ตอนที่แล้วตอนที่ 072 – หลอกลวง?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 074 – รอยแยกปราณ

ตอนที่ 073 – คำอธิบายของจิ่งเหา


ตอนที่ 073 – คำอธิบายของจิ่งเหา

 

จิ่งเหากำลังขัดกระบี่ของเขายามเมื่อถังเทียนพบเขา

จิ่งเหามองไปยังถังเทียนด้วยท่าทางปกติของเขา “มีอันใดงั้นหรือ?”

“ข้าต้องการไปจากสถานที่นี้” ถังเทียนกล่าวตามตรง “ข้าต้องการไปยังเมืองรุ้งดารา”

“ภายในสามเดือน รถม้าถึงจะมา ถ้าเจ้าบรรลุไปยังขั้นห้า เจ้าอาจจะจากไปพร้อมรถม้าได้” จิ่งเหากล่าวอย่างไร้อารมณ์

“ข้าหวังว่าจะจากไปในตอนนี้” ถังเทียนกล่าวอย่างจริงจัง

จิ่งเหาเมินเขาและตรวจเช็คกระบี่ของเขาอย่างระวัง ท่าทางของเขานุ่มนวลและมีสมาธิ ราวกับถังเทียนมิได้อยู่ตรงนั้น

“มันไม่มีทางอื่นแล้วหรือ?” ถังเทียนกล่าวอย่างไม่พอใจ

“ไม่” จิ่งเหามิได้หยุดมือของเขา “ถ้าเจ้าไม่บรรลุขั้นห้าและจากไปจากค่ายไปด้วยความคิดของเจ้าเอง เจ้าจะถูกตามล่าโดยสมาคมนักสู้แห่งแสง”

ใบหน้าของถังเทียนเปิดเผยถึงความโกรธ “บัดซบ” เมื่อคิดถึงว่าเขาไม่สามารถที่จะไปพบเชียนฮุ่ยในทันที เขาก็รู้สึกอารมณ์เสียอย่างสิ้นเชิง

“เจ้ามาที่นี่ได้เยี่ยงไรกัน?” จิ่งเหาวางกระบี่ของเขาลงและกล่าวถามอย่างลวกๆ

ถังเทียนอธิบายเหตุการณ์ต่างๆในการเดินทางของเขาที่มายังที่นี้อีกครั้ง ยามเมื่อจิ่งเหาได้ยินเรื่องสนามแห่งข้อบกพร่อง ก็ปรากฏความแปลกประหลาดบนใบหน้าของเขา มันดูคล้ายว่าถังเทียนมิได้เกิดเรื่องอันใดขึ้นตามทางที่เขาได้มา

“เข้าใจล่ะ” จิ่งเหากล่าวบางเบา “ข่งโหยวหลินเป็นคนจริง เขามักจะคิดว่าสนามแห่งข้อบกพร่องเป็นดั่งผลงานชิ้นเอกของเขา มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าได้ถูกส่งมาที่แห่งนี้เพราะเจ้าได้ทำลายมันไป”

เขาคิดว่าเขาได้สนิทกับใต้เท้าเสียอีก

“ไม่… เป็นไปไม่ได้…” ถังเทียนกล่าวตะกุกตะกักอยู่ในอาการงุนงง เขามิได้คาดคิดเลยว่าคำถามนั้นจะปรากฏออกมาเช่นนี้ เขาคาดคิดว่าใต้เท้าข่งจะเป็นคนดีเสียอีก

“ถ้าเจ้ามีพรสวรรค์ที่โดดเด่นก็จะมีอนาคตที่สดใส พวกเขาอาจจะมิได้ใส่ใจเรื่องนั้น และในทางตรงกันข้ามพวกเขาจะดูแลเจ้าอย่างดี แต่พรสวรรค์ของเจ้าย่ำแย่และยังทำลายสนามแห่งข้อบกพร่องอีก ข้าเกรงว่าเขาอาจจะคิดว่าความสามารถในปัจจุบันของเจ้าส่วนมากมาจากเส้นชีพโลหิตของเจ้า” จิ่งเหากล่าวมันหมดในทีเดียว

“เส้นชีพจรโลหิต?” ถังเทียนกล่าวถามด้วยความงุนงง

“ข่งโหยวหลินอาจจะเข้าใจผิดไป” จิ่งเหากล่าวอย่างลวกๆ แต่ในสายตาของถังเทียนเขาเห็นยินดีภายในความโชคร้ายของเขา

“เส้นชีพจรโลหิตมันคือสิ่งใดกัน?” ถังเทียนเหยียดแขนของเขาพลางกล่าวถาม

จิ่งเหาขมวดคิ้ว “สถานที่ใดที่เจ้าศึกษามาในก่อนหน้านี้กัน?”

“ข้าศึกษาที่ดาราอู่อันภายในเมืองเมฆาดารา” ถังเทียนกล่าวตามจริง “แต่ฐานะของข้าไม่ค่อยดี ข้าได้ฝึกฝนพื้นฐานวิชาการต่อสู้เป็นเวลาห้าปี ตอนแรกเริ่มข้าอยู่ภายในสถาบันสันติธรรมจากนั้นข้าก็ถูกไล่ออก ดังนั้นข้าก็เข้าร่วมกับสถาบันคาราเมล”

“เจ้าฝึกฝนพื้นฐานวิชาการต่อสู้เป็นเวลาห้าปีงั้นหรือ?” จิ่งเหายืดตัวของเขาตรงด้วยความตกใจ

“ถูกต้อง” ถังเทียนพยักหน้า

“ช่างน่าเสียดายนัก...” ดวงตาของจิ่งเหาเต็มไปด้วยความเสียใจและชื่นชม ช่างน่าเสียดาย...  ที่เขามิได้ฝึกฝนในวิชากระบี่...

“มันไม่ได้น่าเสียดายเลย!” ถังเทียนส่ายหัวของเขา “ข้ารู้สึกได้ว่าพื้นฐานวิชาการต่อสู้มันมีประโยชน์มาก”

“เจ้ากล่าวถูกแล้ว” จิ่งเหาแปรเปลี่ยนเป็นสุภาพแต่หัวร่ออย่างเย็นชา “ข่งโหยวหลินและกลุ่มคนของเขาช่างตาต่ำนัก พวกเขาเพียงรู้จักพรสวรรค์ตามกำเนิดเท่านั้น อย่าได้กังวล พวกเขาจะเสียใจเป็นแน่ เส้นชีพจรโลหิตรู้กันดีว่ามีพลังสะสมอยู่ภายในโลหิตของเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้ามิได้เก่งกาจเช่นนี้เนื่องเพราะเส้นชีพจรโลหิต”

จิ่งเหากล่าวช้าลง “ดูคล้ายว่าข้าจะต้องบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องภายในสมาคมนักสู้แห่งแสง สมาคมนักสู้แห่งแสงหลงใหลในความยิ่งใหญ่ และมันมีหลายฝ่ายอยู่ภายใน บางคนในพวกเขามีเจตนารมณ์แตกต่างกัน บางคนหวังเพียงผลประโยนช์ คำนวณจากพวกเขาทั้งหมดแล้ว มันควรจะมีประมาณสิบฝ่ายหรือมากกว่านั้น”

ถังเทียนตกตะลึง “มากกว่าสิบ… มิใช่ว่ามันกระจัดกระจายกันไปเลยหรือ?”

“ถูกต้อง” จิ่งเหามิได้ปฏิเสธและเห็นด้วยกับคำกล่าวของถังเทียน “ยามเมื่อสมาคมนักสู้แห่งแสงก่อตั้งขึ้นในคราแรก มันเป็นสมาคมที่ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก มันตกต่ำยิ่งกว่าภายในอดีต ตามปกติแล้วสิทธิ์ทั้งหมดจะถูกปกครองโดยหัวของหน่วยงานที่แตกต่างกัน น้องสาวของข่งโหยวหลินก็เป็นหัวหน้าของภูเขากลุ่มดาราอมตะ แต่ถ้าหากเจ้าสามารถเลื่อนขั้นได้อย่างรวดเร็ว เจ้าสามารถที่จะออกไปผจญภัยภายในเส้นทางสวรรค์ได้ แม้ว่ามันจะอันตราย ผลงานที่เจ้าได้สะสมมามันก็เหนือกว่าของผู้ที่ล้าหลัง”

ถังเทียนส่ายหัวของเขา “ข้าไม่ชอบสมาคมนักสู้แห่งแสงเลย”

“เป็นเพราะเจ้าถูกส่งมาที่นี่งั้นหรือ?” จิ่งเหากรอกตาของเขามองไปยังถังเทียน “มันเกิดขึ้นได้ทุกที่ มันไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นภายในสถาบันหรอกหรือ? มันเป็นเรื่องของมุมมอง”

“จะว่าเช่นนั้นก็ได้” ถังเทียนนึกถึงเกี่ยวกับโจวเผิงและพลันโล่งใจ ถังเทียนตบกำปั้นของเขาอย่างแน่น “แต่ ข้าจะต้องจัดการพวกเขาให้ได้!”

“แล้วเจ้าจะมีโอกาสนั้น” จิ่งเหาไม่ใช่แค่เพียงมีเจตนาจะชักจูงเขาแต่ก็ยังให้ส่งเสริมเขา “ถ้าเจ้าต้องการที่จะจากไป ข้าก็มีวิธี”

“วิธีการใดกัน?” ถังเทียนเงยหน้าขึ้น

“พวกเขาสามารถที่จะมอบตัวตนให้เจ้าออกนอกค่ายได้ซึ่งมันจะช่วยเจ้าได้ ข้าจะมอบตัวตนของนักสู้ขั้นโลหะให้เจ้า” จิ่งเหากล่าวอย่างไม่ลังเล “อย่างไรก็ตาม ข้าต้องบอกไว้ก่อนว่า เจ้าจะต้องเข้าร่วมนิกายของข้า”

“เข้าร่วมนิกายของท่าน?” ถังเทียนจ้องมองไปยังจิ่งเหาอย่างสงสัย

“ข้ามองเห็นศักยภาพของเจ้า” จิ่งเหากล่าวอย่างซื่อตรง “นอกจากนี้ เจ้ายังได้รับสืบทอดวิชาการต่อสู้ของผู้อาวุโสหนง ผู้อาวุโสหนงเป็นแกนนำของนิกาย มิมีผู้ใดคัดค้านในสิ่งนั้นได้ นิกายของพวกเราแสวงหาพลังอย่างดื้อรั้น โดยปกติพวกเราไม่มีภารกิจใดๆ ยามเมื่อเจ้าเข้าร่วม มันเพียงปกป้องผลประโยชน์ของสมาคมนักสู้แห่งแสง และสำหรับข้อขัดแย้งของเจ้ากับข่งโหยวหลิน สมาคมนักสู้แห่งแสงมิได้ใส่ใจ พวกเราก็มิได้ใส่ใจ เจ้าจะจัดการด้วยตัวเจ้าเอง”

หัวใจของถังเทียนพลันเต้นแรง “นักสู้ขั้นโลหะมันควรจะเป็นขั้นห้าสิ”

“ตามปกติแล้วใช่ อย่างไรก็ตาม ข้ามองเห็นศักยภาพในตัวเจ้า ด้วยความชอบธรรมและสิทธิพิเศษ ข้าสามารถที่จะมอบตัวตนขั้นโลหะให้เจ้าได้” จิ่งเหากล่าว จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างมีความหมาย “และในตอนนี้เจ้าก็บรรลุไปยังขั้นสี่แล้ว เจ้าก็ไม่ได้ห่างไกลจากขั้นห้าเลย”

“ตกลง!” ถังเทียนไม่แม้แต่จะขบคิด “แต่ ข้าต้องการไปยังเมืองรุ้งดารา!”

“มันไม่ใช่ปัญหา ข้าจะส่งเจ้าออกไป” จิ่งเหากล่าวอย่างสงบ “แต่ ข้าขอแนะนำว่าเจ้ายังไม่ควรไปในตอนนี้”

“ทำไมกัน?” ถังเทียนมองอย่างไม่เป็นมิตร

“ความแข็งแกร่งของเจ้ายังคงอ่อนแอนัก” จิ่งเหามิได้ปกติ “พลังของเจ้ามีความแข็งแกร่งกว่าขั้นสี่ปกติ แต่เจ้ายังคงห่างจากขั้นห้า แม้ว่าเมืองรุ้งดาราจะมิใช่สถานที่ยิ่งใหญ่ มันก็ทรงพลังเล็กน้อย ผู้คนทั้งหมดอย่างน้อยก็อยู่ในขั้นที่ห้าหรือเหนือกว่า ถ้าหากเจ้าไปในตอนนี้เจ้าจะมีแต่พ่ายแพ้ อยู่อย่างอดทนในที่นี่สักสามเดือน และข้ามั่นใจได้ว่าเจ้าจะรุดหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง”

“โกหก!” ถังเทียนไม่เชื่อ ในสามเดือนเนี้ยนะจะรุดหน้าเพิ่มหนึ่งขั้น แม้กระทั่งลุงทหารก็ไม่ได้โอ้อวดเช่นนี้

“เจ้าลองคิดดูว่าทำไมข้าถึงยังอยู่ที่ค่ายกองกำลังชั้นนอกนี้?” จิ่งเหาพลันย้อนถามกลับ

“บุรุษหัวล้านกล่าวว่าท่านล่วงเกินใครบางคน” ถังเทียนกล่าว

“แม้ว่าข้าจะเป็นเพียงนักสู้ขั้นทองแดง มันก็ยังไม่มีใครมีความสามารถพอที่จะส่งข้ามายังที่แห่งนี้” แม้ว่าใบหน้าของเขาจะสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงของเขาก็เปิดเผยถึงความหยิ่งผยอง เขาก็กล่าวต่อ “สาเหตุที่ข้ามายังที่แห่งนี้เนื่องเพราะมันมีข้อได้เปรียบในการบ่มเพาะในที่นี่”

“ข้อได้เปรียบของการบ่มเพาะ?” ถังเทียนตกใจ

จิ่งเหาพยักหน้า “ติดตามข้าในวันพรุ่งนี้และเจ้าจะได้รู้”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

มันไม่มีกลางวันหรือกลางคืนภายในโลกใต้ดินนี้ มันมีเพียงความมืดมิดทั่วทุกที ถ้าไม่ใช่เพราะแสงจากตะไคร่ มันก็คงมีเพียงความมืดมิดภายในสถานที่นี้

จิ่งเหาพบเห็นเครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ของถังเทียนก็ตกตะลึง มันเป็นคราแรกที่สายตาของเขาเปิดเผยความสงสัย “นี่มัน...คือเครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์งั้นหรือ?”

ถังเทียนดีใจและภูมิใจในตัวเขา “ถูกต้อง!”

จิ่งเหาเดินวนรอบเครื่องกลกระจอกเทศทองสัมฤทธิ์ราวกับเขาศึกษามัน ใบหน้าของเขาไม่มีความสงบหลงเหลืออยู่ ราวกับเขาเป็นทารกที่อยากรู้อยากเห็น เขาสัมผัสไปยังที่นั้นทีและที่นี้ที และมองทุกทีที่เขาสามารถมองเห็นได้ ถังเทียนมองไปยังเขาอย่างขบขัน เขามิคาดคิดว่าจิ่งเหาจะมีการแสดงออกในด้านนี้

“เครื่องกลโบราณมันช่างอัศจรรย์ใจนัก! ข้าเคยเพียงแต่ได้ยินเกี่ยวกับพวกมัน แต่มิเคยได้เห็นพวกมันมาก่อน ข้าไม่ได้เชื่อในก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้ ข้านับถือในความสามารถของผู้คนโบราณเหลือเกิน พวกเขาเก่งกาจมาก” จิ่งเหากล่าวชื่นชมและยืดตัวตรง จากนั้นเขาก็สำรวมน้ำเสียงของเขา “เก็บมันไป”

“เก็บมันไป?” ถังเทียนตกใจพลางกล่าวอย่างรีบเร่ง “วิชาตัวเบาของข้าเพียงระดับสาม ข้ามิสามารถตามท่านทันได้”

“การเคลื่อนไหวของมันเทอะทะไปและมันจะปลุกให้อสูรจิตวิญญาณดาราด้านใต้” จิ่งเหาเหลือบมองไปยังถังเทียนพลางกล่าว “นอกเหนือจากนี้ในฐานะนักสู้ เจ้าควรจะจดจ่อกับการพัฒนาตัวเองและไม่หยิบยืมเครื่องทุนแรงอื่นๆ นี่คือป้ายโลหะของเจ้าเพื่อใช้แสดงตัวเจ้าว่าคือนักสู้ขั้นโลหะ ทุกๆเดือน สิทธิที่เจ้าจะได้รับจะถูกส่งเข้าไป มันคล้ายคลึงกับศาสตราวุธคนโห ถ้าหากเจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการจะขาย เจ้าสามารถที่จะใช้มันส่งไปยังนักสู้คนอื่นได้”

“โอ้” ถังเทียนศึกษามันอย่างระวังขณะที่เขาเอามันไปแล้ว ป้ายโลหะมีขนาดเท่าฝ่ามือ แข็งและทนทาน มันรู้สึกหนักภายในมือของเขา ผิวของมันได้รับการตกแต่งเป็นลวดลายดอกไม้ที่ประณีต ตรงกลางของลวดลายดอกไม้มันเป็นดวงตะวัน

จิ่งเหาชี้ไปยังป้ายโลหะและกล่าว “ยามเมื่อเจ้าใช้ออกจิตวิญญาณนักสู้ของเจ้า เจ้าสามารถที่จะติดต่อกับผู้คนอื่นได้ และมันยังมีรูปแบบอีกมาก อย่าได้ทำให้หายไปล่ะ”

[คั่นหนังสือ : นี่มันไอเท็มมอลล์ชัดๆ มีทั้งซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยน แถมยังมีห้องแชทอีกด้วย และก็กำลังสงสัยอยู่ว่าตราสัญลักษณ์ของสมาคมนักสู้แห่งแสงจะเป็นอะไรที่แท้ก็ ‘พระอาทิตย์’ นี้เอง]

ในความจริงถังเทียนได้ลองที่จะใช้จิตวิญญาณนักสู้ของเขาเชื่อมต่อไปยังป้ายโลหะเพื่อติดต่อใครบางคนในทันที กลุ่มของชื่อก็ปรากฏขึ้นมา มันมีจิ่งเหาเป็นหนึ่งในนั้น แต่พวกที่เหลือก็เป็นสีเทา มีเพียงชื่อของจิ่งเหาเท่านั้นที่ส่องแสง ถังเทียนเห็นก็สัมผัสไปยังจิ่งเหา

จิ่งเหารู้สึกแปลกใจ เขาหยิบเอาป้ายทองแดงออกมาและดวงตะวันตรงกลางป้ายทองแดงก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีเทา

เขาเชื่อมต่อไปยังป้ายทองแดงและเขาก็ตกตะลึง ที่แท้มันคือถังเทียน!

จิ่งเหามิอาจสงบใจได้อีก ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่เขาอุทาน “เจ้าก่อสร้างจิตวิญญาณนักสู้ขึ้นได้แล้วงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง ข้าก่อสร้างมันเมื่อไม่นานมานี้” เสียงถังเทียนตะโกนขึ้น เขาเพียงคิดเกี่ยวกับมันและคำกล่าวก็เข้าไปยังหัวของจิ่งเหา ถังเทียนรู้สึกได้ว่าสิ่งนี้มันน่าสนใจอย่างยิ่ง ถังเทียนมักจะพบเห็นสมาคมนักสู้แห่งแสงเป็นสิ่งไม่ดีและคิดว่าพวกเขาต่างไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวลือกล่าวในสิ่งที่พวกเขาเป็น อย่างไรก็ตาม เมื่อยามที่เขาพบเห็นภายในป้ายโลหะ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าสมาคมนักสู้แห่งแสงทรงพลังเท่าใด

จิ่งเหามองไปยังถังเทียนด้วยอาการตกใจ เขาเชื่อในศักยภาพของถังเทียน ถ้าไม่เชื่อเขาก็คงไม่ติดสินบนถังเทียนด้วยการมอบตัวตนของนักสู้ขั้นโลหะ แต่เขามิคาดคิดว่าถังเทียนจะก่อสร้างจิตวิญญาณนักสู้ได้แล้ว ถังเทียนกล่าวว่าเขาเพิ่งจะก่อสร้างมันได้ไม่นานนี้ นั่นหมายความว่ายามเมื่อเขาอยู่ภายในขั้นสาม เขาก็สามารถก่อสร้างจิตวิญญาณนักสู้ของเขาได้แล้ว!

อยู่ขั้นสามแต่เขาก็ก่อสร้างจิตวิญญาณนักสู้ได้แล้ว ถ้าหากเขามิได้พบเห็นด้วยตาของเขาเอง จิ่งเหาก็ไม่มีวันเชื่อเขาเป็นแน่

นี่มันไม่สามารถที่จะทำได้ด้วยเพียงแค่มีเส้นชีพจรโลหิต!

จิ่งเหาพลันตระหนักได้ว่า เขาได้เก็บเกี่ยวสมบัติอันล้ำค่าแล้วในครานี้

หลังจากสูดลมหายใจเข้า จิ่งเหาก็กลับสู่ความสงบของเขาพลางเงยหน้าขึ้น “ไปกันเถอะ เจ้าจะมีเวลาที่จะศึกษามัน”

ถังเทียนได้ยินก็เก็บป้ายโลหะ

สองเงาก็สลายหายไปภายในความมืดมิด

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด