ตอนที่แล้วตอนที่ 046 – *ชื่อตอนสปอยล์เนื้อเรื่อง*
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 048 – ทหาร

ตอนนี้ 047 – กองทัพรูปแกะสลักไร้หน้า


ตอนนี้ 047 – กองทัพรูปแกะสลักไร้หน้า

 

ข้าชนะแล้วจริงๆ...

ถังเทียนจ้องมองไปยังฝ่ามืออย่างว่างเปล่า ฝ่ามือของเขาดำเป็นตอตะโกอย่างน่าเกลียดเนื่องจากการถูกเผา “ชนะ...ข้าชนะแล้วจริงๆ…”

“ฮ่าฮ่า...” ถังเทียนหัวร่ออย่างโง่งมด้วยปากที่เปิดกว้างของเขา เปิดเผยฟันสีขาวราวหิมะ ขณะที่รอยยิ้มของเขาก็ขยายอย่างต่อเนื่อง

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าชนะ! ข้าชนะ!”

ถังเทียนลูบศีรษะของเขาพลางหัวร่อ ใบหน้ายิ้มแย้มของเขาและเสียงหัวเราะอย่างบริสุทธ์ เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้น พลางตะโกนอย่างดัง “โว้ โว้ โว้ ข้าชนะ!”

ตุบ! ขาทั้งสองแยกออกขณะที่เขาทิ้งตัวลงและนั่งลงบนพื้น แต่เขายังคงหัวร่ออย่างโง่งม

นี้มันเป็นชัยชนะคราแรกในการต่อสู้จริงของเขา...

ข้าจะกลายเป็นแข็งแกร่งอย่างแน่นอนแล้ว!

ข้าจะได้รับชัยชนะมากขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว!

บุรุษหนุ่มกำหมัดของเขาแน่น พลางกล่าวกับตัวเองอย่างเงียบๆ การต่อสู้ยังไม่จบ มันยังมีการต่อสู้ที่ยากลำบากและท้าทายอยู่ และแม้กระทั่งนักสู้ที่แข็งแกร่งกว่ามากในภายภาคหน้า

ถังเทียน เจ้าสามารถทำมันได้!

ถังเทียนสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาของเขากลับสู่ความสงบ เขานั่งขัดสมาธิพลางเริ่มสำรวจร่างกายของเขา ในระหว่างการต่อสู้ เขายุ่งเกินไปกว่าที่เขาจะสำรวจตัวเองได้ และในตอนนี้เขาก็ต้องสำรวจร่างกายของเขาอย่างละเอียด

ถังเทียนพลันตรวจพบความแตกต่างในทันทีของการโคจรตำราปราณกระเรียน

กายากระเรียนตัวที่สองมีขนาดใหญ่ขึ้นสองเท่า และเขาสามารถรับรู้ได้ถึงเส้นสายเล็กๆของเขาแข็งแกร่งที่กำลังคลายตัวอย่างช้าในกายากระเรียนที่สองนี้ โคจรไปที่ละขั้นจากบ่อตันเถียนถ่ายเทเข้าสู่บ่อตันเถียนที่สามและหลังจากนั้น ก็โคจรรอบทั้งร่างอีกครา แพร่กระจายเข้าสู่แขนขาทั้งสี่และเข้าสู่กระดูกของเขา

ถังเทียนลองกระตุ้นกายากระเรียนที่สอง แต่มันก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิดและมันก็โคจรหลั่งไหลอย่างช้าๆ

ช่างแปลกประหลาดนัก..

แม้ว่าเขาจะไม่ทราบอย่างชัดเจนกับการฝึกฝนกายากระเรียนที่สองได้เยี่ยงไร แต่พลังที่มันปลดปล่อยออกมาจากกายากระเรียนที่สองก็เข้าสู่บ่อตันเถียนที่สามทำให้บ่อตันเถียนที่สามเติบโตขึ้นอย่างมิคาดคิด

ถังเทียนประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขากล่าวอันใดไม่ได้เกี่ยวกับปราณอันผิดปกตินี้ ไม่สามารถขบคิดได้มากนัก พลางโคจรตำราปราณกระเรียน พลังปราณจากรอบๆแปรสภาพรอบตัวเขาและเข้าสู่ร่างของเขา โคจรผ่านเส้นชีพจรของเขาและเปลี่ยนสภาพเป็นเส้นสายของพลังปราณแท้จริงที่บริสุทธ์ ก่อนที่เข้าสู่บ่อตันเถียนที่สามอย่างไม่จบสิ้น ขยับขยายบ่อตันเถียนและเติบเต็มอย่างช้าๆ

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

“มันช่างเป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นนัก หมัดปืนใหญ่เป็นวิชาต่อสู้โบราณ มันสามารถประยุกต์ใช้ภายในมือของหวังเจิ้น เขาช่างมีศักยภาพนัก แต่มันน่าแปลกใจยิ่งกว่าที่ถังเทียนสามารถชนะหวังเจิ้น” เสียงนิ่มนวลกล่าว เต็มไปด้วยความชื่นชม ขณะที่ดวงตาของเขามองไปยังแสง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างถังเทียนและหวังเจิ้น

ถ้าหากท่าเจ้าเมืองอยู่ที่นี่ เขาก็สามารถระบุตัวตนผู้นี้ได้ว่าคือหุ้นส่วนของเขา ใต้เท้าอู่จากกลุ่มดาราอีกา

เบื้องหน้าของใต้เท้าอู่วางไว้ด้วยกลุ่มดวงแสง แต่ละแสงแสดงภาพเงากำลังเคลื่อนไหวอยู่

“บอกข้ามา ปี้จวินตกตายด้วยน้ำมือของถังเทียนงั้นหรือ?” ใต้เท้าอู่พลันถาม เบื้องหลังของเขายืนไว้ด้วยบุคคลที่ดูน่ายำเกรง แท้จริงมันคือ ตี๋หาน

“ขอรับ!” ตี๋หานกล่าวตอบ

“ช่างเป็นบุรุษที่มีพรสวรรค์อันใดเช่นนี้” ใต้เท้าอู่กล่าวอย่างชื่นชม

ตี๋หานกล่าว “ตามที่ข้าได้รวบรวมมา ถังเทียนใช้เวลาฝึกฝนพื้นฐานวิชาการต่อสู้เป็นเวลาห้าปี และเขาก็ถือเป็นผู้ไร้ค่า เขาเป็นศัตรูกับตระกูลโจวและถูกไล่ออกจากสถาบันสันติธรรม จากช่วงเวลานั้น ความแข็งแกร่งเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก ยามเมื่อเขาประลองกับข้าน้อย เขาก็แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง”

“ฝึกฝนพื้นฐานวิชาการต่อสู้เป็นเวลาห้าปีงั้นหรือ? มีบุคคลที่น่าสนใจภายในดาราอู่อันด้วยงั้นสินะ?” ใต้เท้าอู่ปรบมือพลางหัวร่อ ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างดวงตาเขาพลันสว่างวาบ “โอ้ ตามที่เจ้ากล่าวมา เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะมีป้ายดารากางเขนใต้ฯอยู่ภายในมือของเขา? ป้ายดารากางเขนใต้ฯจากกลุ่มดารากางเขนใต้ ฝึกฝนพื้นฐานวิชาการต่อสู้เป็นเวลาห้าปี สถานการณ์ช่างสอดคล้องกันนัก นอกเหนือจากนี้ เห็นได้ชัดถึงปฏิกิริยาของเด็กสาวผู้นั้นที่พบเห็นสัญลักษณ์ของกลุ่มดารากางเขนใต้ด้วย ให้รวมถังเทียนเป็นเป้าหมายสำคัญที่ควรให้จับตามองซะ”

“ขอรับ!” ตี๋หานคำนับ

“โชคของข้าช่างดีเยี่ยมจริง” ใต้เท้าอู่หัวร่อออกมาเสียงดัง “ป้ายดารากางเขนใต้ฯ มีข่าวลือว่ามันซ่อนความลับที่ยิ่งใหญ่มากไว้ ข้าลำบากกับการค้นหามันมานานแล้ว ข้ามิคาดคิดว่าจะค้นพบมันที่นี่ อันที่จริงสวรรค์ช่างเมตตาข้านัก”

ตี๋หานมิได้กล่าวคำใด

“พวกเรารวบรวมโลหิตได้เท่าใดแล้ว?” ใต้เท้าอู่กลับคืนสู่ความสงบของเขาพลางกล่าวถาม

“สามสิบสองส่วน” ตี๋หานตอบ “[ดวงตาโลหิต] แสดงผลว่า สิบแปดส่วนของชีพจรโลหิตสามัญ แปดส่วนชีพจรโลหิตที่เหมาะสม ห้าส่วนชีพจรโลหิตชั้นเยี่ยม และเส้นชีพจรโลหิตขั้นทองแดงหนึ่งส่วน”

“โอ้ ใครคือเส้นชีพโลหิตขั้นทองแดงกัน?” ใต้เท้าอู่กล่าวถาม

“โจวข่าย” ตี๋หานกล่าวตอบ “ผู้นำแห่งสถาบันอำนาจแห่งเทพเจ้า อันดับเจ็ดของเมืองเมฆาดารา ได้ถูกเก็บเกี่ยวไว้แล้ว”

“ไม่เลว ไม่เลว!” ใต้เท้าอู่พึงพอใจ “ข้ามิคาดคิดว่าจะได้รับเส้นชีพจรโลหิตที่โดดเด่นรวดเร็วเช่นนี้ ตราบเท่าที่ข้ารวบรวมได้ครบสิบส่วนของเส้นชีพจรโลหิตขั้นทองแดง ฮ่าฮ่า ข้าสามารถที่จะสร้างเส้นชีพจรโลหิตขั้นเงินของข้าได้ ฮ่าฮ่า! ตำนานเส้นชีพจรโลหิตขั้นเงิน เมื่อนึกถึงมันแล้วทำให้ข้าตื่นเต้นยิ่งนัก!”

เสียงกล่าวอันบ้าคลั่งของใต้เท้าอู่ดังกังวานไปทั่วห้อง ทำให้หัวใจของตี๋หานหนาวเย็นอย่างมิคาดคิด

“น่าเสียดายนัก ถังเทียนมิได้บาดเจ็บอันใดมาก ถ้าหากเขาบาดเจ็บ เราสามารถที่จะรวบรวมโลหิตสดๆของเขาได้ ข้าอยากรู้จริงๆว่าชีพจรโลหิตของเขาเป็นเช่นใด” ดวงตาของใต้เท้าอู่ส่องประกาย

“ถังเทียนค่อนข้างอายุมากแล้ว เขาอายุสิบเจ็ดปีแล้ว” ตี๋หานลังเลอยู่ชั่วขณะแต่เขาก็กล่าวออกมา

“ช่างน่าเสียดายนัก” ใต้เท้าอู่จ้องมองอย่างว่างเปล่า ด้วยสีหน้าที่เสียใจ “สิบเจ็ดปี? นั่นค่อนข้างอายุมากไป คนที่อายุน้อยกว่าจะมีพลังชีวิตแข็งแกร่งกว่าภายในเส้นชีพจรโลหิต และจะประสานกันได้แข็งแกร่งขึ้น ช่างน่าเสียดายนัก”

ใต้เท้าอู่กรอกตาของเขาพลางโยนเรื่องถังเทียนไปข้างหลังภายในใจของเขา “รอจนกระทั่งถังเทียนจากไป แล้วไปเก็บโลหิตของหวังเจิ้น เหล่าลูกหลานของตระกูลโบราณมักจะมีเส้นชีพจรโลหิตที่ดี”

“ขอรับ!” ตี๋หานคำนับ

“ฮี่ฮี่ เป็นที่แน่นอนแล้วว่ามันมิใช่เรื่องเปล่าประโยชน์ที่ข้าได้เค้นสมองและค้นพบเส้นทางของข้าในเมืองเมฆาดารานี้” ใต้เท้าอู่มีใบหน้าที่มืดมน “ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องได้รับเส้นชีพจรโลหิตขั้นทองแดงสิบส่วน! นี้มันทำให้ข้าคาดหวังเป็นอย่างมาก ตำนานเส้นชีพจรโลหิตขั้นเงิน ข้าสงสัยจริงๆพวกมันจะมีพลังแข็งแกร่งเท่าใดกัน!”

“อา! ถังเทียนหายไปแล้ว…” ตี๋หานผู้ที่ซึ่งจ้องมองไปยังบนแสง อุทานขึ้นมา

“เอ๋?” ใต้เท้าอู่กลับสู่สติของเขา และขณะที่เขาจ้องไปยังภาพภายในแสง ทันใดนั้นก็ดูคล้ายว้าวุ่น มีเพียงการตอบสนองนั้นชั่วครู่ก่อนที่จะกลายเป็นสีหน้าที่เหลือเชื่อ “นี่ ภายในวงกตวิญญาณ ข้าควรจะสามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน แต่ทำไมกัน…”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ถังเทียนเปิดตาของเขา ประกายแสงสีขาวก็สว่างวาบภายในดวงตาของเขา ปราณแท้จริงของเขาสั่นสะเทือน ‘ปัง!’ คราบสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ระเบิดออกจากร่างกายของเขา ทุกส่วนที่ไหม้เกรียมของร่างเขาก็สั่นสะเทือนไปหมด ถังเทียนที่ดำเป็นตอตะโก ก็กลับคืนสู่สภาพเช่นเดิมของเขา เขาลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มของเขา

ร่างของพรั่งพรูไปด้วยปราณแท้จริง ด้วยการเติบโตเขาได้ทำลายผ่านเข้าไปยังปราณแท้จริงขั้นสูง บรรลุเงื่อนไขที่สมบูรณ์

เนื่งอจากปราณแท้จริงในตอนนี้บรรลุสัมผัสไปยังกำแพง จึงเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าบ่อตันเถียนที่สามของเขาเติมเต็มแล้ว

ถังเทียนมองไปยังหวังเจิ้นผู้ซึ่งนอนอยู่บนพื้น และยังคงอยู่ในอาการหมดสติ

“โอ้ เจ้าช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เลวเลย ดังนั้นข้าจะไม่ปล้นชิงสิ่งของจากเจ้า อ๊า ช่างน่าเสียดายนัก โอกาสที่จะเก็บเกี่ยวสินทรัพย์สงคราม…” ถังเทียนบุ้ยปาก เขามิได้ลังเลใจมองไปยังถ้ำเหนือหัวของเขาและรีบเด้งตัวเขาขึ้น

ขณะที่ถังเทียนเส้นทางแสงนั้นมา พลังดึงดูดก็ออกมาจากเหนือหัวของเขา

พลังดึงดูดนี้มันช่างกระทันหันและน่าตระหนกอย่างยิ่ง ทำให้ถังเทียนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน และจากประสบการณ์ที่เขาได้ผ่านมา เขามิได้สังเกตว่าตราประทับกลุ่มดารากางเขนใต้ในฝ่ามือของเขาสว่างขึ้น

หลังจากผ่านไปได้สักพัก

ตุบ!

ถังเทียนล่วงหล่นลงไปภายในน้ำมันเย็นเหมือนน้ำทะเล กระแทกใบหน้าของถังเทียนอย่างต่อเนื่อง ถังเทียนรู้สึกปวดหัวของเขาอย่างหนักหลังจากตื่นขึ้นมาชั่วครู่

เอ๋ ทำไมถึงมีทะเลที่นี้ได้กัน? หวังเจิ้นมิใช่ได้บอกล่าวว่ามันควรจะมีกุญแจวิญญาณงั้นหรอกหรือ?

ถังเทียนมองไปบริเวณรอบๆตัวเขา ทันใดนั้น เขาก็มองเห็นจุดสีดำเล็กๆไกลออกไปจากทะเล

อยู่นั่นไง!

จิตใจของถังเทียนก็ถูกกระตุ้นในทันที เขาพลันใช้ออกปราณแท้จริงเล็กน้อย และกระโจนลงสู่ผิวน้ำทะเล

“โว้ โว้ โว้ มองดูแปดก้าวจักจั่นของข้าซะ วิ่ง วิ่ง วิ่ง กุญแจวิญญาณเอ๋ย ข้ามาแล้ว!”

ถังเทียนร้องลั่นก้องกังวานผ่านทะเลขณะที่เขาสร้างคลื่นกำแพงน้ำในระหว่างที่เขาวิ่งอย่างรวดเร็วไปยังจุดสีดำเล็กๆ ปราณแท้จริงของถังเทียนในตอนนี้อยู่จุดสูงสุดของขั้นสาม ด้วยเส้นชีพจรปราณของเขาใหญ่ขึ้น เขาใช้ออกแปดก้าวจักจั่นและเหินไปด้วยความรวดเร็ว

หกชั่วโมงต่อมา

ถังเทียนหอบหายใจ ปราณแท้จริงของเขาแทบจะหมดลง จุดสีดำเล็กๆดูเหมือนใกล้แล้ว แต่มันก็ไกลอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดถังเทียนสามารถเพียงว่ายไปอย่างท้อแท้ตรงไปยังเกาะเล็กๆ

แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก มันเป็นกุญแจวิญญาณพิการอันใดกัน… นี่มันเป็นการทรมานกันชัดๆ...

ภายในซีกหนึ่งของหัวใจถังเทียนรู้สึกโกรธ และพยายามที่จะใช้มือและขาของเขาเคลื่อนไปทางอื่น ยามเมื่อเขาเข้าใกล้แล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่า มันช่างเป็นกำแพงที่สูงใหญ่นัก มันสูงประมาณสิบสองลี้ตั้งอยู่ในทะเล

มันช่างงดงามยิ่งนัก!

เพียงแต่ มันยากลำบากที่จะปีนขึ้นไปนัก...

ถังเทียนใช้ออกปราณและปีนขึ้นอย่างช้าๆ...

ความราบเรียบใต้เท้าของเขา หินขนาดหนึ่งจั้งเบื้องหน้าของเขา กระจายอย่างราบเรียบราวกับเป็นตารางสี่เหลี่ยม แพร่กระจายออกไปทั่วทิศทางสุดลูกตาของเขา ขณะที่ดวงตาถังเทียนมองไปยังสุดกำแพงไกลๆ เขาก็กลายเป็นตกตะลึง

ที่นั่น มีกองทัพขนาดใหญ่มโหฬหารอยู่ ยืนเรียงคู่กัน จำนวนหอกทำให้ดูคล้ายกับป่าสีดำกลมกลืนไปกับเกาะ และไม่สามารถมองเห็นปลายกองทัพได้เลย กองทัพยังคงนิ่งสงบ และด้วยรังสีสังหารที่เปล่งออกมาจากพวกมัน กองทัพช่างน่าทึ่งนัก มันไม่แม้แต่กระทั่งส่งเสียงใดๆ ความเงียบนี้สามารถทำให้ผู้คนตระหนกในความกลัวได้เลย

นี้ นี้ นี้...

ใบหน้าของถังเทียนขาวซีด เขารวบรวมความกล้า มองไปฉากเบื้องหน้าและยังคงสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว

ข้า ข้า ข้า...เดินมา...เดินมาผิดทางแล้ว….

ฟันของถังเทียนสั่นกระทบกัน แต่เขาก็ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ขณะที่ภาพภายในดวงตาของเขา มันทำให้เขาเคร่งเครียดภายในใจจนมิอาจทนทานไหว ท้องไส้ของถังเทียนปั่นป่วนไปหมดด้วยความหวาดกลัว ขณะที่จิตใจของเขาก็ว่างเปล่า

ขณะที่เวลาผ่านไป กองทัพที่ปรากฏเบื้องหน้าของเขาก็ยังคงมิได้เคลื่อนไหวอันใดเลย

เงียบกริบ ทั่วทั้งสถานที่นี้มันเงียบกริบ

ถังเทียนค่อยๆฟื้นสติของเขากลับมาและสมองของเขาก็กลับมาทำงานอีกครา เอ๋ เกิดอันใดขึ้นกัน?

เขาลังเลไปชั่วครู่ สงสัยเป็นอย่างยิ่ง ทำไมช่างมีผู้คนมากมายอยู่ในที่นี่กัน ดังนั้นเขาไม่แม้แต่จะพยายามวิ่ง

“นี่ นี่ นี่ มันสถานที่ใดกัน?”

ถังเทียนตะโกนขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตัว ตราบเท่าที่เขาพบเห็นสิ่งผิดปกติ เขาจะวิ่งในทันที

ไม่มีผู้ใดตอบ

ถังเทียนรู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติ ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ทหารที่อยู่ใกล้ก็มิได้สังเกตเห็นอันใดทั้งนั้น

มันก็เงียบกริบ!

ถังเทียนกลืนน้ำลายของเขา เขาก็มาถึงแล้วและหวาดกลัวอย่างยิ่ง

ถังเทียนเดินไปเบื้องหน้ากองทัพ แล้วค่อยพ่นลมหายใจของเขาออก หลังจากมีปัญหามาทั้งวัน ก็ค้นพบว่าพวกมันมิใช่คนจริงๆ มันแทบจะข่มขู่เขาจนตาย! มันเป็นกองทัพอย่างแท้จริงแล้ว แต่มันเป็นรูปแกะสลักที่เป็นกองทัพ

รูปแกะสลักสีเทา ขนาดเท่าคนจริง ทั้งหมดถือหอก พวกมันดูคล้ายมีชีวิต

ยกเว้นเพียงแต่ว่า พวกมันไม่มีใบหน้า!

ไม่มีรูปแกะสลักตัวไหนที่มีใบหน้าเลย และใบหน้าแต่ละตัวต่างเป็นกระดานสีขาวว่างเปล่า รูปแกะสลักไร้หน้านับไม่ถ้วน ยืนนิ่งอย่างเงียบๆ ด้วยการจัดรูปแบบที่เป็นระเบียบยืดยาวออกไปไกล จนไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้

หัวใจของถังเทียนสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาว

นี่… นี่มันสถานที่อันใดกัน?

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด