กหนุ่มแต่ว่าความหยิ่งยโสและ กลิ่นอายความอาฆาตแค้นดุจสัตว์ป่าที่ดุร้ายที่มาจากภูเขา

 

ไม่มีสิ่งใด้ที่ต้านทานมีดที่แทงเข้าไปได้ หลี่ ฉิงชาน ไม่คิดว่าไอหัวล้านหลิวที่คุยโว้อวดว่าตัวตัวเองไม่ได้ไร้ประโยชน์  เมื่อเห็นหน้าของเขาที่หวาดกลัวและเหมือนจะวิงวอนขอชีวิตเขา ต้เขาเหมือนคนที่เมาเหล้า ดวงตาของเขามีสีแดงจางๆ หัวของเขาเหมือนจะหยุดขยับไปแล้วมีแต่มือของเขาเท่านั้นยังขยับอยู่

 

แสงสะท้อนของเงามีดและสีแดงของเลือดสดๆไหลนองกระจายในความมืด

 

เมื่อหลี่ ฉิงชาน เริ่มสงบลง ไอหัวล้านหลิวก็นอนจมในกองเลือดไปแล้วเรียบร้อย มีกลิ่นคาวของเลือดที่ไหลชุ่มช้ำในยามค่ำคืนใต้แสงจันทร์และเผยให้เห็นถึงกลิ่นอายแห่งความหนาวเย็นเล็กน้อย

 

หลี่ ฉิงชาน สงบสติตัวเองจากนั้นหันหลังแล้ววิ่งออกไปภายในหนึ่งลมหายใจเขาวิ่งมาถึงตีนเขาของหมู่บ้าน เขาก้มหน้าลงมองเงาสะท้อนในน้ำแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมา“นี้ใช่ข้าจริงๆเหรอ”

 

ในน้ำสะท้อนชายหนุ่มที่มีเลือดชโลมไปทั่วร่างกาย ดวงตาของเขาและยังมีกลิ่นอายของการฆ่าเหลืออยู่มันยังไม่ได้จางหายไปทั้งหมดทำให้ดูน่าสยดสยองอย่างมาก

 

หลี่ ฉิงฉาน ดื่มน้ำเย็นและล้างเลือดออกจากร่างกายของเขาจากนั้นก็กลับมายังบ้านโคลนของเขา โดยไม่สนใจวัวสีเขียวที่อยู่อีกด้านนึงของบ้าน เขาพุ่งมาทิ้งตัวลงนอนที่เตียงเลย

 

ในตอนนี้มือของเขาเริ่มสั่นและเหงือไหลโชกออกมาทั่วตัว จนเสื้อเปียก เขาพึ่งส่างเมาจากไวน์

 

วัวสีเขียวถามพร้อมกับหัวเราะ“เจ้าไม่หนี?” ราวกับว่ามันไม่ได้ให้ หลี่ ฉิง ชาน ไปฆ่าคน

 

หลี่ ฉิงชาน พูด“แค่การฆ่าคนพวกนี้ ข้าต้องหนีอีกเหรอ” การเลือกหลิว ไม่ได้เป็นเพียงแรงกระตุ้นในตอนนั้น เจ้าเลวนั้นเป็นคนทำให้หมู่บ้านวุ่นวายและไม่มีใครในหมู่บ้านกล้าที่จะตัดหัวเขา ถ้าคนไม่เอาเรื่องนี้มาพูด พวกคนของรัฐบาลก็จะไม่มาสืบเรื่องนี้ ตราบเท่าที่ไม่มีหลักฐาณของฆาตกรเรื่องนี้ก็จะเงียบไปเอง

 

ความยินดีในสายตาของวัวสีเขียวนั้นลึกลงไปอีก มันง่ายที่จะหาคนที่ฆ่าคนด้วยความโกรธ แต่ใครจะรู้จะฆ่าใคร จะไม่ฆ่าใคร จะทำให้ตัวเองเป็นตัวอยู่ยังไงในขณะที่ฆ่าใครสักคน นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงแม้ว่าเขาจะแกล้งทำเป็นเยือกเย็นและมีสติ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะดูความก้าวหน้าของเด็กคนนี้

 

หลี่ ฉิงชาน ไม่สามารถซ่อนมือที่สั่นจากสายตาของมันได้ แต่ในสายตาของมันมันไม่ใช่แค่ความน่าละอายใจ คนที่ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องคิดอะไรสามารถเห็นได้ทั่วไป แต่คนที่สามารถระงับความวิตกกังวลและความกลัวได้ ไม่ได้หาง่ายๆ

 

หลังจากนั้นไม่ได้  วัวสีเขียวพูด“เจ้ารู้สึกยังไง”

 

“รู้สึกกลัวและรู้สึกสะใจจริงๆ!!” คำพูดเหล่านี้มาจากใจของ หลี่ ฉิงชาน จริงๆ  หลังจากความกลัวหมดไปก็มีความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดได้และความโกรธที่เขาในใจมีก็หายไปครึ่งหนึ่ง จำได้ว่าตอนที่เขาอ่าน "Water Margin" เสือดำหลิน ซ่อนตัวในจากพายุหิมะที่วัด เลือดของ วู่ สอง สาดกระเด็นไปโดน เป็ดแมดดาริน มันเป็นความรู้สึกแบบนั้นเลย

 

วัวสีเขียวหัวเราะ“เจ้าต้องรีบนอนไวๆ เรามีหลายอย่างที่ต้องทำพรุ่งนี้”

 

หัวใจของ หลี่ ฉิงชาน เต้นแรงขึ้นและแสดงท่าอย่างมีความสุข“เจ้า กำลังพูดว่า....”


มีคำผิดหรืออะไรติชมได้ที่เพจเลยนะค้าบบ Legend of the Great Saint

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด