ตอนที่แล้วAST บทที่ 44 การมาถึงของพิธีเฉลิมฉลองแห่งยุคสมัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 46 – เรื่องราวที่แท้จริง เมื่อชิงสุ่ยถือกำเนิด

AST บทที่ 45 – โอสถทลายอำนาจสวรรค์


บทที่ 45 – โอสถทลายอำนาจสวรรค์

เมื่องานเฉลิมฉลองปีใหม่จบลงเมื่อวิ้นเดือนและพิธีเฉลิมฉลองยุคสมัยก็เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา ชิงสุ่ยมีความสุขกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่เขาล้มซือตูปู้ฝานฝังในจิตใจทุกคน มันทำให้ทุกมองเขาใหม่

หมัดอสูรสันโดษ แม้จะถูกใช้ผ่านชิงฮูและชิงเป่ย มันยังคงทรงพลังกว่าเคล็ดวิชาอื่นๆ มันถูกเปิดเผยว่าชิงสุ่ยเป็นคนสอนพวกเขาทั้งสอง สมาชิกตระกูลชิงคนอื่นๆทำได้แค่มองอย่างอิจฉาริษยา เพราะอายเกินกว่าที่จะขอให้ชิงสุ่ยสอนเคล็ดวิชานี้

ชิงหลัวสังเกตเคล็ดหมัดอสูรสันโดษและพบว่ามันต้องใช้ความสุขุมที่สูงและมันมีความน่ากลัวในตัวเอง เขามาหารือกับชิงสุ่ยเพื่อว่าชิงสุ่ยจะเต็มใจช่วยให้สมาชิกในตระกูลชิงได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาหมัดนี้ ประเด็นหลักๆในการฝึกฝนหมัดอสูรสันโดษนั้น ผู้ฝึกต้องฉลาดหลักแหลมและมีแขนขาที่หยืดหยุ่น บุคคลเหล่านี้จะได้รับประโยชน์มากมายหากได้ใช้ควบคู่กับศาสตรวุธ

สำหรับชิงหลัว ชิงสุ่ยรู้ว่าเคล็ดหมัดอสูรสันโดษนั้นไม่ได้ถือเป็นความลับต้องห้าม เพราะเขาเองก็ได้สอนทั้งชิงฮูและชิงเป่ย

ชิงหลัวนั้นหวังให้ชิงสุ่ยนั้นไปขอร้องอาจารย์ของเขา(ผู้เฒ่าโบราณ) เผื่อว่าเขาจะสอนให้กับสมาชิกอื่นๆให้ได้รับประโยชน์อีกด้วย

“ไม่มีปัญหา” ชิงสุ่ยตอบกลับอย่างจริงใจ เขาตอบกลับได้เพราะ อาจารย์เฒ่าโบราณที่พูดถึงนั้น ไม่มีจริง และ การฝุกฝนเคล็ดหมัดอสูรสันโดษนั้น ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าเขาจะเขียนเคล็ดวิชาแจกไปทั่วหมู่ก็ไม่ถือเป็นปัญหาใดๆ  อย่างน้อยคนที่เขาจะสอนนั้นก็เป็นสมาชิกตระกูลเขาเอง

หลังจากที่ชิงหยูหายดี เขาเหมือนจมลึกลงในจิตใจ ในฐานะศิษย์เองในรุ่นที่ 3 ของตระกูลชิง แต่เขากลับไม่อาจหลบหมัดเพียงหมัดเดียวของซือตูปู้ฝานได้ เพียงเรื่องแค่นั้นเขาก็ทำให้ตระกูลชิงต้องเสียศักดิ์ศรีโดยน้ำมือของเขา

เมื่อมองดูความกดดันของลูกชาย ชิงเจียงพยายามปลอบใจเขาโดยการเล่าเหตุการณ์หลังจากนั้น ชิงหยูรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเกินจริง โดยเฉพาะที่ซือตูปู้ฝาน พ่ายแพ้ให้กับชิงสุ่ยในหมัดเดียว ถ้าไม่ได้มีผู้อื่นเป็นสักขีพยาน จะต้องไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอน หลังจากทราบเรื่องราว ชิงหยูสอบถามกับเพื่อนที่สนิท รวมทั้งสอบถามจากเหลียนยี ซึ่งเหลียนยีก็บอกเขาว่า มันคือความจริง

หลังจากนั้นดูเหมือนอาการซึมเศร้าของชิงหยูจะลดลง แต่ใบหน้าที่เย้ยหยิ่งของซือตูปู้ฝานนั้น ฝังลึกในจิตใจจนกลายเป็นฝันร้าย เขารู้สึกเสียใจที่ไม่อาจเอาค้อนคู่ฟาดลงบนหัวของซือตูปู้ฝานได้  แต่เขาก็ไม่อาจเชื่อคำบอกของผู้อื่นอธิบายในสิ่งที่ชิงสุ่ยทำเอาไว้ได้

ชิงหยูนั้นเป็นคนใจร้อน แม้เขาจะยังไม่หายดี เขาก็กระโดดออกจากเตียงมุ่งตรงไปหาชิงสุ่ย แม้ชิงเจียงจะเห็นชิงหยูวิ่งออกไปราวกับเงา เขารู้ว่านั้นคือธรรมชาติของเขา ดังนั้นไม่มีประโยชน์อันใดหากพยายามจะหยุดเขา

ชิงสุ่ยตกใจที่เห็นชิงหยูวิ่งมาหาเขา ไม่ใช่ว่าชิงหยูควรอยู่บนเตียงหรือ?เขาหายดีแล้วอย่างนั้นหรือ?ทำไมเขาถึงวิ่งมา?

“ว่าไง ชิงหยู เจ้าควรจะพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บของเจ้าก่อนนะ”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะมองไปยังลูกพี่ลูกน้องของเขา

ชิงหยูส่ายหัวแล้วเริ่มลงประเด็นที่เขาต้องการจะถาม

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเอาชนะซือตูปู้ฝานราวกับมันเป็นลูกสุนัข มันทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้นจริงๆ”ชิงหยูเหลือมองไปที่ชิงสุ่ย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ

ชิงสุ่ยรู้ว่าชิงหยูนั้นแข็งแกร่งที่สุดในสมาชิกรุ่นที่ 3 จากศาสตราวุธที่เขาเลือกนั้นก็บอกได้ถึงความแข็งแกร่งทรงพลัง

“ฮ่า ฮ่า  ข้ารำคาญความหยิ่งผยองของมัน โชคดีที่ข้าแข็งแรงพอจะต่อยมันให้ตกลานประลอง แค่คิดถึงภาพความหยิ่งผยองของมัน ข้าเองก็อยากจะซัดมันอีกสักที”ชิงสุ่ยคำรามเสียงหัวเราะออกมาขณะพูดคุยกับชิงหยู

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวที่อบอุ่นไปด้วยความรัก ลอยมาเหนือหัวเขา

มีเสียงสองเสียงมาจากอยู่เบื้องหลังเขา ชิงอีได้ยินการสนทนาของพวกเขาเกี่ยวกับซือตูปู้ฝาน

“ท่านแม่” “ท่านป้า”

“ชิงสุ่ย แม่ได้ให้ผลอัคคีผลาญศตวรรษทั้ง 6 ผลแก่ท่านตาของลูก เขาปลื้มปิติอย่างมากเมื่อได้เห็นพวกมัน และเขาก็บอกแม่ว่า เขามีบางอย่างจะให้ลูก ถือเป็นค่าตอบแทน” ชิงอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชิงสุ่ยอึ้งไปชั่วขณะ เขารู้ว่าชิงหลัวมีห้องเก็บสมบัติอยู่ในห้องลับของเขา ซึ่งทุกสมบัติทุกอย่างมาจากรุ่นก่อนหน้านี้ของตระกูล

หลังจากที่ชิงสุ่ยคล้ายความตกใจ ชิงอี้กวักมือเรียกพวกเขาทั้งสองให้ตามเธอไปพบกับชิงหลัว “ชิงหยู เมื่อหลานพบกับท่านตา หลานอย่าลืมของผลไม้นั้นมาสองผล แต่หลานไม่ต้องกังวลป้าจะช่วยเจ้าขอท่านปู้ด้วย”ชิงอี้กล่าวพร้อมทั้งลูบไหล่ของชิงหยู

“หากมีป้าอยู่ แน่นอนเขาจะต้องแบ่งให้หลานอย่างแน่นอน”

“ขอบคุณมาก ท่านป้า”ชิงหยูตื่นเต้นมาก เขาจะได้เพิ่มพลังของเขา เขารู้ว่าผลไม้นั้นจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาถึง 1000 จิน ใครกันละที่จะไม่หลงใหลมัน ถ้าพลังของเขาเพิ่มขึ้น อย่างน้อย เขาจะได้ต่อกรกับซือตูปู้ฝานได้บ้าง

หลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงบ้านของชิงหลัว ชิงหลัวกำลังผ่อนคลาย รดน้ำต้นไม้ในลานของเขา มันตั้งสูงตระหง่าน ชิงหลัวนั้นอายุสูงกว่า 100 ปี แต่อย่างไรก็ตามเขานั้นอยู่จุดสูงสุดของพลังปราณโฮ่วเทียน เขาจึงยังคงดูเหมือนชายวัยกลางคน เขานั้นเหมือนติดอยู่ในคำสาป หลังจากที่ภรรยาของเขาตายจากไป เขาก็ไม่เคยแต่งงานอีกเลย แม้ว่าเหล่าลูกหลานของเขาที่เติบโตในกลุ่มสมาชิกรุ่นที่ 2 จะสนับสนุนให้เขาแต่งงาน แต่เขาก็ปฎิเสธทุกคนที่ถูกพามา

“ท่านพ่อ” “ท่านตา”ทั้งชิงสุ่ยชิงหยูและชิงอี้กล่าวทักทายชิงหลัว

“ฮ่าๆๆๆ ดีมากๆ!!!!”ชิงหลัวอยู่ในภาวะมีความสุข ทุกคนต่างรู้ว่าเพราะชิงสุ่ย การกระทำของชิงสุ่ยที่ทำต่อซือตูปู้ฝานนั้นส่งผลต่อชื่อเสียง ทำให้ตระกูลชิงมีชื่อในเมืองร้อยไมล์ ในอนาคตการค้าระหว่างตระกูลชิงกับเมืองร้อยไมล์ พวกเขาก็จะไม่ถูกกดดันอย่างเหมือนเคย

อย่างไรก็ตาม เมื่อชิงสุ่ยเอาชนะหนุ่มผู้แข็งแกร่ง หนึ่งจากในสี่ตระกูลสวรรค์จากเมืองร้อยไมล์ได้ แน่นอนว่าเขาได้รับความภาคภูมิใจแต่จะมีคำท้าทายมากมายรอเขาที่เมืองร้อยไมล์ เพื่อรอคอยวันที่จะปลดปล่อยความแค้น

“ชิงสุ่ย เนื่องจากหลานนำผลไม้ร้อยปีมาให้แก่ตระกูลเรา ตาจะให้หลานเลือกสมบัติจากตระกูลชิงเรา เพราะกฏตระกูลเรานั้นไม่อาจรับน้ำใจที่ไม่หวังอะไรของหลานที่มีต่อตระกูลได้”ชิงหลัวกล่าว

มันเป็นครั้งแรกชิงสุ่ยเขามาในห้องนี้ ห้องนี้เป็นห้องง่ายๆปราศจากเครื่องตกแต่งใดๆ มีเพียงเตียง ชั้นวางหนังสือ และชุดโต๊ะเก้าอี้

“ท่านตา ท่านพูดอะไร เราเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ผลไม้ร้อยปีจะมีค่า แต่มันก็เหมาะที่จะอยู่ในมือของท่าน นอกเหนือจากนั้น หลานก็เป็นคนในตระกูลชิงด้วย”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างอบอุ่น ด้วยความมั่นคงในเสียงของเขาท่านตาของเขาทุ่มเทให้เขาเสมอ เขายังจำได้ว่าเมื่อเขายังเป็นเด็กชิงหลัวเดินทางไปยังเมืองร้อยไมล์เพื่อที่จะหาซื้อ โสมม่วง 100 ปีเพื่อให้เขาได้กิน

ชิงหลัวมีความสุขมาก เขาอยากทำตามคำขอของชิงสุ่ย แต่อย่างไรกฎก็ต้องเป็นกฎ ผู้ที่มีผลงานย่อมต้องได้รับสิ่งตอบแทน

เมื่อมองดูความมุ่งมั่นของชิงหลัว ชิงอี้จึงพยักหน้าเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้ชิงสุ่ยตัดสินใจเสี่ยงโชคของเขา...

“อืมมม ถ้าอย่างนั้น ท่านปู่ หลานต้องการโอสถทลายอำนาจสวรรค์”

*****เปลี่ยนจากสรรพนามปู่เป็นตา จะได้ตรงกับความจริง พ่อของแม่เรียกตา (ถึงมันจะแปลกๆหน่อย)*****

0 0 โหวต
Article Rating
5 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด