ตอนที่แล้วตอนที่ 059 – จิ่งเหาแห่งกองกำลังชั้นนอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 061 – อุโมงค์ของจิตวิญญาณขุนพล

ตอนที่ 060 – บุรุษหัวล้านเปียวเกอ


ตอนที่ 060 – บุรุษหัวล้านเปียวเกอ

 

“ว่าไง? เจ้าจะต้องการให้ข้าค้นเองงั้นหรือ?” บุรุษหัวล้านหัวร่ออย่างเย็นชา เดินก้าวมาข้างหน้าอย่างอุกอาจด้วยสีหน้าที่ดุร้าย และร่างของเขาก็ดั่งปราการเหล็กทำให้ผู้คนหวาดกลัว

เหล่าเด็กคนอื่นต่างเงียบกริบด้วยความหวาดกลัว ผิวซีดราวกับคนตาย เริ่มโยนออกสิ่งของของพวกเขาลงบนพื้นอย่างเชื่อฟังเงียบๆ

บุรุษหัวล้านแสยะยิ้มพลางกล่าว “ข้าชื่นชอบคนฉลาดเป็นที่สุด ผ่อนคลายเถอะ ตราบเท่าที่เจ้าติดตามข้า เปียวเกอ พวกเจ้าจะมีอาหารให้กิน!”

ส่วนที่เหลือเบื้องหลังเขามองดูอย่างเงียบๆ

“หื้ม” สายตาของเปียวเกอพลันมองไปยังถังเทียน และหรี่ตาของเขา “ข้ามิคาดคิดเลยว่า จะมีคนละทิ้งโอกาสอันดีงาม!”

เขาบีบกำปั้นของเขา ด้วยรอยยิ้มที่อุบาทว์ ร่างของเขาราวกับปราการเหล็กเหยียดยาวเปิดกว้าง ฝ่ามือของเขาปลดปล่อยรังสีแสงสีทอง เปล่งประกายสีทองของปราณแท้จริงของทองธาตุ ซึ่งทำให้เหล่าเด็กที่เหลือสีหน้าดูแย่ลง หลายคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ราวกับพวกเขาได้ปลดเปลื้องภาระอันหนักหน่วง

โชคดีนักที่ข้ามิได้ต่อต้านเมื่อครู่...

เปียวเกอมองกวาดไปยังถังเทียน ดวงตาของเขาแสดงให้เห็นความโลภในทันที และเขาก็เอ่ยปาก “ปรากฏว่าเจ้าได้มีสิ่งของค่อนข้างดีอยู่สองสามอย่าง มิน่าล่ะเจ้าถึงไม่เต็มใจ!”

ถังเทียนพึมพำกับตัวเอง “ที่นี่ข้าคาดคิดว่ากองกำลังชั้นนอกจะมีผู้คนในระดับสูงเสียอีก ท้ายสุดแล้วกลับกลายเป็นว่ามีกลุ่มเล็กกระจ้อยของนักเลงหัวไม้”

“เล็ก...นักเลงหัวไม้เล็กๆ!” เปียวเกอตะลึงและโมโหในทันที มันมิเคยมีผู้ใดกล้าที่จะเรียกเขาว่านักเลงหัวไม้เล็กๆ!

สาวเลว! เจ้าตายแน่!

สีหน้าของเปียวเกอกลายเป็นหมองคล้ำ และปราณแท้จริงของเขาก็โคจรอย่างรุนแรง เขาตัดสินใจแล้วจะทุบตีสารเลวน่ารังเกียจเบื้องหน้าของเขาให้เละ ในที่นี่นอกเหนือจากใต้เท้าจิ่งเหาแล้วมิมีผู้ใดที่ไม่อาจเชื่อฟังเปียวเกอ!

เปียวเกอตะโกนอย่างดุร้าย กระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรง ทำให้พื้นแยกออกจากกัน หยิบยืมพลังจาก [รองเท้าสปริง] ของเขา ร่างของเขาราวกับปืนใหญ่ พุ่งตรงไปยังถังเทียน

ปรากฏเงาของฝ่ามือแสงสีทอง ด้วยพลังที่น่าทึ่ง กรีดผ่านไปยังถังเทียน

[ฝ่ามือคิงคอง] ระดับสี่!

ฝ่ามือคิงคองเป็นพื้นฐานวิชาฝ่ามือของทองธาตุ รู้จักกันดีในความหนักแน่นและดุร้าย ยามเมื่อฝึกฝนไปถึงจุดสูงสุด เงาของฝ่ามือคิงคองสามารถที่จะทำลายได้แม้กระทั่งทองและโลหะอย่างง่ายดาย

แววตาเย็นชาปรากฏบนดวงตาของถังเทียน เขาตั้งกระบวนท่าขี่ม้าในตำแหน่งที่เขายืนอยู่ และหมัดขวาของเขาก็หดไปยังเอวของเขา

[หมัดจุลวินาศ]!

ไม่มีรังสี ไม่มีเสียง ภายในดวงตาของผู้คนปรากฏความดูแคลนในหมัดของเขา หมัดขวาของถังเทียนพุ่งตรงปะทะกับฝ่ามือคิงคอง กายากระเรียนภายในร่างของเขาก็ทะลวงออกมาเสียงดัง

คลื่นของพลังไม่สามารถตรวจพบได้จากเงาฝ่ามือคิงคองสีทอง

ปุ!

เงาฝ่ามือที่รู้สึกคล้ายกับแผ่นเหล็กสี่เหลี่ยมแข็งๆ พังทลายลงเป็นเศษทองเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนและสลายหายไปในอากาศ

ร่างของถังเทียนไม่ขยับเขยื้อนสักนิด แต่บุรุษหัวล้านเปียวเกอถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนที่จะฟื้นคืนตั้งสติของเขาได้

ทุกคนต่างเงียบกริบ สีหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวและตกใจ นั่นเป็นไปไม่ได้! ด้วยพลังของพวกเขาทั้งหมด แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่บรรลุถึงขั้นสี่ พวกเขาก็อยู่ในจุดสูงสุดของความสมบูรณ์ขั้นสาม ดังนั้นพวกเขาจะไม่สามารถเห็นความแตกต่างระหว่างนักสู้ทั้งสองคนได้เยี่ยงไร? เปียวเกอนั้นอยู่จุดสูงสุดของความสมบูรณ์ขั้นสี่ และเพื่อจะบรรลุขั้นห้าช่องว่างเพียงเบาบางเท่ากับกระดาษเท่านั้น แต่ถังเทียนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอยู่ขั้นสาม!

หมัดจุลวินาศของระดับสาม เป็นไปได้เยี่ยงไรที่จะสู้กับ [ฝ่ามือคิงคอง] ระดับสี่?

เปียวเกอเข้าใจอย่างลึกซึ้งภายใน [ฝ่ามือคิงคอง]... แต่ทำไมเปียวเกอถึงพ่ายแพ้กัน...

ทุกสิ่งที่เพิ่งได้เกิดขึ้นไป มันช่างท้าทายสามัญสำนึกของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

มันช่างแปลกประหลาดนัก ช่างยากที่จะเชื่อได้!

สีหน้าของเปียวเกอเปลี่ยนไป เขาหรี่ตาของเขา และเริ่มที่จะสำรวจไปยังถังเทียนอีกครา มันเป็นเพียงหมัดเดียว แต่ภายในใจของเขาก็ตระหนักได้ว่า เขาได้พบเจอบุคคลที่ยากจะตอแยแล้ว! เป็นไปได้อย่างไรกันที่วิชาหมัดระดับสามจะแข็งแกร่งเช่นนี้? หรือเจ้าสารเลวตัวนี้มีเจตนาปกปิดพลังของเขาไว้?

ถังเทียนยืนตัวตรง และเริ่มที่จะเหยียดขยายและผ่อนคลายแขนของเขา ทำการอบอุ่นร่างกายของเขาและกล่าว “ข้ามิได้ต่อสู้มาเนินนานแล้ว!”

การถูกทรมานทั้งวันทั้งคืนโดยลุงทหารจนเขาปรารถนาที่จะตายตก ขณะที่ไม่มีโอกาสที่จะได้ชำระแค้น ถังเทียนรู้สึกโมโหอย่างจริงจัง แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นการฝึก หลังจากที่ได้นอนหลับ ทั่วร่างของเขาก็ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และเขาก็รู้สึกว่าร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังราวกับมันไม่มีที่สิ้นสุด ในที่สุดก็ได้พบใครบางคนที่จะได้ท้าทาย ถังเทียนอดกลั้นความต้องการต่อสู้มาหลายวัน มันราวกับโยนประทัดลงไปในกระทะร้อน

ขณะที่บริหารร่างกาย ถังเทียนก็พ่นลมหายใจด้วยความเศร้า ขณะที่เขาก็ควบคุมตัวเองไว้ “แท้จริงแล้วข้าก็มิได้ทำตัวเป็นจอมเผด็จการมาหลายปีแล้ว…”

ทุกคนจ้องมองถังเทียนอย่างว่างเปล่า

หลังจากอบอุ่นร่างกายแล้ว ถังเทียนก็รู้สึกว่าเขาอยู่ในสภาพที่เหมาะสม เขาก็หยุดลงเอนตัวออก จ้องมองจดจ่อไปยังเปียวเกอและกล่าว “นี่ หัวล้าน เจ้ากล้าที่จะท้าทายบุรุษหนุ่มเทพผู้นี้ เจ้าได้ตายแน่!”

เมื่อเสียงหนักแน่นของเขาดังออก เขาก็ราวกับศรหลุดออกจะแหล่ง ‘ฟิ้ว’ ตรงไปยังเปียวเกอ

เปียวเกอตื่นตัวอยู่ตั้งแต่เริ่มต้น ขณะที่หมัดของถังเทียนทำให้เขาระมัดระวังตัวอย่างมาก แต่เขาก็สามารถกลายเป็นบุคคลสำคัญอันดับสองของกองกำลังชั้นนอกภายในสุสานยักษ์แห่งนี้ ด้วยความสามารถของเขาเอง ด้วยประสบการณ์ต่อสู้อันมากมายของเขา เขาก็มีความมั่นใจในตัวเอง เขาได้แตะไปถึงประตูของปราณแท้จริงขั้นห้าแล้ว และยามเมื่อเขาบรรลุสู่ขั้นห้า เขาสามารถที่จะกลายเป็นนักสู้ขั้นโลหะได้ เขามีบุคลิกที่รุนแรงและดุร้าย โหดร้ายต่อผู้คน และโหดร้ายต่อตัวเองเช่นเดียวกัน ผู้คนอื่นต่างเชื่อว่าพวกเขาต่างถูกเนรเทศ แต่เขายังคงฝึกฝนตัวเองตลอด ตราบเท่าที่ปราณของเขาบรรลุถึงขั้นห้าอย่างแท้จริง เขาก็จะสามารถออกจากสถานที่บัดซบแห่งนี้ได้

เปียวเกอแค่นเสียง ปราศจากอาการตื่นตระหนก เขายินดีที่จะตุบทีร่างของถังเทียนด้วยมือของเขา

สามลำแสงฝ่ามือสี่เหลี่ยมสีทองแยกเป็นสองเส้น หนึ่งอยู่บนอีกหนึ่งอยู่ล่าง ปรากฏเป็นตัวอักษรสวยงาม พุ่งตรงไปยังถังเทียน กระบวนท่านี้เรียกว่า [มหัศจรรย์คิงคอง] และมันเป็นระดับที่ยากยิ่ง ตอนนี้แม้ว่า [มหัศจรรย์คิงคอง] จะรุนแรง มันก็เชื่องช้ามากที่จะใช้ออกและมันเป็นที่รู้กันดีของทุกคน สามลำแสงสีทองของฝ่ามือปกคลุมกลางอากาศและก่อเกิดเป็นสามเหลี่ยมสีทองราวกับมันเป็นกำแพง พลังของมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มันปะทะไปยังถังเทียน

แท้จริงแล้วมันคือวิชาฝ่ามือระดับสี่

ปราณแท้จริงที่ถูกปลดปล่อยออกมาสามารถที่จะก่อเกิดเป็นรูปแบบต่างๆมากมาย!

ถังเทียนมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างของเขา เขาปรารถนาที่จะเพิ่มการต่อสู้ของเขา เพื่อที่จะสามารถรู้จักนักสู้แตกต่างกัน ความแข็งแกร่งที่ต่างกัน มันช่างมีความสุขนัก!

กำแพงแสงสีทองพุ่งชนไปข้างหน้า ไม่มีพลังอันใดเพียงพอที่จะต่อต้านมันได้!

สูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาของถังเทียนก็เต็มไปด้วยความต้องการต่อสู้ ปราณแท้จริงภายในร่างของเขาก็บรรลุไปถึงจุดสูงสุด เขามิได้หลบเลี่ยง ความเร็วของก็มิได้ลดลงเช่นเดียวกัน

กำแพงแสงสีทองเหินไปยังเขาด้วยความเร็วอย่างมาก มันเติบโตใหญ่ขึ้นภายในดวงตาของเขา ถังเทียนปลดปล่อยปราณของเขาและชกออกด้วยมันของเขา!

กายากระเรียนกระตุ้นกระบวนท่าสังหาร [หมัดมหาวินาศ]!

ปัง!

กำแพงสีทองที่แข็งราวกับเหล็กที่ส่องประกายราวกับหิมะ มันก็ระเบิดออกอย่างฉับพลัน ลำแสงของเงาที่โดดเด่น พุ่งโถมอย่างเกรี้ยวกราด ทะลุกำแพงสีทองประกายหิมะและตรงไปยังเปียวเกอ

การแสดงออกของบุรุษหัวล้านเปียวเกอเปลี่ยนไป เขาหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ พลังขั้นแรกของฝ่ามือคิงคองของเขามิเคยล้มเหลวภายในมือเขามาก่อน อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ก็สามารถใช้วิชาการต่อสู้ระดับสามบดขยี้พลังขั้นแรกของฝ่ามือคิงคองของเขาได้

สารเลวตัวนี้… มันมาจากที่ใดกัน?

ถังเทียนผู้ซึ่งอยู่ภายในอากาศแปรเปลี่ยนหมัดของเขาไปเป็นกรงเล็บ และราวกับมันเป็นเหยี่ยวที่กำลังจะกินกระต่าย เขาตะครุบไปยังเปียวเกอ

กรงเล็บเหยี่ยว!

ถังเทียนถูกทรมานภายในค่ายทหารเกณฑ์จนเชี่ยวชาญกรงเล็บเหยี่ยว มันแข็งแรงนัก นิ้วของเขาราวกับตะขอ เสียงกรีดร้องของมันราวกับเหยี่ยวที่กำลังเหินบิน

แหลมคมดุร้าย แข็งแรงและยากที่จะทำลาย!

บุรุษหัวล้านเปียวเกอหลั่งเหงื่อเย็น ขนบนร่างของเขาลุกชัน เขามิอาจไม่ใส่ใจได้ หมัดของเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยแสงสีสอง ถอยไปข้างหลังพร้อมกับร่างของเขา

ปัง!

กรงเล็บเหยี่ยวและฝ่ามือปะทะกัน!

กรงเล็บของถังเทียนภายในอากาศคว้าไปข้างหน้า ขณะที่บุรุษหัวล้านเปียวเกอยกฝ่ามือทั้งสองเพื่อป้องกัน ราวกับมันเป็นถั่วเหลือง มันถูกบดขยี้ในทันที

ด้วยความหวาดกลัว บุรุษหัวล้านเปียวเกอพลันสัมผัสได้ถึงพลังกรงเล็บของถังเทียนแปรเปลี่ยนเป็นเอื่อยเฉื่อยและผ่อนคลายลง คู่ต่อสู้ของเขาได้ใช้พลังทั้งหมดไปกับการโจมตีนี้แล้ว บุรุษหัวล้านรวบรวมพลังทั้งหมดของเขาที่เหลืออยู่พลางกรีดร้อง “ทุกคน โจมตี!”

มิมีผู้ใดจะรู้เลยว่า ยามเมื่อเท้าของถังเทียนสัมผัสพื้น เขาก็กระเด้งขึ้นไม่แม้แต่จะหายใจทันราวกับเขาเป็นสปริง

ตุบ! ตุบ!

แต่ละก้าวของถังเทียนดูบางเบา แต่เพียงแค่รูปแบบการย่างก้าว พวกมันดูระเบิดพลังได้น่าทึ่ง ถังเทียนบรรลุไปยังความเร็วสูงสุดของเขา

แปดก้าวจักจั่นมีช่วงระเบิดพลังอย่างมาก และกระบวนท่ามันก็ยอดเยี่ยมยิ่ง

บุรุษหัวล้านรู้สึกภาพของเขาเลือนลางก่อนที่เงาของถังเทียนจะปรากฏเบื้องหน้าของเขา บุรุษหัวล้านตกใจ เขาสะบัดข้อมือของเขาและใช้ออกฝ่ามือคิงคองออกไป

ฝ่ามือและกรงเล็บก็ปะทะกัน แต่บุรุษหัวล้านเปียวเกอเพียงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดภายในอกของเขา ราวกับมีดมากมายทะลวงผ่านเข้ามาภายในหัวใจของเขา และในขณะเดียวกัน เขาก็มิได้สนใจอันใดทั้งสิ้น เขาหยิบยืมพลังและกระเด็นถอยหลังไป

ถังเทียนมีความสุขกับการต่อสู้ครานี้ เขาไม่มีเจตนาที่จะแสดงออกความเมตตาใดๆ ด้วยการขยับร่างของเขา เขาก็ก้าวออกด้วยท้าเท่าท่องไพร ราวกับเขาถูกครอบงำด้วยบางสิ่ง เขาก็ปรากฏขึ้นด้านขวาราวกับภูตผี ในช่วงเวลานั้นยามเมื่อบุรุษหัวล้านมองไม่เห็น มือของเขาก็คว้าที่ไหล่ของบุรุษหัวล้าน

หลังจากนั้นบุรุษหัวล้านก็ถูกเหวี่ยง

ร่างที่หนักแน่นและมั่นคงของเปียวเกอไม่นับเป็นอันใดเมื่ออยู่ภายในมือของถังเทียน

[วิชาห่วงโซสัมพันธ์]!

ปัง ปัง ปัง!

บุรุษกำยำสองสามคนที่ได้ยินคำกล่าวของบุรุษหัวล้านก็กระโจนเข้าไปหาถังเทียน พวกเขาทั้งหมดต่างกระเด็นออกไปโดยถังเทียน ถูกโยนไปไกล

เงาของเขาเหินไปทั่วทุกที่ เสียงร้องก็โผล่มาทุกที่ และเสียงกรีดร้องของเขาก็ดังต่อเนื่อง

ยามเมื่อถังเทียนหยุดลง บุรุษหัวล้านภายในมือของเขาก็ตาเหลือกและมีฟองอยู่บนปากของเขา เขาหมดสติไปแล้ว

ถังเทียนรู้สึกลังเลขณะที่เขามองไปยังบุรุษหัวล้านครั้งสุดท้าย ท่าทางนั้นมันดูคล้ายว่าเขาไม่สามารถที่จะโยนบุรุษหัวล้านออกไปได้

เด็กหนุ่มอีกทั้งเจ็ดคนต่างตกตะลึง พวกเขาจ้องมองไปยังบุรุษกำยำที่โหยหวนสุดชีวิตแล้วพวกเขาก็เลื่อนสายตาไปมองยังถังเทียน เด็กหนุ่มบางคนผู้ซึ่งได้เยาะเย้ยถังเทียนต่างมีสีหน้าซีดเผือด ปราศจากร่องรอยเลือดบนใบหน้าของพวกเขา

ถังเทียนก็ยังคงโยนบุรุษหัวล้านไปบนพื้นพลางพึมพำ “ช่างอ่อนแอนัก? เจ้าอยู่ในขั้นสี่แน่งั้นหรือ? ดูคล้ายว่าเจ้าอันธพาลนี้จะแอบลักลอบเข้ามา…”

ถ้าหากบุรุษหัวล้านยังมีสติอยู่และเขาได้ยินคำกล่าวนี้ หัวใจของเขาคงแตกสลาย

ถังเทียนผู้ที่ซึ่งวางแผนว่าจะสู้อย่างถูกต้อง ก็สูญเสียความกระตือรือร้นของเขาและเริ่มที่จะตรวจสอบทรัพย์สินสงสรามของเขาทีละคน บุรุษกำยำทั้งหมดก็ต่างเปลือยเปล่า จากนั้นถังเทียนก็โยนพวกเขาไปด้านข้างอย่างลวกๆทีละคน บุรุษเปลือยเปล่ากองเป็นปิรามิดมนุษย์

ถังตรวจดูกองสิ่งของข้างหน้า แต่เขาก็ยังคงไม่มีความสุข

พวกเขาต่างเป็นกลุ่มภูติผีที่ยากจนยิ่งนัก!

นักสู้จากสมาคมนักสู้แห่งแสงได้ตกต่ำมาจนถึงขั้นนี้ มันช่างน่าอัปยศนัก! เมื่อนึกถึงความร่ำรวยของใต้เท้าข่งและสนามแห่งข้อบกพร่อง ถังเทียนก็น้ำลายไหล เหล่าอันธพาลพวกนี้ไม่มีแม้กระทั่งสมบัติขั้นทองแดงบนตัวพวกเขา พวกเขาช่างยากจนบัดซบ!

เดิมทีถังเทียนคาดคิดว่าเขาจะเก็บเกี่ยวความมั่งคั่งได้ เขาพลันพบว่าเขาเสียความพยายามของเขาในการต่อสู้ และอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดี

ไม่จริง นักสู้จากสมาคมนักสู้แห่งแสงนี้มันจะยากจนได้เยี่ยงไรกัน? พวกเขาจะต้องแอบซ่อนสิ่งของดีๆไว้อย่างแน่นอน!

เขามองไปรอบๆด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร ถังเทียนสังเกตเห็นกองไม้ที่มุมหนึ่ง

ในทันทีเขาก็เรียงกระดานไม้ขึ้น ทั้งหมดมีระยะเท่ากัน บุรุษกำยำร่างเปลือยเปล่าทั้งหมดก็ถูกผูกติดนาบกับแผ่นไม้

มิมีใครรู้ว่าถังเทียนพบม้านั่งจากที่ใด แต่เขาก็นั่งด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

“เจ้า!” ถังเทียนสุ่มชี้ไปยังหนึ่งในเด็กหนุ่ม “ไปตักน้ำใส่ถังน้ำมานี่”

เด็กหนุ่มต่างตกใจ หวาดกลัวจนกระทั่งสีหน้าของเขาซีดขาว แต่เพียงได้ยินคำกล่าวของถังเทียน สีหน้าของเขาก็มีสีขึ้น มิกล้าที่จะกล่าวอันใด เขาไปหาถังน้ำเพื่อที่จะตักน้ำใส่อย่างทันที

เพียงไม่นานหลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็แบกถังน้ำมา

สนามอันกว้างใหญ่ มีแผ่นไม้ที่มีระยะห่างเท่ากัน ทางด้านเหล่าเด็กหนุ่มก็เงียบกริบด้วยความกลัวอยู่ห่างออกไป และถังเทียนเพียงนั่งลงลอยชายอยู่

บุรุษหนุ่มถังนั่งบนม้านั่งราวกับเขาเป็นเจ้านายในดินแดนใต้ดินนี้มาเป็นเวลานาน เขาถอนหายใจด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง “บัดซบ มิได้ทำตัวเป็นจอมเผด็จการมาหลายปีแล้ว…”

“แต่มันก็รู้สึกดีนัก…”

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด