ตอนที่แล้วตอนที่ 7 : หญิงชราและเด็กหนุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 : บททดสอบของความอดทนที่มีภายในใจ

ตอนที่ 8 : การต่อสู้ระหว่างเด็กหนุ่มกับมอนสเตอร์ในตำนาน


มอนสเตอร์ที่มาในรูปร่างของหมูป่า ดวงตาที่ดูราวกับดวงไฟสีแดงที่กำลังลุกอยู่นั่นมันเป็นลางไม่ดีพอๆกับที่เขาอยู่ในสงครามของเสียงร้องไห้ในตอนนี้ รูเดิลได้ร่ายมานาที่กำลังไหลเวียนทั่วร่างกายของเขา ก่อนที่จะใช้ดาบที่ได้รับการเพิ่มพลัง และอิซูมิที่พยามยามจะช่วยในการส่งมีด คะตะนะ อาวุธของเธอ ให้รูเดิลนำลงไปบนร่างของหมูป่า แต่ . . .

“อ๊ะ! มันยากเกินกว่าจะฟันได้!”

มีดคะตะนะบิ่นและรูเดิลไม่สามารถที่จะทนได้ หมูป่าได้เกาขาหลังอย่าถี่ๆก่อนที่จะส่งร่างของเขาบินสูงขึ้นไปก่อนที่จะลงมากระทบกับต้นไม้ รูเดิลรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่กำลังพุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย

“อั๊ก!”

คราวนี้รูเดิลหลีกเลี้ยงที่จะเผชิญหน้ากับหมูป่า เขาใช้เวทย์มนต์เบื้องต้นที่เขาได้เรียนรู้ของธาตุไฟและลม แต่กลับเป็นหมูป่าที่โผล่ออกมาโดยไม่บาดเจ็บใดๆ

“นาย!”

กลับมาฟื้นคืนท่าของเขา รูเดิลต้องเผชิญกับหมูป่าในขณะที่เขาเห็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาก็ช่วยกันต่อสู้จนนอนแน่นิ่งไปเสียเกือบหมด

ตัวเลขแห่งความแข็งแกร่งถดถอย .. แต่มอนสเตอร์ไม่อ่อนแอพอที่จะถูกล่าโดยชั้นเรียนและความบาดเจ็บของเขา

รูเดิลไม่ยอมแพ้ ในการเป็นดรากูนอัศวินแห่งมังกร นั่นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน Courtois นั่นหมายถึงว่า หากเขาพ่ายแพ้ให้กับมอนสเตอร์ในครั้งนี้ เขาก็คงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะไปควบคุมมังกรได้   … ความรู้จากหนังสือบางเล่มที่เขาได้อ่านถูกไหลผ่านเข้ามาให้หัวของเขาก่อนที่เขาจะฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง

เขี้ยวของหมูป่าที่ยื่นออกมาจากขากรรไกรล่างขึ้นมาที่รูเดิล

“ใช่! อย่างนั้นแหละ!”

เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายของเขา ก่อนที่จะซมซานจับดาบขึ้นมายืนเพื่อตั้งหลัก ร่างกายของเขาอ่อนแอเหนื่อยเกินในตอนนี้ เมื่อเขาหยิบดาบขึ้นมาได้เขาตัดสินใจฟันมันลงทันที … เขี้ยวของมันพุ่งทะยานสูงขึ้นก่อนที่จะตกมายังบนพื้นดิน จริงอยู่ที่เขาสามารถเอาชนะมันได้ แต่รูเดิลก็ได้สูญเสียพลังในตัวของเขาเป็นอย่างมาก

ควบคู่ไปด้วยกับเสียงของผู้ตรวจตราในด้านหลังที่โจมตีมอนสเตอร์เพียงครั้งเดียว เขาใช้เวทมนต์ของเขาเผาหมูป่า และใช้หอก ดาบ หั่นมันเป็นชิ้นๆ รูเดิลเพียงแต่คิดว่าเขาและเพื่อนร่วมชั้นของเขา จะได้แสดงให้เห็นว่า พลังของพวกเขากับพวกเธอมันแตกต่างกัน

ทุกอย่างมันดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว ศัตรูเบื้องหน้าของเขาไม่แม้แต่ยกขยับร่างกายขึ้นมาได้ .. หัวใจของของรูเดิลฝ่อลง เขาเริ่มรู้สึกถึงความอัปยศอดสู อัปยศกับดาบและเวทย์มนต์ที่เขาได้ฝึกฝนมา ไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ของเขา และมันเป็นความจริงที่ว่า ทุกคนไร้ซึ่งความละอายในขณะที่เขาสามารถตายได้หากเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือไว้

รูเดิลเต็มไปด้วยความรู้สึกที่กำลังสับสนวุ่นวาย

“ถอนตัว!? อย่าโง่ไปหน่อยเลย เรามาไกลขนาดนี้เราไม่สามารถถอนตัวได้แล้ว !”

รูเดิลคัดค้าน หลังจากที่อิซูมิพูดขึ้นเมื่อ จิตใจของเธอได้อย่างกายก้าวไปถึงคำว่า ‘ ขอถอนตัว’ เธอไม่สามารถทนมองสภาพของเขาผ่านความรู้สึกที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าจากผู้คนรอบเขาตอนนี้ได้

“รูเดิล . . .”

อิซูมิ คอตก ความเหน็ดเหนื่อยในร่างกายชองเธอทำให้ตอนนี้เธอไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว

“อีกนิดเดียวนะ . . .”

ใช่ จริงอยู่อีกไม่นานพวกเขาก็จะถึงจุดหมายตามที่เขาต้องการ เพียงแค่ครึ่งทางนับจากนี้เท่านั้น พวกเขาไม่มีทางเลือกและที่รูเดิลตั้งใจจะถอนตัวจริงๆเป็นเพราะเพื่อนร่วมชั้นของเขาและเขา ล้วนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่แสนจะเหนื่อยล้า

บาซิลลี่ที่กำลังมองดูรูเดิล เขาคิด..

( ความจริงที่เขาเป็นพวกรักการต่อสู้ หากแต่สัตว์ประหลาดไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้เขาคงนำเพื่อนๆไปสู่ถึงจุดหมาย .. ดี มันเป็นธรรมชาติทั่วไปของเด็กๆที่ไม่สามารถตัดสินใจผ่านใต้สถานการณ์เหล่านี้ )

จากจุดที่บาซิลลี่ ยืนมองอยู่ การตัดสินใจให้เด็กๆเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ และเธอได้ส่งบางสิ่งบางอย่างให้อาจารย์ของพวกเขาล่วงหน้า ในขณะที่รูเดิลยังคงอยู่กับการยอมแพ้ ร่างกายของเขาและเพื่อนบาดเจ็บเกิดกว่าจะเดินทางไหว บาซิลลี่เห็นอย่างนั้นทำให้เธอยอมแพ้ต่อการขายของ ของเธอที่จะขายให้แก่พวกเด็กๆก่อนหน้านี้

มันเป็นเพียงสิ่งที่บาซิลลี่ต้องการ แต่. . .

“ระ..เรา สามารถเดินทางไปได้อีกสักหน่อยไหม?”

“ชะ..ใช่ เพียงนิดเดียวเท่านั้น”

“อีกเพียงนิดเดียว แล้วเราจะไปพักที่นั่นกัน”

รูเดิลพยายามเรียกกำลังใจ แต่เมื่อมองผ่านอิซูมิและตัวของเขาไป จะพบกับเพื่อนที่ไม่สามารถกล่าวคำพูดพวกนั้น มันเป็นการปกป้องพวกเขาเองหรือเป็นความมีขาดสติของรูเดิล? ไม่มีใครสามารถอธิบายได้

แต่เมื่อรูเดิลได้มองเข้าไปในตาของเพื่อนร่วมชั้นที่อ่อนแรงเต็มที ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจ เราอยู่ในจุดที่ไม่สามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้ ไม่มีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บใดๆ และอาวุธของพวกเขาที่กองอันอยู่ในผ้าขี้ริ้ว ใบหน้าอันมอมแมม โดยการคลุกดินคลุกฝุ่นของพวกเขามันแสดงให้เห็นถึงว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะต่อสู้กับอะไรได้อีก และหามีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ พวกเขาเองที่จะได้รับอันตราย

มือขวาของรูเดิลถูกเปลี่ยนเป็นการกำหมัดอย่างแน่น และหลังจากที่เขาได้ฝืนใจและประกาศมัน . . .

“ชั้นของเรา .. ขอถอนตัว!!”

“อืมม เขาเป็นคนที่น่าแปลกดี”

บาซิลลี่ผู้ชาญฉลาด ถึงแม้ว่าเธอจะแปลกใจที่เห็นเด็กหนุ่มยืนยันเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง แม้ว่าพวกเขาจะขอถอนตัว แต่พวกเขาก็ยังคงน่าสรรเสริญ

บาซิลลี่ นำเขี้ยวของหมูป่าที่รูเดิลตัดขาดให้ในมือของเธอเองด้วยเหตุผลบางอย่าง

ควันสีดำที่ก่อตัวผ่านบริเวณต่ำๆของผืนป่า ค่อยๆจางลง เขี้ยวของหมูป่าคงเป็นเพียงสิ่งเดียว ที่แสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตภายป่าและเหตุผลบางอย่างที่พวกเขาขอถอนตัว แต่เขี้ยวของหมูป่าดูสวยงามราวกับมันมีมาเพื่อบาซิลลี่ เธอตัดสินใจเก็บมันลงในถุงของเธอในที่สุด

ตามกฎระเบียบของโรงเรียน เธอไม่ควรช่วยเหลือพวกเขาเว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะกำลังเข้าไปในปากของหมู่ป่านั่น ผู้ตรวจตราจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เว้นเสียแต่ว่านักเรียนเด็กนักเรียนปรารถนาที่จะได้รับการช่วยเหลือเหล่านั้น เธอได้มาช่วยเหลือเหลือพวกเขาได้ทันเวลา แต่…เขาไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีต่อการจ้างงานของเธอหรือไม่

เพียงแต่หากรูเดิล อดทนต่ออีกเพียงนิด . . .

“ฉันบอกว่า ฉันสามารถเดิน . . . โอ้ย!”

รูเดิลจอมหัวรั้นที่บอกว่าเขาสามารถเดินด้วยตัวเองได้ แต่เมื่อเขาก้าวเท้าเหยียบลงบนพื้นดิน ร่างกายของเขาก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย เขายืมไหล่จาก อิซูมิและบาซิลลี่พยุงในขณะที่เขาเดิน ความเมื่อยล้าของร่างกายจากการที่ใช้มานาในตัวจนหมดสิ้นรวมกับความเจ็บปวดและรอบช้ำที่มีมากจากการต่อสู้ ทำให้เขาอ่อนล้ามันมากเกินกว่าที่เขาจะเดินด้วยตัวเองไหว

“ถ้านายเดินด้วยตัวเอง และได้ตามหลังคนอื่นๆนายจะทำอย่างไร ? เราใกล้จะถึงแล้ว เพียงแค่คุณเอามือมาไว้ข้างหน้าของฉัน”

“สมกับเป็นบุตรชายคนโตของ อาร์ชดยุก แต่ตอนนี้ ร่างกายของคุณกำลังร้องไห้อยู่”

อิซูมิที่เป็นห่วงรูเดิลอย่างจริงจัง ในขณะที่บาซิลลี่กำลังใช้ร่างกายของเธอเป็นอาวุธเพื่อที่จะได้เข้าใกล้กับรูเดิลมากขึ้น .. การยืมไหล่จากความตั้งใจที่แตกต่างกัน แต่เขาก็มาถึงทางออกของป่า

เมื่อมองจากด้านหลัง มันเป็นภาพที่น่าอิจฉาเสียจริงๆ ผู้ตรวจตราคนอื่นๆก็ประจบขุนนางหนุ่มคนอื่นๆเพื่อจะขายร่างกายของตน

ใช่ เมื่อมองจากด้านข้างมันเหมือนรูเดิลถูกเสริฟมาพร้อมกับสาวงาม

และเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้าง ชั้นของอัลเลตเข้าถึงจุดหมายด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาเอง เมื่อเขามองเห็นรูเดิลที่กำลังเลอะเทอะมอมแมม ทัศนคติของการวางตัวก็ได้ปรากฏขึ้น ความจริงที่เขาสามารถถึงจุดเป้าหมายด้วยตัวเอง ความถือตนของเขาก็ได้เพิ่มพูนสูงขึ้นมาอีกนิด

“นายถอนตัวหรอ ? เป็นเรื่องน่าอายที่สุด ในป่านี้มีอะไรที่ต้องน่ากลัวหรอ นอกจะมอนสเตอร์ตัวเล็กๆที่แสนจะอ่อนแอ”

“นายมาจากบ้านอะไร? ช่างน่าสงสารเสียจริง”

“อัลเลต นายพูดมากไปแล้วนะ”

ใครบางคนในชั้นของรูเดิล กำลังพูดเตือนสติเขา นี่เป็นเหตุการณ์ที่รูเดิลได้จบคลาสของตัวเอง เขาเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ และใครจะว่า ‘ฉันรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะไปไม่ถึงเป้าหมาย’ เขาจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และภาพรูเดิลกับหญิงสาวผู้เปรียบเสมือนดอกไม้ดอกไม้ที่แขนทั้งสองได้เป็นอย่างดี

จาดความทรงจำของอัลเลต ความงี่เง่าของรูเดิลเขาถูกพยุงโดยทหารหญิงผู้งดงามและนักเรียนที่มีความงามเป็นอันดับหนึ่งของชั้นเรียน ‘อิซูมิ  อิระซากิ ’

ในเหตุการณ์นี้ความสนใจก็ยังคงเบี่ยงเบนมาทางรูเดิลเช่นเดิม อัลเลตเลือกที่จะออกไปเพื่อทำให้อิซูมิและทหารสาวประทับใจในตัวของเขา

“เมื่อนายได้ยกเลิกละถอนตัว พร้อมกับมีดอกไม้น้อยๆที่คอยพยุงในแต่ละแขนของนาย นายเห็นมันบ้างหรือไม่? ทำไมนายไม่มองปัญหาที่นายสร้างให้คนรอบข้างเขาเดือดร้อน”

สิ้นสุดคำพูดเหล่านั้น เสียงโห่ชั้นของอัลเลตก็ดังขึ้นให้กับ หัวหน้าชั้นอย่างรูเดิล  พวกเขาได้เสี่ยงชีวิตที่ต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ร้ายและอันตรายจากป่าไปพร้อมกัน พวกอัลเลตมีความจำเป็นที่จะต้องเยาะเย้ยเขาจริงๆหรอ? รูเดิลปล่อยแขนของเขาออกจากไหล่ของอิซูมิและบาซิลลี่ เพื่อเดินตรงไปยังหน้าของอัลเลต

“มันเป็นความจริงที่เราถอนตัวออก แต่เราได้เผชิญกับมอนสเตอร์ที่ดุร้าย และฉันก็เข้าใจเรื่องที่ฉันทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน”

รูเดิลรู้ว่าเขาเป็นคนจบคลาสเรียนของตัวเอง เขารู้ว่าตัวเขาสร้างปัญหา และใจจริงอัลเลตมีจุดประสงค์ที่จะกระตุ้นผู้อื่นให้เห็นถึงความอ่อนแอของรูเดิลต่อไปและที่อัลเลตกำลังหมายถึงตอนนี้ก็คือสาวงามทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของรูเดิล

“หืมมม แล้วมอนสเตอร์ที่พูดถึงนั่นคือตัวอะไรล่ะ?”

รูเดิลอธิบายถึงมอนสเตอร์ที่เขาเจอแก่อัลเลต มันเป็นมอนสเตอร์ ที่แสนจะดุร้าย ที่มีลักษณะคล้ายหมูป่า ร่างกายสีดำและเขี้ยวสีขาวอันแหลมคมของมันน่ากลัวมากนัก ยังไปถึงดวงตาสีแดงที่สามารถเรืองแสงได้ในความมืด เมื่อเขาเสร็จสิ้นจากการอธิบายลักษณะของมอนสเตอร์ อัลเลตก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่าาาาาาาา นายไม่มีทางมอนสเตอร์ที่ว่านั้นในป่าแห่งนี้ เจ้าโง่! ฟังนะ ถ้ามีสัตว์ที่อันตรายที่ว่าอยู่จริงเขาจะไม่มีทางจัดกิจกรรมที่ว่านี้ขึ้นมาได้ นายกำลังทำให้ตัวเองขายหน้า ในขณะที่คุณกำลังแก้ตัวโดยไม่สนใจพื้นฐานของความเป็นจริง”

เมื่อสิ้นคำพูดดูถูกของอัลเลต บาซิลลี่ยืนบางสิ่งที่เป็นตัวแทนของการต่อสู้ให้เขาดู ในขณะที่รูเดิล กับ อิซูมิพาเพื่อนร่วมชั้นของเขากลับไปพักด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงว่า จะอะไรกับเขานักหนา?

“ฉะ..ฉันขอโทษ รูเดิล”

“ฉันว่าเขาคงไม่เชื่อแน่ๆ ให้ฉันอธิบายกับอาจารย์?”

รูเดิลยืนแข็งราวกับหุ่นในขณะที่เพื่อนของเขากำลังเข้ามาปลอบโยน เพียงแต่รูเดิลกำลังประหลาดใจในข้อเท็จจริงที่ว่า ในชั้นของอัลเลต แทบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่กลับกันในชั้นของเขา ความบาดเจ็บที่ได้รับจากกิ่งไม้ ใบไม้ มีมากมาย … รูเดิลรู้สึกอับอายตัว

ในตอนนั้นรูเดิลรู้สึกผิดต่อเพื่อนเขาเป็นอย่างมาก เป็นเพราะหน้าที่ของเขาที่กำลังแบกไว้อย่างหนักอึ้ง เขา หันไปมองเพื่อนๆในชั้นของเขา

“ทุกคน ฉันต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากทุกคนยังมั่นใจในตัวของฉันแล้ว ฉันจะพาพวกเราขึ้นไปสู่อันดับที่หนึ่ง! ฉันรู้ว่าฉันอาจจะขอมากไป แต่…ได้โปรด”

รูเดิลยืนก้มหัวเพื่อขอโทษเพื่อนร่วมชั้นของเขา เขามีหลายอย่างที่อยากจะขอโทษ และอยากจะทำมันให้ดีขึ้น …และแน่นอน เสียงแรกที่ให้เขาเป็นผู้บังคับบัญชาต่อนั่นคือ .. อิซูมิ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด