ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : เด็กผู้ชายผู้เห็นแก่ตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 : การเดินทางของเด็กหนุ่ม

ตอนที่ 2 : เด็กชายผู้ถูกเกลียด


รุ่งเช้าของวันต่อมา รูเดิลสลัดความขี้เกียจของตนเพื่อตื่นขึ้นมาวิ่งรอบปราสาทอีกครั้ง เขาเรียนรู้ที่จะควบคุมกับความมานะของตนเอง เขารู้ดีว่าหากเขาเลือกที่จะวิ่งในปราสาท เขาต้องโดนพ่อและแม่ดุเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะออกมาวิ่งข้างนอกของปราสาท ถึงตอนนี้เขามีความตั้งใจมากขึ้น และจะชัดเจนมากขึ้นกว่านี้หากเขาวิ่งบนผนังได้ และรู้ความเร็วในขณะที่เขากำลังวิ่ง

เขาจะวิ่งจนเสียงนาฬิกาท้องของเขาจะดังขึ้น นั่นทำให้มั่นใจได้ว่าเสียงท้องร้องของเขาบ่งบอกว่าเป็นสัญญาณเตือนว่าวิ่งมามากพอแล้ว เขาจะรีบกลับไปที่ปราสาทของเขาทันที และพบกับอาหารที่ถูกจัดเตรียมขึ้นไว้อย่างเรียบร้อย เขาทำเช่นนี้เป็นปกติทุกวันทุกวันและรับรู้ได้ว่าชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ภายใน 5 ปี

เขายังไม่ลืมที่จะรักษามารยาทตามความเหมาะสมเช่นเคยในขณะที่เขากินข้าว และไม่พลาด…

“ขอบคุณสำหรับอาหาร!”

คนรับใช้ที่เดินผ่านมาเห็นรูเดิลกำลังพูดอยู่คนเดียวเช่นนั้น ขนตามร่างกายของพวกเขาก็พร้อมกันตั้งขึ้นไปตามๆกัน  เขาเพียพูดอยู่คุยอยู่กับตัวเองในห้องที่ว่างเปล่า ระยะเวลา 5 ปีไม่เคยทำให้รูเดิลเปลี่ยนไป หากแต่รูเดิลแค่เพียงขอบคุณตามความรู้สึกของเขาเองเพียงเท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น รูเดิลไม่ได้รู้สึกโศกเศร้าแต่อย่างใด เขาเพียงแต่ต้องการที่จะเป็นดรากูนให้เร็วที่สุด เขาไม่มีเวลามากังวลเรื่องอื่นมากนัก และตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจถึงความเมตตาที่อัศวินแห่งมังกรจะต้องมี  เพราะที่ผ่านมาทุกสิ่งที่ถูกสอนให้กับเขามันมักจะเริ่มต้นด้วยการสอนในหนังสือเสมอ

เมื่อไม่นานมานี้รูเดิลถามอาจารย์พิเศษของเขาน้อยลง เพราะเมื่อเขาถามอาจารย์พิเศษกลับบอกให้เขาเลิกพยายามที่จะหาคำตอบ และหลายครั้งที่อาจารย์พิเศษไม่สามารถตอบคำถามที่เขาถามได้ เขาจึงหันมาเรียนรู้และหาวิธีหาคำตอบด้วยตัวของเขาเอง

เขาได้ร้องขอต่อพ่อแม่ของเขาหลายครั้งถึงการเปลี่ยนอาจารย์ใหม่ของเขา แต่พ่อแม่ของเขาไม่จริงจังในตัวเขามากนัก ด้วยเหตุผลที่ว่าน้องชายของเขา ‘ครัซ’ สามารถทำได้ดีกับอาจารย์คนนี้ และหากแต่อาจารย์ยังบอกอีกว่าน้องชายของเขาจะมีชีวิตที่ดีรอคอยอยู่ข้างหน้า

ถึงรูเดิลจะรู้สึกไม่ดีนักแต่รูเดิลก็ยังมีบุคคลที่เขานั้นเคารพ นั่นก็คืออาจารย์ผู้สอนดาบอดีตทหารรับจ้างของเขา และอาจารย์ยังไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับหนุ่มน้อยครัซ นั่นทำให้ครัซไม่ได้เรียนรู้วิชาดาบในสำนักดาบที่มีชื่อเสียง

และแล้ววันหนึ่งจุดเปลี่ยนของชีวิตก็ได้เขามาในชีวิตของเขา วันเกิดของน้องสาวคนที่สองเขา และใครกันที่จะเป็นคนที่สามในปีนี้

คนแรกเกิดของเขาชื่อเอสซิก้า ส่วนคนที่สองชื่อลีน่า หากแต่ทั้งสองได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์โดยที่เอสซิก้าเป็นพวกชอบความลุ่มหลงอย่างถึงที่สุด และลีน่าเป็นพวกเข้ากับใครได้ไม่ดีนัก

ใน courtois ผู้หญิงผมบลอนด์คือผู้หญิงที่จะพบมากที่สุด ลีน่ามักชอบอวดเส้นผมสีดำที่เงาสลวยและดวงตาสีดำที่เป็นกลประกายของเธอ แต่เธอมักจะเก็บตัวอยู่ในห้องของเธอเองมากกว่าที่จะออกมาพบกับผู้คน โดยที่รูเดิลจะอยู่ห้องชั้นบนและลีน่าจะอยู่ห้องชั้นล่าง

ในขณะที่รูเดิลจะเริ่มออกไปวิ่งในทุกๆเช้าหลังจากดวงอาทิตย์ขึ้นได้ไม่นาน เขาเลือกที่จะออกทางประตูหน้าอย่างรวดเร็วและกระโดดลงหน้าต่างแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมนัก ทันทีที่เข้ากระโดดลงหน้าต่างเขาเห็นลีน่ากำลังจ้องเขาเหมือนเขาเป็นบุคคลที่น่าสงสัย และหลังจากนั้นลีน่าก็จะตั้งนาฬิกาของเธอเผื่อตื่นมาดูเขาในทุกเช้าหลังจากที่เขาตื่น

ได้เวลาตื่นนอนจากความง่วงที่แสนจะดึงดูดตั้งแต่แสงแรกของดวงอาทิตย์เพิ่งจะเริ่มขึ้น เขาออกจากปราสาทและกลับมาในปราสาทเป็นเวลาเดียวกันในทุกๆวัน ลีน่าที่จับตามองเขาอยู่ถึงกับอึ้งไปสักครู่หลังที่มารู้ว่าเขาคู่พี่ชายของเธอจากแม่อีกคน

ลีน่าประทับใจในการกระทำของรูเดิลเป็นอย่างมากในเวลาต่อมา

“เจ๋ง!”

ลีน่าเป็นคนแปลกคนหนึ่ง เธอมีลักษณะนิสัยหลายๆอย่างที่คล้ายกับรูเดิล และลีน่าก็เริ่มติดตามรูเดิลไปในทุกๆที่เพื่อคอยระวังหลังให้เขา

“เธอมาทำอะไรตรงนั้น?” เขาพูดอย่างคนที่กำลังรำคาญ

“ห๊ะ!?” . .  รูเดิลเลือกที่จะเลิกคุยและแยกย้ายกันไป

วันหนึ่งหลังจากเสร็จวิชาฝึกดาบรูเดิลได้ตัดสินใจเข้าไปหาลีน่าก่อนที่จะเดินกลับห้องของเขาเอง เขาเฝ้าดูเธอมาสักระยะแล้ว แล้ววันนี้เขาเริ่มหมดความอดทนกับการกระทำของลีน่า

เมื่อเขาหันไปพบกับเด็กแปลกหน้าเขาเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง และนั่นคือความประทับใจครั้งแรกของรูเดิลเขาอยากทำความรู้จักเด็กผู้หญิงคนนั้น

“ยะ…โย” เขาพูดอย่างคนที่กำลังอยากจะวางเชิง

ในขณะนั้นลีน่าก็หันมาเริ่มจ้องมองเขา เธอเหมือนอยากจะทักทายแต่นั่นทำให้รูเดิลเองรู้สึกลำบากใจ เขาไม่เคยคิดอยากจะทำความรู้จักกับใคร

“…โย?”

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ลีน่าก็เริ่มที่จะกล้าเข้าใกล้รูเดิลมากขึ้น รูเดิลเองก็มีความสนใจในตัวเด็กหญิงคนนั้นเช่นเดียวกันตัวของเขาเหมือนรู้สึกร้อนพล่าน

และพวกเขาก็กินอาหารเช้าร่วมกัน

“แหวะ มันขมจัง”

เมื่อลีน่าเพียงแค่กัดเข้าไปถึงในตัวของผักเพียงน้อยนิด เธอก็ได้บ่นกับรูเดิลหากแต่รูเดิลกินมันมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เขาไม่ได้รังเกียจอะไร แต่ถ้าจะพูดกันจริงๆ รสชาติอาหารก็แย่อย่างที่ลีน่าบอก

“มันเต็มไปด้วยคุณค่านะ เธอต้องกินมัน เคี้ยว ไม่!เดี๋ยวอย่าเพิ่งกลืน! เธอต้องเคี้ยว!”

ความขมของรสชาติมันทำให้กระเพาะของลีน่าเหมือนสร้างหลุมดูกมันเข้าไป เธอกลืนไปก่อนที่จะได้เคี้ยวเสียอีก แต่เธอก็ยังคงแปลกใจรูเดิลที่ยังกินอาหารนี้เข้าไปได้

และเขาก็ยังสนใจที่อยากจะให้เธอกินมันเข้าไปเช่นกัน

“หนึ่งง…สองงง…สามมม เอ้า!?”

“สี่..”

รูเดิลมองหน้าเธอและครุ่นคิดในใจ เธออาจจะดูน่ารำคาญในตอนแรก แต่เธอก็ยังไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไรและเขาก็ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตขึ้นมาก แต่แล้ววันหนึ่งลีน่าก็เริ่มอาการไม่ดีเป็นหวัด เธอไม่สบายหนักขึ้นรูเดิลจึงพาเธอไปส่งที่ห้อง

แล้วรูเดิลก็เห็นเธอในวันต่อมา รเขารู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกที่ลีน่าไม่เป็นอะไร

“เหงาหรอ?” รูเดิลถาม

“ทำไม?” ลีน่าถามกลับอย่างคนขี้สงสัย

“ไม่มีอะไร ตอนนี้เธอต้องกินมั้น และต้องเคี้ยว อย่าเพิ่งกลืน!”

ในความจริงแล้วรูเดิลได้มีการสนทนากันมากกว่าจะกินอาหารเช้าเสียอีก เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอยากจะขอบคุณพระเจ้าของเขาจากใจ

วันต่อมา ครัซ และเด็กผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักเดินลงมาจากอีกฝั่งของปราสาท พร้อมกันกับรูเดิลที่เดินมาอีกฝั่งพร้อมกับลีน่า และแน่นอนเขากับลีน่าเลือกที่จะเดินข้างบนส่วนในทางของครัซเลือกที่จะเดินตรงกลางพร้อมกับผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นและเมื่อเขาต้องเดินสวนกันที่ห้องโถงพร้อมกับคนรับใช้ข้างหลังครัซที่ดูเหมือนจะเข้ามาดูสถานการณ์เสียมากกว่า. . .

“พี่ชาย นายจะไม่ถอยไปหรอกหรอ ?”

“ครัซ ฉันคือลูกคนโตของที่นี่ ฉันว่าตำแหน่งฉันสูงกว่านายนะ”

แม้จะเกิดกันคนละปีแต่คนรอบข้างส่วนมากคิดว่าารูเดิลนั้นเป็นคนบ้า ส่วนครัซคือเด็กผู้ชายที่แสนมหัศจรรย์

“รูเดิล ครัซนั้นกำลังจะรีบไป หากท่านไม่หลีกทางให้แล้วละก็ . ..”

คนรับใช้คนหนึ่งพูดขึ้น และแน่นอนรูเดิลไม่มีทางหลีกให้ครัซอย่างแน่ เขายืนอย่างใจเย็น นิ่งรับเหมือนกำลังรอชัยชนะเขารอให้อีกฝ่ายหลีกไป ครัซเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางของรูเดิล และเขามักจะได้ยินคนพูดบ่อยๆ

‘ หากไม่มีรูเดิล ครัซจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าอย่างแน่นอน  ‘

พวกเขาอยากจะบอกว่าเขาไม่ชอบทัศนคติของรูเดิลเท่าไหร่นัก และก่อนที่น้องสาวที่น่ารักของเขาจะหลีกทางให้รูเดิลเธอทำสิ่งที่รูเดิลคาดไม่ถึงคือเธอจับมือครัซแล้วเดินหลีดทางไปอีกทางหนึ่งเธอคือเอสซิก้าพี่สาวของลีน่านั่นเอง คนรับใช้ที่อยู่บริเวณนั้นรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ดีแน่ พวกเขาเลยเลือกที่จะเดินไปส่งครัซ เอสซิก้าหันหลังกลับมามองรูเดิล

“คุณมีอะไรกับเขา …?” เอสซิก้าถามครัซด้วยความอยากรู้ถึงความจริง

พี่น้องร่วมสายเลือดที่มีกำแพงขนาดใหญ่กั้นระหว่างพวกเขา . . .รูเดิลและครัซต้องบาดหมางกันอีกแน่ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด