ตอนที่แล้วตอนที่ 033 – ประกาศชัยชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 035 – บุรุษพิรุณ ตี๋หาน

ตอนที่ 034 – แม้ว่าเจ้าจักต้องตายตก เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะ


ตอนที่ 034 – แม้ว่าเจ้าจักต้องตายตก เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะ

 

การแข่งขันรอบคัดเลือกทุกปีมักจะมีความน่าสนใจแตกต่างกัน และในปีนี้การแข่นขันรอบคัดเลือกวันแรก ก็ระเบิดไปด้วยการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น

และตัวเอกผู้โดดเด่นก็คือ ผู้งมงายยุทธ์ถังเทียนแห่งเมืองเมฆาดารา

ยามเมื่อหลายคนได้ยินข่าวเรื่องนี้ พวกเขาต่างคิดว่าพวกเขาได้ยินผิดพลาดไป แต่ทุกคนที่ได้เป็นพยานการต่อสู้นั้นจะบอกกล่าวต่อสหายของพวกเขาทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อสู้ และยอดฝีมือที่เรียงรายมาในแท่นผู้ชม นามของทุกผู้คนเหล่านั้นทำให้ถึงกับร้องไห้ด้วยความอัศจรรย์ได้เลย

เพียงมองไปยังผู้คนบนแท่นชม ทุกคนสามารถบอกกล่าวได้เลยว่า เป็นการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูงมาก สมกับการที่ตั้งตารอคอย

ยอดฝีมือจากทั้งสามสถาบัน มิขาดสักเพียงคนเดียว

สิ่งที่เป็นที่กล่าวขานกันมากสุดก็คือ [หมัดอัสนีบาต] ของถังเทียนที่เอาชัย [วิชาพลองวายุสลาตัน] ของคู่ต่อสู้ มีเพียงน้อยคนที่ฝึกฝน [วิชาพลองวายุสลาตัน] แต่ความยากของมันต่างรู้กันดี และเมื่อเทียบกับจำนวนผู้คนที่ฝึก [หมัดอัสนีบาต] มันก็เสมือนขนของวัวกับวัวเมื่อเทียบกัน

ศิษย์ที่คนที่ฝึกฝน [หมัดอัสนีบาต] มิได้เชื่อเกี่ยวกับเรื่องราวที่พวกเขาได้ยินในยามแรก แต่ข่าวลือยังคงแพร่กจาย และความจริงก็ปรากฏขึ้น และในที่สุดทุกผู้คนก็ต่างเชื่ออย่างแท้จริงแล้วว่า [หมัดอัสนีบาต] ที่พวกเขาต่างฝึกฝนสามารถที่จะทำลาย [วิชาพลองวายุสลาตัน] ได้ จิตวิญญาณของพวกเขาต่างลุกโชนพยายามที่จะลอกเลียนวิชาของถังเทียน

เพียงแต่มันมีความลับที่ยิ่งใหญ่อยู่!

มิว่าพวกเขาจะพยายามอย่างมากแค่ไหนหรือพวกเขาจะเค้นสมองอย่างไร ในท้ายที่สุดพวกเขายังคงมิสามารถกระทำได้

[หมัดอัสนีบาต] เป็นเพียงวิชาระดับสอง ขณะที่ [วิชาพลองวายุสลาตัน] เป็นวิชาระดับสาม มันมีระดับที่ต่างกัน เป็นช่องว่างขนาดใหญ่ ไม่มีทางที่จะสามารถเทียบกันได้เลย

ยังคงมีผู้คนที่สงสัยถังเทียนอาจจะมิได้ใช้ออก [หมัดอัสนีบาต] ด้วยเช่นกัน แต่เป็นการใช้ออกวิชาการต่อสู้ระดับสามที่อาจจะคล้ายคลึง [หมัดอัสนีบาต]

ตลอดจนการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ผู้ที่ซึ่งชมดูอยู่บนแท่นชม คำกล่าวที่พวกเขากล่าวค่อยๆแพร่กระจายออกไป จนทำให้ผู้คนต่างได้รับรู้

พื้นฐานวิชาการต่อสู้!

ถังเทียนสามารถใช้ออก [หมัดอัสนีบาต] ระดับสองทำลายวิชาระดับอย่างเช่น [วิชาพลองวายุสลาตัน] ได้ และทั้งหมดเป็นความสมบูรณ์ของพื้นฐานวิชาการต่อสู้ แม้กระทั่งซือหม่าเซียงซานได้ประกาศต่อผู้คนภายในสถาบันผลึกฟ้าว่าถังเทียนผู้นั้นมีพื้นฐานวิชาการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ และความสามารถการใช้พลังจากกล้ามเนื้อของเขา มิมีใครภายในเมืองเมฆาดาราสามารถเทียบได้

ผู้คนหลังจากนั้นจดจำได้ทันทีว่า ถังเทียนใช้เวลาถึงห้าปีเพื่อฝึกฝนเพียงพื้นฐานการต่อสู้ของเขา และพวกเขาก็ปราศจากคำพูดที่จะกล่าว

ฝึกฝนห้าปีกับพื้นฐานวิชาการต่อสู้ เพื่อบรรลุถึงขั้นนั้นของเขา ผู้คนต่างตระหนักได้ทันที เพียงแต่พวกเขาเริ่มที่จะชั่งน้ำหนักว่า มันคุ้มค่าแล้วหรือ? ใช้เวลาถึงห้าปี เพื่อใช้ออกเพียง [หมัดอัสนีบาต] วิชาระดับสองเพื่อทำลายวิชาระดับสาม [วิชาพลองวายุสลาตัน]

ผู้คนแล้วคนเล่าต่างส่ายหัวของเขา การฝึกฝนวิชาเช่นนี้ มันมิได้คุ้มค่าเลย เริ่มแรกพวกเขาคาดคิดว่ามันจะต้องมีความลับอยู่เบื้องหลังของเขาเป็นแน่ เพียงแต่ตระหนักได้ว่ามันมิใช่ความลับอันใดเลย และมันยังเป็นสิ่งที่เหล่าอาจารย์บอกต่อพวกเขา ยามแรกที่ได้เข้าไปยังสถาบัน

แต่ตัวอย่างนี้ก็ทำให้ศิษย์ใหม่หลายคนเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขากลับกลายเป็นมีกำลังใจขึ้น และยังใช้เวลากับพื้นฐานวิชาการต่อสู้ วิชาที่พวกเขาคิดว่ามันไร้ประโยชน์ในก่อนหน้านี้

“ถ้าหากศิษย์พี่ถังเทียนยังคงอยู่ มันคงจะดีมิใช่น้อย!”

“มันเป็นเพราะสารเลวโจวเผิง!”

ศิษย์ในชั้นเรียนกระบี่ต่างระลึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับถังเทียน

ถังเทียนเข้ามาอยู่ในสายตาพวกเขาอีกครา เพียงแต่ครานี้ ถังเทียนมิได้เป็นดั่งการล้อเลียนอีก  ผู้อาวุโสหลายคนได้สังเกตการณ์เห็นในตัวเขาและมันชัดเจนพอที่จะพูดกล่าวถึง สำหรับหลายการแข่งขันรอบคัดเลือก มีเพียงสองเท่านั้นผู้ที่ซึ่งมีค่าต่อการสังเกตการณ์ หนึ่งคือถังเทียนและอีกหนึ่งคืออาโม่หลี่ เหลียงชิวปรากฏยังแท่นชมของการแข่งขันอาโม่หลี่ นี้มันคือการที่ศิษย์พี่ห่วงใยในตัวศิษย์น้องของเขา อาโม่หลี่เป็นถึงอันดับเจ็ดของสถาบันอสูรอำมหิต และมิมีผู้ใครกังขาในความสามารถของเขามาก่อน ในสายตาพวกเขา เขาไม่ต่างไปจากนักสู้ที่ถูกเลือกไว้แล้ว

เพียงแค่ถังเทียน

เขาเป็นดั่งม้ามืดที่ปรากฏออกมาอย่างไร้ที่มา มิมีใครเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงได้ตกเป็นเป้าสายตาต่อพวกผู้อาวุโส

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผู้คนต่างก็สนใจในตัวของถังเทียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทันที เหล่าผู้คนที่มิได้มีความสนใจเกี่ยวกับการแข่งขันรอบคัดเลือกทันใดนั้นก็ตระหนักได้ถึงม้ามืดที่มีค่าแค่การสังเกตการณ์ มันกระตุ้นให้สนใจและหลงใหลในตัวทุกผู้คน ถังเทียน กำหนดการแข่งของถังเทียนต่างให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยผู้คน

ผู้ตัดสินใจการต่อสู้ได้เห็นถึงสถานการณ์นี้และรีบเร่งการเปลี่ยนแปลงการแข่งขันของถังเทียนให้เป็นไปในสนามใหญ่กว่าเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ที่ที่ซึ่งคับแคบภายในแท่นชม เนื่องจากทางเข้าคอขวด และด้วยการแก้ไขดั่งกล่าว มันกลายเป็นดั่งการแข่งขันรอบแท้จริง

เมื่อมีการประกาศการตัดสินใจครานี้ ผู้คนต่างยินดีเปิดแขนกว้างยอมรับมัน

การแข่งขันรอบที่สองของถังเทียนจะเป็นในเวลาสองวันต่อมา ขณะที่การเดิมพันของถังเทียน พร้อมที่จะรับเดิมพัน เริ่มขึ้นที่ตลาดแลกเปลี่ยน

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

เคร้ง!

ถ้วยชากระแทกลงบนพื้นอย่างและกลายเป็นฝุ่น เศษชิ้นส่วนกระจายออกไปทั่ว

ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่สถาบันสันติธรรม ศิษย์สองคนที่ผ่านไปยังห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ต่างตกใจ

“ถังเทียน! เจ้าสารเลวนั่น!”

“ข้าจะให้มันตกตายอย่างน่าอนาถ!”

….

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

โจวเผิงยังคงปราศจากการแสดงออก ในตอนนี้ เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผิวที่เคลือบไปด้วยสีขาวของเขากลายเป็นมืดและลึกลับเนื่องจากการตากแดด ดวงตาที่ปูนพองของเขาในตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นทรงสามเหลี่ยมดั่งงูพิษ เปล่งประกายแผ่รัศมีความแหลมคมและเยือกเย็น

“ในที่สุดข้าก็รู้ได้ว่ามันน่าทึ่งเพียงไรที่ได้รู้สึกมีพลังเช่นนี้ มันจะหอมหวานดั่งการใช้ชีวิตที่หรูหรา”

เขาก้มหัวของเขาและมองไปยังฝ่ามือของเขาที่อ่อนนุ่มและขาว แต่ในตอนนี้มันเต็มไปด้วยรอยย่นและรอยพับ ขณะที่เขาถอนหายใจในความปิติและเศร้าโศก “มันช่างเป็นฝีมือที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง!”

“นายน้อย ผู้อาวุโสสูงสุดเรียกหาท่าน” คนรับใช้ผู้หนึ่งกล่าวด้วยความเคารพ

โจวเผิงจ้องมองและยิ้มแย้มราวกับว่าเขากำลังเยาะเย้ยในเวลาเดียวกัน ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด รอยยิ้มก็จางหายไปในพริบตาขณะที่เขาจัดคอเสื้อของเขาเล็กน้อยพลางก้าวเดินก้าวใหญ่ไปยังห้องโถงใหญ่

ทั่วทั้งตระกูลโจวเต็มไปด้วยผู้ที่มีระดับสูงมากันหมด พวกเขาทุกคนต่างจ้องมองไปยังโจวเผิงที่กำลังย่างก้าวเข้ามา ย่างก้าวของโจวเผิงมั่นคง เขายังคงสำรวมและสุขใจกับสายตาที่เขาได้รับ

มันช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมนัก!

เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความชื่นชม อิจฉา ตื่นตกใจ และสายตาอันเหลือเชื่อ รอยยิ้มก็คืบคลานขึ้นมาที่มุมปากของเขา

ผู้อาวุโสสูงสุดกระแอมไออย่างแผ่วเบาเพื่อทำลายความเงียบ และจับจ้องไปยังโจวเผิง เขาพลางกล่าว “ดีมาก! นี่ควรจะที่เป็นการกระทำของนายน้อยของตระกูลที่ควรกระทำ! มิว่าความลำเอียงอันใดที่ข้ากระทำต่อเจ้าในอดีต ณ ตอนนี้ ข้าขอยอมรับในตัวตนที่เป็นผู้สืบทอดของตระกูลโจว”

ดวงตาของผู้นำตระกูลโจวเต็มไปด้วยความปลื้มปิติและมองไปที่โจวเผิงอย่างสบายใจ

ทั่วห้องโถงเงียบกริบ มีเพียงคำกล่าวของผู้อาวุโสสูงสุดดังก้องกังวาน

“เจ้ามีพรสวรรค์ที่สามารถทำให้ผู้คนอิจฉา เจ้าเปลี่ยนแปลงตัว แม้ว่าข้ารู้จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันนั้น ข้ายังคงหวังว่าเจ้าจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ตระกูลเมื่อยามที่อยู่ในมือของเจ้า”

โจวเผิงคำนับพลางกล่าวตอบอย่างภาคภูมิใจ “ถูกต้องแล้ว ตระกูลโจวจะมีเพียงรุ่งเรืองมากขึ้นเท่านั้น”

“งานชุมนุมยุทธ์นับเป็นโอกาสที่ดี ให้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับตระกูลโจว์!” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวอย่างภูมิใจ “ให้ซือหม่าเซียงซานเป็นแท่นหินเหยียบสำหรับตระกูลโจวของพวกเรา!”

โจวเผิงยิ้มอย่างมั่นใจแต่ภายในแขนเสื้อของเขา เขากำหมัดของเขาแน่น

ยังมีผู้คนอีกหนึ่งคน ถังเทียน!

ข้าจะสังหารเจ้าต่อหน้าทุกผู้คน!

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

ถังเทียนยังคงจมอยู่กับการบ่มเพาะของเขา เขาเหงื่อไหลราวกับชุ่มโชกไปด้วยฝน และมิมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในการแข่งขันรอบคัดเลือก และเช่นเดียวกันกับการแข่งรอบที่สองที่จะเริ่มขึ้น มิมีสิ่งใดรบกวนการบ่มเพาะของเขาได้

อาโม่หลี่ก็บ่มเพาะเช่นเดียวกันด้วยพลังของเขาทั้งหมด เขามิคาดคิดว่าพี่ใหญ่เหลียงชิวจะมาด้วยตัวเองเพื่อดูการแข่งขันของเขา พี่ใหญ่เหลียงชิวเป็นดั่งแบบอย่างของเขาและยังบุคคลที่เขาต้องการเอาชนะ นึกถึงยามที่เขาพบเห็นเงาที่คุ้นเคยบนแท่นชม อาโม่หลี่ก็เต็มไปด้วยแรงกระตุ้นและแรงผลักดันไปข้างหน้า

มีเพียงตาเฒ่าเว่ยที่ดูไม่ได้ห่วงใยราวกับว่ามันมิใช่เรื่องของเขา

ในช่วงเวลาพัก ทั้งสองนั่งอยู่บนพื้น รู้สึกเหนื่อยล้า เหงื่อไหลชุ่มอย่างไม่หยุดหย่อน

“เจ้าช่างกล้านักที่กล่าวอย่างถือดีต่อหน้าซือหม่าเซียงซาน” อาโม่หลี่กล่าวขณะที่เขาหอบหายใจ

ถังเทียนหอบหายใจอย่างหน้า พลางมองอย่างงุนงง “ทำไมข้าถึงมิกล้าทำ?”

“เขาคือผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งของเมืองเมฆาดารา!” อาโม่หลี่อธิบาย

ถังเทียนเอียงคอ “หากกล่าวเช่นนั้น ถ้าหากข้าชนะเขาข้าก็จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองเมฆาดารา?”

“ถูกต้อง!” อาโม่หลี่พยักหน้า

ทันใดนั้นถังเทียนก็คิดอันใดออก “มิต้องสงสัยเลยเชียนฮุ่ยมักจะเอาชนะเขาในเวลานั้น เนื่องเพราะถ้าหากนางชนะเขา นางก็สามารถบรรลุถึงอันดับแรก!”

อาโม่หลี่ “…”

ถังเทียนกล่าวถามอย่างอยากรู้ “แมลงวันวัว เป้าหมายในครานี้คืออันใดกัน?”

อาโม่หลี่ยังคงเงียบอยู่ชั่วครู่และเงยหัวของเขาขึ้นในทันที “เป้าหมายของข้าคือพบกับพี่ใหญ่เหลียงชิวและเอาชนะเขา!”

“แมลงวันวัว เจ้าเอาชนะได้อย่างแน่นอน!” ถังเทียนกล่าวอย่างดังด้วยความจริงจังของเขา

“ข้ามิรู้…” อาโม่หลี่พึมพำ

“เจ้ามิรู้อันใด?” ถังเทียนเบิกตากว้างและกล่าวอย่างดัง “เจ้าจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน! เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะนี้! มิมีสิ่งใดที่จะต้องกลัว! อย่าได้กล่าวกับตัวเองว่าหากพ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไร! ชัยชนะ! มีเพียงชัยชนะ! ความยากลำบากที่เจ้าได้ผ่านมามันมิได้น้อยไปกว่าพวกเขา! มิมีชัยชนะอันใดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บรรดาพวกที่พูดเช่นนั้นที่เจ้าได้เก็บมันมาใส่ใจทั้งหมด และนั้นเจ้ามิต้องเสียใจอันใด พวกมันต่างหลอกลวงทั้งนั้น บรรดาพวกที่พูดเช่นนี้ พวกมันมิได้เข้าใจอะไรเลย! เหงื่อที่หลั่งไหลและความยากลำบาก พวกเขาทำเพื่ออันใด? เพื่อที่เจ้าจะกลายมาเป็นขลาดเขลายามเมื่อต่อสู้งั้นหรือ? เพื่อบอกกล่าวต่อตัวเจ้าเองว่าเจ้าได้พยายามอย่างที่สุดแล้วมันมิเป็นไรหากจะยอมรับในความล้มเหลว? พวกนั้นมันเป็นเพียงข้ออ้าง! เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ! ยามเมื่อเจ้าได้รับชัยชนะ เจ้าสามารถที่จะประกาศต่อโลกทั้งใบได้ว่าเจ้ามีตัวตนอยู่ที่นี้!”

อาโม่หลี่หน้าแดงขณะที่ถังเทียนบรรยาย

“แมลงวันวัว!” ถังเทียนมองอาโม่หลี่อย่างเคร่งขึม

อาโม่หลี่เงยหน้าของเขาขึ้นรู้สึกอับอาย

ถังเทียนกระชับหมัดของเขาพลางจ้องมองไปยังสีหน้าอันแดงของอาโม่หลี่ เขากล่าวเพียงประโยคเดียวในเวลานั้น แค่นพวกมันออกผ่านมาระหว่างรอยฟันของเขา “แม้ว่าเจ้าจะต้องตายตก เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะ!”

แม้ว่าเจ้าจักต้องตายตก เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะ...

อาโม่หลี่จิตใจล่องลอย ดวงตาของเขาก็มุ่งมั่น พลางย้ำประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“แม้ว่าเจ้าจักต้องตายตก เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะ…”

ตาเฒ่าเว่ยที่อยู่ใกล้เคียงด้วยสีหน้าที่กำลังจมอยู่ในความคิด ฉับพลันก็แปรเปลี่ยนเป็นไร้อารมณ์ สายตาเหม่อลอยของเขาแปรเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ภาพนับไม่ถ้วนแวบเข้ามาในดวงตาของเขา เขาไขว่เขวไปชั่วครู่ ขณะที่เสียงการสังหารดังก้องภายในหูของเขา

แม้ว่าเจ้าจักต้องตายตก เจ้าจักต้องได้รับชัยชนะ!

ตาเฒ่าเว่ยพลันหัวร่ออย่างเงียบๆ ดวงตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยความคาดหวัง

บางทีเจ้าเด็กเหลือขอนี้ในท้ายสุดมันอาจจะกลายเป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจก็ได้

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด