ตอนที่แล้วAST บทที่ 35 – ลิ้มรสผลไม้เสริมปราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAST บทที่ 37 – ตลาดยามราตรีท่ามกลางตัวเมืองวิหคอัคคีร่วงโรย

AST บทที่ 36 - กลับสู่ตระกูลชิง


บทที่ 36 - กลับสู่ตระกูลชิง

เวลาเกือบปี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยพร้อมกระเป๋าหลัง ได้เดินทางมาถึงเทือกเขาทิศประจิมซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านตระกูลชิง แสงจากท้องท่อแสงสีแดงสลับเหลืองบอกเป็นนัยๆว่าพลบค่ำกำลังใกล้เข้ามา ขณะที่ชิงสุ่ยจองมองจากทางไกล ภาพทางเข้าของบ้านตระกูลชิงเผยขึ้นในความทรงจำ มันเป็นภาพที่ดูสง่างาม ภาพทุกๆอย่างนั้นตราตรึงอยู่ในใจของเขามาโดยตลอด

เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ชิงสุ่ยเห็นคือชิงอี้ เมื่อเขาเห็นเธอ ความรู้สึกอบอุ่นสุดแสนจะพรรณนาเกิดขึ้นในใจของเขา เขาก้าวอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วที่น่ากลัวเพื่อตรงไปหาชิงอี้โดยไม่รู้ตัว

“ท่านแม่!!!” น้ำตาอาบบนใบหน้าของชิงสุ่ยโดยไม่ตั้งใจ ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขมาก คิดย้อนกลับไปประสบการณ์ต่างๆที่เขาต้องพบเจอนั้นเกือบทำให้เขาต้องสูญสิ้นชีวิต แต่เขายังคงรอดชีวิตมาได้เพื่อกลับไปหาแม่ของเขาอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ชิงอี้รับรู้ได้จากหัวใจ เมื่อมองตรงไป เธอเห็นชิงสุ่ยกำลังพุ่งเขามาข้างหน้าและเธอก็สวมกอดเขาไว้อย่างแนบแน่น

“ลูกของแม่ เจ้าร้องไห้ทำไม แม่รู้สึกว่าลูกดูดีขึ้นนะ ผมเจ้ายาวขึ้นอีกแล้ว เจ้าโตขึ้นจนสูงขึ้นมากเลยนะ”ชิงอี้ตบเบาๆลงที่หน้าผากของชิงสุ่ยพร้อมทั้งจัดระเบียบทรงผมอันรุงรังของชิงสุ่ย

“อ้า เกิดอะไรกับลูก สุ่ยเอ๋อ ทำไมถึงมีจุดสีม่วงบนหน้าผากของลูก มันน่าแปลกยิ่งนักแต่มันกลับทำให้เจ้าดูดีขึ้นมากจริง” ชิงอี้ถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเนื่องจากเธอสัมผัสเขากับจุดมุกสีม่วงที่อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วทั้งสองของชิงสุ่ย

“เอ๊ะ เออ ม่ะ ไม่ ไม่มีอะไรท่านแม่ ลูกเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน มันน่าจะเกิดจากแมลงสักตัวนึงกัดลูกเป็นแน่ เพราะลูกเดินทางออกไปตั้งครึ่งปี”ชิงสุ่ยรีบหาข้ออ้างเพื่อเปลี่ยนคำถามของชิงอี้ มันโชคดีมากที่ 2 เดือนที่ผ่านมา จุดสีม่วงจางลงเล็กน้อยจนไม่ทำให้เป็นที่สะดุดตา

“ท่านแม่ ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ล่ะ ท่านแม่ไม่ต้องเดินทางไปเมืองร้อยไมล์ก่อนปีใหม่หรือ?”

“ฮ่าๆ ใครจะคาดคิดว่ามันจะบังเอิญเช่นนี้ แม่มาที่นี้เพื่อรอวันที่จะได้พบเจอลูกสุ่ยเอ๋อ และสุ่ยเอ๋อก็กลับมาจริงๆ เมื่อสุ่ยเอ๋ออยู่ที่นี้ ปีนี้แม่จะไม่เดินทางกลับไปเมืองร้อยไมล์อีก”ชิงอี้บีบแก้มของชิงสุ่ยพร้อมทั้งเผยถึงความสุขผ่านด้วยตาของเธออย่างเห็นได้ชัด

ชิงสุ่ยรู้สึกถึงอารมณ์ที่อัดแน่นเป็นอย่างมากในหัวใจของเขา เขาไม่รู้เลยว่านานแค่ไหนที่ชิงอี้มายืนรอเขาตรงนี้ รอวันที่เขานั้นจะกลับมา แต่ที่เขารู้คือวันนี้จะต้องไม่ใช่วันแรกที่ชิงอี้มายืนรอเขาด้านนอกประตูทางเข้าบ้านตระกูลชิงอย่างแน่นอน

“ท่านแม่ หากสุ่ยเอ๋อครบกำหนดเป็นผู้ใหญ่เมื่อใด ในอนาคตลูกจะแบ่งเบาความทุกข์และภาระต่างๆของท่านแม่เอง และแน่นอน ท่านแม่ไม่ต้องกังวลทุกอย่างลูกจะจัดการให้เอง” ชิงสุ่ยเหลือบมองไปยังชิงอี้ ทุกอย่างที่เขากล่าวออกมานั้นมาจากความกตัญญู เขากล่าวออกมาโดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามความรักที่ทั้งสองมีให้กันนั้น แทบไม่สามารถกล่าวได้

“กลับบ้านเรากันเถอะ อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว แม่จะตัดชุดใหม่ให้ลูกได้ลอง”ชิงอี้กล่าวขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปยังที่พักตระกูลชิง

เมื่อมองดูตระกูลชิง ชิงสุ่ยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้นเลย ตอนนี้ก็ใกล้สิ้นปีเข้ามาทุกที เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศการเฉลิมฉลองที่ใกล้เข้ามา เช่น ตรงทางเข้าของตระกูลชิง และบริเวณตระกูลใกล้เคียง ต่างประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่พร้อมผ้าซาตินที่แขวนอยู่เหนือทางเข้า หากมองไปรอบๆจะพบกับเหล่าเด็กๆจากครอบครัวต่างๆกำลังเล่นอยู่บนถนน ส่วนเหล่าผู้ใหญ่ต่างจับจ่ายใช้ส่อยสินค้าต่างๆเพื่อใช้ในวันปีใหม่อย่างคึกคัก

ปีถัดไปใกล้เข้ามาอีกแล้ว!!

หลังจากเดินเข้าสู่บ้านตระกูลชิง สิ่งเดียวที่ทำให้เขาต้องงุ่นงงคือการที่เหล่าเยาวชนที่เคยเย็นชากับเขากลับริเริ่มที่จะทักทายเขาอย่างอบอุ่นขณะเดินผ่านเขา เมื่อเป็นเช่นนั้นชิงสุ่ยทำได้เพียงยิ้มให้

“ชิงสุ่ย เจ้ากลับมาแล้วนิ เจ้าคงพึ่งกลับมาสินะ?” ขณะที่ชิงไฮกำลังจะออกไปข้างนอก เขาก็ได้พบกับชิงอี้และชิงสุ่ย เขาจึงหยุดและกล่าวต้อนรับการกลับมาของชิงสุ่ยอย่างอบอุ่นโดยที่ชิงสุ่ยไม่ทันได้พูดอันใด

“มันเป็นเรื่องที่ดีนะ ที่เจ้ากลับมา แม่ของเจ้าไปยืนรอเจ้าที่ประตูทางข้าวของตระกูลทุกวัน ตั้งแต่เช้าถึงค่ำเป็นเวลาเกือบเดือน!!! ตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว เจ้าจะต้องดูแลแม่ของเจ้าให้ดี” ชิงไฮกล่าวอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่ต้องการจะมองดูสายตาของชิงอี้ที่กำลังลุกลน

“ทะ ทะ ท่านแม่”ชิงสุ่ยพูดติดอ่างก่อนที่เสียงจะออกมาอย่างเต็มที่

ชิงสุ่ยรู้ทันทีว่าในหัวใจของชิงอี้ เขานั้นเป็นคนที่สำคัญอย่างมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอได้ตกลงให้ชิงสุ่ยออกจากหมู่บ้านตระกูลชิง เขารู้ว่าเธอนั้นไม่เต็มใจ แม้ว่าในจิตใจของเธอนั้นจะเต็มไปด้วยความกังวลและความหวาดกลัว แต่เธอเลือกที่จะไม่พูดแม้แต่คำเดียว เธอเลือกที่จะเก็บความทรมานนั้นไว้เงียบๆคนเดียว

หลังจากนั้นเพียงชั่วครู พวกเขาได้เดินมาถึงลานก่อนถึงบ้าน หลังจากเข้าสู่ที่พัก ชิงสุ่ยวางกระเป๋าสะพานลงและมีความคิดเกี่ยวกับผลเสริมปราณที่อยู่ในนั้น

“ท่านแม่ ลูกบังเอิญพบเจอผลไม้ที่แสนจะวิเศษขณะที่ลูกผจญภัย”ขณะที่กำลังพูดคุย ชิงสุ่ยเปิดกระเป๋าสะพานพร้อมทั้งเอาผลเสริมปราณสีแดงเลือดวาววับออกมา

“ผลอัคคีผลาญศตวรรษ”ชิงอี้อุทานพร้อมกับอาการตกใจอย่างยิ่ง

ชิงสุ่ยเองก็ตกใจเป็นอย่างมากด้วย ที่คิดว่าผลเสริมปราณที่อยู่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะนั้นจะมีอยู่บนโลกภายนอกด้วย มันอาจจะดีก็เป็นได้ที่มันจะช่วยอธิบายความเป็นมา

“ท่านแม่ ท่านรู้จักผลไม้ชนิดนี้หรือไม่?”ชิงสุ่ยถามด้วยอาการตกใจ

“นี้คือผลอัคคีผลาญศตวรรษ มันจะเติบโตได้เฉพาะบริเวณใกล้เคียงกับภูเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าพันปี มันจะใช้เวลานับ 100 ปีเพื่อที่จะโตและสุกงอม และเมื่อครบกำหนด ผลของมันจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับมนุษย์ได้ทันที 500 จิน แต่มันไม่หมดแค่นั้น มันยังช่วยปรับแต่งร่างกายของผู้ที่กินมันเข้าไปอีกด้วย นอกจากนี้หากอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีความพิเศษผลของมันจะยิ่งรุนแรงกว่าเดิม ผลไม้ชนิดนี้นั้นมีคุณค่ามาก หากนำมันมากลั่นเป็นเม็ดโอสถ ระดับของมันที่ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ก็อยู่ในระดับล้ำค่า!!!” ชิงอี้อธิบาย

ผลลัพธ์ของมันนั้นชิงสุ่ยรับรู้ทั้งหมดแล้ว เพียงแต่ชื่อที่เขารู้นั้นต่างไปจากเดิม แต่เมื่อได้ยินชื่อใหม่ของมันนั้น “ผลอัคคีผลาญศตวรรษ”ชื่อของมันช่างดูไร้สาระยิ่งนัก

“ช่างน่าเสียดาย”

“ช่างน่าเสียดายจริงๆ” ชิงสุ่ยแสดงความรู้สึกเสียใจ

“มันช่างน่าเสียดายจริงๆที่มนุษย์เรานั้นกลับกินมันได้เพียง 2 ผล ไม่เช่นนั้นทั้งแปดผลที่เหลือคงจะเพิ่มพลังได้เป็นอย่างมาก”

“ท่านแม่ผลไม้พวกนี้นั้นดูธรรมดายิ่งนัก ลูกได้กินพวกมันไปสองลูกแล้ว หลังจากนั้นมันก็เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับลูก ลูกจึงตัดสินใจนำมันกลับมาให้ท่านแม่ ผลไม้พวกนี้คงช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งพร้อมทั้งปรับแต่งร่างกายให้ท่านแม่ได้ ท่านรีบกินมันทั้งสองลูกเลย!”

ชิงอี้ไม่ได้คิดจะกินมันเข้าไปในตอนแรกเพราะเธอต้องการที่จะเก็บไว้ให้กับชิงสุ่ย แต่เมื่อเธอรับรู้แล้วว่าชิงสุ่ยได้กินมันเข้าไป 2 ลูกแล้ว เธอจึงไม่ลังเล

“ท่านแม่รีบกินผลไม้ทั้ง 2 ลูกนี้เลย ท่านแม่ไม่ต้องห่วง สถานที่ที่ผลไม้นี้ขึ้นนั้น มันถูกซ่อนอยู่ลึกลับมาก ลูกรับรองได้เลยว่าจะไม่มีใครสามารถหามันเจอได้ ยกเว้นตัวลูกเอง!”ชิงสุ่ยโกหกมากขึ้นและมากขึ้น

การโกหกอย่างนึงจะนำไปสู่การโกหกอีกอย่างจนไร้ที่สิ้นสุด

จากการเร่งของชิงสุ่ย เมื่อชิงอี้กินมันเข้าไป เธอได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในทันที 1000 จิน มันทำให้ชิงสุ่ยเกาหัวด้วยความสับสน เขายังคงสงสัยถึงเหตุผลที่เขาได้รับพลังที่แตกต่างกัน เมื่อเขากินมันครั้งแรกในตอนที่เขาอยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ

หลังจากนั้นชิงอี้ก็ได้เก็บผลเสริมปราณที่เหลือใส่ในผ้าซาตินที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากเมืองร้อยไมล์แต่ผ่านการถักทออย่างปราณีตซับซ้อนในรูปแบบชุดเสื้อผ้า ชิงสุ่ยบอกได้ทันทีว่าแต่ละชุดที่ได้รับการปรับแต่งจากมือของชิงอี้นั้น ก็เพื่อตัวของเขาเอง

หากมองจากข้างหลัง เขานั้นดูหนุ่มแน่นมาก เสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นถูกถักด้วยมือของชิงอี้

“มานี้มาลองสวมใส่มันให้แม่ดู” ชิงอี้เรียกอย่างมีความสุข

ชิงอี้ช่วยชิงสุ่ยสวมใส่เสื้อซาตินสีม่วง มันถูกสวมใส่ได้อย่างพอดิบพอดี ไม่มีใครจะรู้เกี่ยวกับตัวของเขาดีไปกว่าชิงอี้ แม้แต่เขาเองก็ไม่ รวมทั้งขนาดของรองเท้าที่เขาสวมใส่

“ลูกชายของข้าดูเหมือนเจ้าชายมากๆ!!!!” ชิงอี้กล่าวขณะชื่นชมชุดเสื้อผ้าใหม่ของชิงสุ่ย ทั้งยังหัวเราะ รอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าของชิงอี้นั้นช่างดูบริสุทธอย่างยิ่ง เธอในตอนนี้นั้นช่างส่องประกายยิ่งนัก ชิงสุ่ยรู้สึดมีความสุขอย่างยิ่งที่เขาได้มีแม่ที่ดีอย่างชิงอี้

แม่นั้นให้ความรักกับเขาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!!!!

0 0 โหวต
Article Rating
8 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด