ตอนที่แล้วตอนที่ 024 – [อัสนีบาตสังหาร]!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 026 – ถ้างั้นก็ต้องสู้!

ตอนที่ 025 – บึงหยกทะเลไผ่


ตอนที่ 025 – บึงหยกทะเลไผ่

การแสดงออกของถังเทียนดูจริงจัง ด้วยหมัดเดียว เขาบดทำลายหินตรงหน้าของเขา

ปัง!

ก้อนหินสะเทือนกระจายเป็นเศษเล็กๆนับไม่ถ้วน และทุกก้อนต่างเท่ากันกับขนาดของเกาลัด พวกมันทั้งหมดต่างจากก้อนหินที่เขาใช้ออกด้วยหมัดจุลวินาศเมื่อก่อนหน้านี้ เหล่าก้อนหินเล็กๆนี้ต่างเรียบลื่นคล้ายพวกมันถูกตัดด้วยดาบ

“ช่างทรงพลังจริง! พวกเรามิรู้กล่าวเช่นไรดี! เด็กน้อยนี้เป็นอัจฉริยะ!”

“สามารถที่จะอดทนต่อความยากลำบาก ช่างเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง!”

“ตาเฒ่าเว่ยพบเจอสมบัติล้ำค่าแล้วในครานี้!”

……

เสียงของเหล่าคนงานทั้งต่างโห่ร้องด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าถังเทียนสามารถใช้หมัดทำลายก้อนหินได้ มันเป็นเพียงก้อนหินที่ใหญ่เท่าหมัดของเขา และนั่นเนื่องจากปราณแท้จริงของเขายังอ่อนแออยู่

การรู้แจ้งเกี่ยวกับหมัดจุลวินาศของถังเทียนค่อนข้างถือว่าอยู่ในขั้นชำนาญแล้ว

“ไม่เลว!” สือโถวยิ้มพลางกล่าวกับถังเทียน “แม้ว่าหมัดจุลวินาศจะเป็นเพียงระดับสาม มันก็ค่อนข้างรุนแรง และเจ้าจะค้นพบว่าวิชาหลายๆอย่างต่างจำเป็นต้องใช้พลังในการทำลาย ถ้าหากเจ้าสามารถเข้าใจในการทำลายได้อย่างสมบูรณ์ วิชาการต่อสู้ระดับสูงในภายภาคหน้าเจ้าก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น ดูนี้!”

เขาเดินไปยังหินอัคนีสูงเท่าคนสองคนต่อตัวกัน

ยืนด้วยท่าม้า หดหมัดของเขาระดับเอว สือโถวแสดงออกอย่างจริงจัง

เขาพ่นลมเสียงดัง ใช้ออกด้วยหมัดขวาระเบิดออกครั้งเดียว!

ตูม!

เทียบกับความคาดหวังของถังเทียนขณะที่ชมดูความรุนแรงของหมัด สิ่งที่เกิดขึ้นได้ยินเพียงเสียงระเบิดบนหินอัคนี

ก้อนหินยักษ์ยังคงแน่นิ่ง

นี้มัน...

ถังเทียนรู้สึกงงงวยพลางสงสัย

ทันใดนั้นเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น มองเห็นหินอัคนีความสูงเท่าคนสองคนพังทลายลงเป็นเศษชิ้นเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนในทันที เสียงพังทลายดังลั่น ก่อเกิดให้ฝุ่นผงปลิวกระจาย

บุรุษกล้ามโตคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆก็ใช้ออกด้วยฝ่ามือและก่อเกิดเป็นลมกระโชกพัดพาฝุ่นออกไป

ภูเขาลูกย่อมๆของก้อนหินที่ถูกทำลายปรากฏเบื้องหน้าถังเทียน

ถังเทียนจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปยังกองหิน ภายในใจของตกตะลึงอย่างมิอาจอธิบายได้ ถ้าหากหมัดนี้ถูกชกออกไปยังร่างของผู้คน มันคงจะสยดสยองอย่างยิ่ง!

สือโถวเกรงว่าถังเทียนจะได้รับความตกใจพลางปลอบใจเขา “ข้าฝึกฝนพลังในการทำลายนี้มามากกว่าสิบปี ตราบเท่าที่เจ้าขัดเกลาตัวเอง ความสำเร็จของเจ้าจะยิ่งใหญ่เหนือกว่าข้า

ถังเทียนกระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้นไปด้านข้างพี่ใหญ่สือโถว ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสกระพริบตาอยู่เบื้องหน้าเขา “พี่ใหญ่สือโถว สอนข้า สอนข้า!”

สือโถวมิรู้จะหัวร่อหรือร่ำไห้ดี “ข้าเป็นเพียงคนโง่เง่ามิสามารถสอนสั่งอันใดได้นัก ถ้าหากเจ้าอยู่ที่นี้เป็นเวลาสิบปีและทำลายก้อนหินทุกวัน เจ้าก็จะกลับกลายเป็นแข็งแกร่งกว่าข้าอย่างแน่นอน”

ถังเทียนส่ายหัว “ข้ามิสามารถทำได้ ข้าจำต้องไปพบเฉียนฮุ่ย”

ชั่วครู่ไม่นานเขาก็กำหมัดคำนับอย่างเลื่อมใสพลางกล่าวอย่างจริงจัง “พี่ใหญ่สือโถว สบายใจได้ ข้าจะเหนือกว่าท่านอย่างแน่นอน!”

ด้วยท่าทางน่าหัวร่อของถังเทียนทำให้ผู้คนโดยรอบต่างหัวร่อขึ้น

สือโถวมิได้หัวร่อไปด้วยเขาพลางใช้มืออันใหญ่เท่าใบพัดลูบหัวถังเทียนและกล่าวอย่างจริงจัง “อืม ข้าเชื่อเจ้า!”

เสียงหัวร่อเงียบลงในทันทีเนื่องจากที่พวกเขาตกตะลึงกับการกระทำของสือโถว

สือโถวมิได้อธิบายอันใดเพียงแต่ยิ้มอย่างอ่อนโยนกล่าวอย่างให้กำลังใจ “ทำให้ดี หนุ่มเทพ!”

ถังเทียนยกมือทั้งสองข้างขึ้นพลางโห่ร้อง “วะวู้ววววว! หนุ่มเทพ ลุย!”

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

อาโม่หลี่ถือด้วยดาบเหล็กยักษ์ที่เรืองแสงไปด้วยรังสีดาบ กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาเต็มไปด้วยพลังและดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย

เขายกดาบขึ้น รังสีดาบสีน้ำตาลก็เปล่งประกาย

ดาบตัดไปยังก้อนหิน

ดาบฟันขึ้นและลง รังสีดาบสีน้ำตาลก็ส่งประกายอีกครา

อาโม่หลี่จดจ่ออย่างเต็มที่กับดาบเหล็กยักษ์ภายในมือของเขาด้วยความรู้สึกพอดีมือ ด้วยการฟันต่อเนื่องติดต่อกัน ทำให้ปรากฏหินสี่เหลี่ยมที่สมบูรณ์แบบต่อหน้าทุกคน

“อืม ยอดเยี่ยมมาก” สือโถวตรวจสอบหินสี่เหลี่ยม ด้วยการแสดงออกที่พึงพอใจบนใบหน้าของเขา

“ฮูเร่!” ถังเทียนกระโดดขึ้นยกมือสองข้างของเขาขึ้นพลางโห่ร้อง

อาโม่หลี่ยิ้มอย่างเขินอายบนใบหน้าของเขา เขาค่อนข้างจะยากลำบากเล็กน้อยในสองสามวันที่ผ่านมา ดาบเหล็กตัดก้อนหินคล้ายดูง่ายดาย แต่ตรงกันข้ามมันมิได้ดูเรียบง่ายเลย เหมืองหินต้องการหินสูง ดังนั้นก็มีความต้องการสูงของเหล่านักดาบ

ในช่วงแรกอาโม่หลี่มิคุ้นเคยกับมันเลย ปกติเขาเพียงฝึกวิชาดาบ มันกลับกลายเป็นเรื่องความละเอียดและพิถิพิถันได้อย่างไร? ในความจริงที่ว่าหินอัคนีนั้นแข็งเป็นอย่างมาก และดาบจำต้องกระตุ้นปราณแท้จริงก่อนที่จะสามารถตัดก้อนหินได้ มันจำต้องควบคุบความละเอียดอย่างสูงมากกว่าปราณแท้จริง ด้วยระดับนั้นทำให้ผู้คนตกใจได้เลย

ด้วยการฝึกเช่นนี้ เขารู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ราวกับวิชาดาบของเขาพัฒนาดีขึ้น

เหล่าบุรุษมีกล้ามภายในเหมืองหินต่างดูแลเจ้าเด็กเหลือขอสองคนนี้อย่างชื่นชอบมาก ด้วยปรบมือชมเชยและสองสามคนก็ผิวปากให้

ตาเฒ่าเว่ยปรากฏมาปราศจากร่องรอย

“ว่าไงหนุ่มน้อย ดูคล้ายว่าพวกเจ้าจะทำได้ค่อนข้างดี”

ตาเฒ่าเว่ยเต็มไปด้วยความสุข ขณะที่ทุกคนต่างเข้ามาทักทายเขาทีละคน

สือโถวหันไปหาตาเฒ่าเว่ยพลางกล่าว “ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังคงบกพร่องเล็กน้อย แต่มันก็ถือว่าใช้ได้ เจ้าเด็กเหลือขอสองคนนี้เก่งและยังทนทานต่อความยาำลำบาก ตาเฒ่าเว่ยเจ้าพบสมบัติเข้าแล้ว!”

รอยย่นของตาเฒ่าเว่ยก็ปรากฏขึ้นพลางกล่าวอย่างภูมิใจ “พวกเขาจะได้ร้องห่มร้องไห้แน่ ไปกันเถอะ หนุ่มน้อย การฝึกพิเศษที่นี่ของเจ้าเสร็จสิ้นแล้ว”

ฝึกพิเศษจากที่นี่...

ถังเทียนและอาโม่หลี่ต่างมองหน้ากันด้วยความสยดสยอง มันมีการฝึกพิเศษอันอื่นอีกหรือ?

“ถ้าพวกเขาฝึกสักครึ่งปี พวกเขาคงจะพัฒนากลายยอดฝีมือแล้ว” สือโถวรู้สึกเศร้าใจ

“มันมิมีเวลาแล้ว” ตาเฒ่าเว่ยกล่าวอย่างช่วยอันใดมิได้ “งานชุมนุมยุทธ์ใกล้เข้ามาแล้ว และเจ้าเด็กน้อยสองคนนี้ยังคงมีการฝึกพิเศษอื่นๆอีก ประการแรกควรให้พวกเขาได้ประสบกับทุกสิ่งก่อน และจากนั้นยามเมื่อพวกเขามีเวลาค่อยสอนสั่ง พวกเขาคงมิเสียเวลาเปล่าไป การแนะนำในตอนนี้เพียงพอแล้ว”

สือโถวพยักหน้า “ข้าขอให้ท่านจะคิดถูก”

สือโถวหันไปยังถังเทียนพลางกล่าว “เสี่ยวเทียน จดจำไว้ กระบวนท่าสังหารของหมัดจุลวินาศเรียกว่า [มหาวินาศ]

ถังเทียนพยักหน้าของเขาพลางตอบอย่างจริงจัง “พี่ใหญ่สือโถวข้าจะชำนาญมัน!”

สือโถวยิ้มให้ ทันใดนั้นเขาก็ชักมืออกมาจากด้านหลังของเขา เห็นเขาแบกไปด้หีบไม้ผุพังสองหีบ ค่อยๆก้าวไปยังพวกเขาพลางหัวร่อ

ยามเมื่อหีบไม้เปิดออก ภายในกล่องเป็นสนับมือเหล็กดำคู่หนึ่ง และอีกกล่องหนึ่งดาบยาวสีดำ

“ของขวัญนี้มอบให้เจ้า หวังว่าพวกเจ้าทั้งสองจะชอบมัน”

สือโถวมอบสนับมือและดาบยามให้ถังเทียนและอาโม่หลี่ตามลำดับ

เมื่อยามที่เขาสวมใส่สนับมือ ถังเทียนมิสามารถที่จะรับน้ำหนักของมือได้พลางห้อยตกลง มันช่างหนักยิ่งนัก! มิมีใครสามารถกล่าวได้เลยว่าสนับมือเหล็กดำนี้หนักมากกว่า 30 จิน มันทำให้ถังเทียนตกใจนัก เขาเพียงต้องการที่จะลองสนับมือ เพียงแต่ไม่คาดว่าสนับมือมันจะหนักอย่างยิ่งแต่พอดีสมบูรณ์แบบ

ทั่วทั้งสนับมือของเขารู้สึกคล่องแคล่วเป็นอย่างยิ่ง ปราศจากผลกระผลกับการเคลื่อนไหวนิ้วมือ

อาโม่หลี่เชยชมดาบยาวสีดำ ลูบไล้อย่างชื่นชม เขาชำนาญในวิชาดาบมาหลายปีแล้ว และด้วยการมองเพียงคราเดียวเขาสามารถบอกได้เลยว่าดาบยาวสีดำนี้ยอดเยี่ยมนัก

ตาเฒ่าเว่ยพึมพำ “พวกเจ้าช่างโชคดียิ่งนัก! พวกมันทั้งสองต่างเป็นชุดอาวุธเหล็กดำจากกลุ่มดาราเตาหลอม

“กลุ่มดาราเตาหลอม?” ถังเทียนถามอย่างจริงจัง

“เป็นกลุ่มดาราที่อยู่แสนไกล เหล่าอาวุธยอดเยี่ยมนี้เป็นประโยชน์มาก เจ้าอย่าได้สูญเสียพวกมันไปเชียว และยังมิมีทางที่เจ้าจะหาซื้อพวกมันได้จากที่ใดในที่นี้” ตาเฒ่าเว่ยจ้องมองไปยังพวกมัน

“มิใช่หมายความว่าพวกมันล้ำค่าอย่างยิ่ง?” อาโม่หลี่ถามอย่างตัวสั่น ทั้งสองมือก็กอดดาบเหล็กดำอย่างแน่น

“ฮ่าฮ่า!” สือโถวหัวร่อออกมาเสียงดัง “มันจะไร้ค่าหากทิ้งพวกมันไว้ที่นี้ เจ้าทั้งสองอย่างได้ใส่ใจ พวกมันถูกทิ้งให้ฝุ่นเกาะมาเป็นเวลานานแล้ว พวกมันมิควรอยู่ในที่นี้แล้ว”

ถังเทียนและอาโม่หลี่มิเข้าใจ แต่รู้สึกได้ถึงเบื้องหลังคำกล่าวของพี่ใหญ่สือโถว มันจะต้องมีเบื้องหลังอันน่าเศร้า

ตาเฒ่าเว่ยก็เงียบงัน

สือโถวโบกมือ “ไปได้แล้ว อย่าได้เสียเวลาเล่นไปมากกว่านี้”

แม้มันจะเป็นเพียงยี่สิบวันกว่า หลังจากที่ได้รู้จักกัน ทุกคนต่างก็สนิทสนมกัน

หากมิใช่เพราะความปรารถนาของตาเฒ่าเว่ย พวกเขาคงมิเต็มใจที่จะจากเหมืองหินนี้ไป

※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※

“นี่ ตาเฒ่า พี่ใหญ่สือโถวและพรรคพวกมาจากที่ใดกัน? ข้ามักจะรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งจากพวกเขา?”

ระหว่างเดินทาง ถังเทียนอดมิได้ที่จะกล่าวถามตาเฒ่าเว่ย

ตาเฒ่าเว่ยมองไปยังเขา “ทำไมผายลมน้อยนี้ถึงได้ถามมากมายยิ่งนัก?”

ถังเทียนก็จ้องมองทันที “ตาเฒ่า ท่านเรียกว่าใครเป็นผายลมน้อย!”

จากด้านข้างอาโม่หลี่ยกมือของเขา “ตาเฒ่า ข้ายืนยันได้ พื้นฐานถังตูดไม่ได้เล็กเลยนะ”

[คั่นหนังสือ : จากโน็ตทางผู้แปลอังกฤษว่าไว้ครับ บทสนทนานี้คือการเล่นคำของทางจีนนะครับ 小屁 เสี่ยวผี้ = ผายลมน้อย ในที่นี่ใช้เรียกเด็กน้อยไม่รู้ประสีประสา

屁股 ผี้กู = ก้น ใช้ตัวอักษรเดียวกัน เสียงเดียวกัน เพียงแต่ต่างบริบท

เหมือน "ตด" เติมสระอู จึงกลายเป็น "ตูด" ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ Tongchat Chotisen ครับ ]

ตูด...เกี่ยวกันที่ใด คล้ายมีบางอย่างผิดพลาดไป...

ถังเทียนเกาหัวของเขา

ตาเฒ่าเว่ยจู่ๆก็กล่าวขึ้น “เจ้าต้องจดจำไว้ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่คู่ควรแก่การนับถือ ภายในโลกนี้มีคนจำนวนมากที่อันตรายและชั่วร้ายอยู่เสมอ แต่ก็ยังมีกลุ่มคนผู้ซึ่งยึดมั่นศรัทธาในคำสาบาน กลุ่มคนนี้เป็นกลุ่มที่คู่ควรแก่การนับถือ”

ถังเทียนคล้ายเข้าใจพลางอดมิได้ที่จะสัมผัสไปยังสนับอันเย็นยะเยือก สนับแข็งและเย็นมาก ก่อเกิดให้เขาเชื่อมั่นในมัน

“นี่ ตาเฒ่า การฝึกพิเศษของพวกเราต่อไปคืออันใด?” ถังเทียนถาม

“แล้วเจ้าจะรู้ในไม่ช้า” ตาเฒ่าเว่ยกล่าวตอบมิได้หันไปมอง

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำแร่แห่งหนึ่ง และตาเฒ่าเว่ยก็โยนอาโม่หลี่ลงไปในถ้ำ

“อาโม่หลี่ วิชาดาบในวัยของเจ้านั้นมีความโดดเด่นอยู่แล้ว สิ่งที่เจ้าขาดไปมิใช่กระบวนท่า แต่เป็นความลึกซึ้งของแก่นแท้ เจ้าฝึกฝนวิชาดาบปฐพีธาตุ และเหล่าอัจฉริยะผู้ฝึกฝนในวิชาดาบปฐพีธาตุได้บ่งบอก คือการเข้าใจถึงแก่นแท้ปฐพี เมื่อยามที่เจ้าเข้าใจถึงแก่นแท้แล้ว เจ้าจะสามารถฝึกฝนดาบปฐพีคลั่งได้อย่างแท้จริง”

แก่นแท้ของปฐพีแลดูคล้ายเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ

ในความจริงมันเป็นเพียงแค่ขุดแร่...

ถังเทียนสาปแช่งอยู่เงียบๆภายในใจของเขา

แน่นอนว่ายามเมื่อตาเฒ่าเว่ยมาเขามายังสถานที่นี้ ถังเทียนก็มิได้มีความปรารถนาจะสาปแช่งเขาอีกต่อไป

ทะเลต้นไผ่อันมิมีที่สิ้นสุด ภาพเงาต้นไผ่ปลิวไสวไปตามลม บางครามองเห็นภาพเงาดั่งสวมใส่ผ้าแพรและหมวกไผ่สานภายในทะเลต้นไผ่ส่ายไปมา

“อันธพาลถัง วิชาตัวเบาของเจ้าช่างต่ำต้อยและนั่นเป็นข้อบกพร่องของเจ้า เจ้าอาจจะเคยได้ยินสิ่งนี้ บึงหยกทะเลไผ่ มันเต็มไปด้วยต่อฟันเลื่อย มันเป็นสิ่งมีชีวิตมีค่ายิ่งนัก เหล็กไนและปีกของพวกมันก็มีค่า ซึ่งทั้งสองต่างมีราคาค่อนข้างมาก

ทันทีที่ตาเฒ่าเว่ยกล่าวถึงเรื่องเงิน ดวงตาของเขาก็ส่องแสงเป็นทอง

“นี่เป็นสถานที่ฝึกซ้อมอันมีค่า มิเพียงมันจะสามารถที่จะฝึกฝนวิชาตัวเบาแล้ว มันยังสามารถฝึกฝ่ามือไร้เงาได้ด้วย เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าต้องจดจำไว้ เพื่อที่จะฝึกวิชาการต่อสู้ เจ้ามิอาจสูญเสียรายได้นี้ เจ้ามิมีวิชาฝ่ามือระดับสอง ข้าจะมอบยันต์จิตวิญญาณฝ่ามือลอยล่องให้เป็นของขวัญ มันเป็นยันต์ขั้นทองแดง อย่าได้ดูแคลนมันเชียว”

ตาเฒ่าเว่ยก็ให้กำลังใจ “หนุ่มเทพ ทำให้ดี!”

ยามเมื่อเขาเสร็จสิ้นภาพเงาของเขาก็กระพริบพลางหายตัวไป

ตาเฒ่านี้ใช้แรงงานเด็กเป็นแน่นอนแล้ว

ถังเทียนจ้องมองอย่างว่างเปล่าในทิศทางที่ตาเฒ่าเว่ยจากไป ค้างอยู่ชั่วเวลาหนึ่งก่อนจะขยับ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ถังเทียนยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมนี้ เขายอมรับได้เลยว่าบึงหยกทะเลไผ่แห่งนี้เหมาะสมกับการฝึกฝนวิชาตัวเบาและฝ่ามือไร้เงาอย่างแท้จริง

บึงหยกทะเลไผ่เป็นสถานที่ที่ประหลาดอย่างยิ่ง พวกมันงอกงามเป็นทะเลไผ่อยู่เหนือบึง ถ้าผู้ใดหวังจะเข้าไปยังทะเลไผ่ พวกเขาจะจำต้องเดินตามบนกิ่งไผ่ ปราศจากการควบคุบที่ดีของวิชาตัวเบา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวไปต่อได้ ต่อฟันเลื่อยเป็นเจ้าถิ่นชนิดพิเศษของบึงหยกทะเลไผ่นี้ มันตัวใหญ่กว่าต่อธรรมดา ทั่วทั้งตัวของมันสีหยก และปีกของพวกมันรูปร่างดั่งใบไผ่

[คั่นหนังสือ : ต้นฉบับอังกฤษพูดถึงผึ้งนะครับ แต่หลังจากที่ไปค้นหาดูในต้นฉบับจีนแล้วเจอเป็น Tenthredinidae หรือ ต่อฟันเลื่อยครับ ก็เลยใช้ต่อแทนผึ้ง]

เหล็กไนและปีกของต่อฟันเลื่อยใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก ส่งผลให้พ่อค้าผู้เชี่ยวชาญต่างทำการค้าอยู่ด้านข้างของทะเลไผ่

จึงมีกลุ่มผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อออกจับตัวต่อเพื่อหาเลี้ยงชีพ

ถังเทียนจ้องมองไปยังทะเลไผ่อันไร้ขอบเขตนี้ ด้วยจิตวิญญาณที่ลุกโชติอย่างคาดมิถึง

โอ้ ข้าคาดว่าข้าควรจะเริ่มฝึก [ท่าเท้าท่องไพร] อย่างจริงจังแล้ว

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด