ตอนที่แล้วตอนที่ 017 – สถาบันผลึกฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 019 – ผลึกฟ้าติดร่างแห

ตอนที่ 018 – กายากระเรียน


ตอนที่ 018 – กายากระเรียน

ภายในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ อาจาย์ใหญ่ยื่นถ้วยชาให้ไปยังตาเฒ่าเว่ย กล่าวด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกยินดี “ในที่สุดเจ้าก็พบศิษย์ที่เหมาะสมแล้ว ตลอดหลายปี เจ้าปฏิเสธที่จะพบข้า แต่ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่มีทางยอมแพ้อย่างง่ายดายนัก”

ตาเฒ่าเว่ยยกถ้วยชาดื่มก่อนที่เขาจะเปิดปากกล่าว “ฮ่าฮ่า เจ้ายังคงเป็นผู้เดียวที่เข้าใจในตัวข้า ข้าได้สังเกตและศึกษาอาโม่หลี่มาไม่กี่ปี และข้ารู้ได้ว่าเด็กคนนี้อารมณ์เป็นเช่นไร เขาไม่เลวนัก และดูคล้ายกับข้าเมื่อวัยหนุ่ม ฮ่าฮ่า!”

อาจารย์ใหญ่ยิ้ม “อย่างนั้นข้าคาดว่าเจ้าอัธพาลตัวน้อยนี้คงมีความทระนงและอวดดีอย่างยิ่ง”

“เขาแน่นอนว่ามีความทระนง แต่เขาไม่ได้เป็นพวกอวดดี และเขามีบุคลิกที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ ในทางตรงกันข้าม เด็กน้อยนี้ เขาเป็นคนบ้าคนหนึ่ง ถ้าหากเขาไม่ได้เหมาะสมกับวิชาดาบแล้วละก็ ข้าก็ไม่ยอมทนจำต้องส่งเขามายังเส้นทางผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดแล้ว” ตาเฒ่าเว่ยดูคล้ายเสียใจ

“โอ้” อาจารย์ใหญ่ผงะเล็กน้อย “ได้รับการชื่นชมจากเจ้านั้นไม่ง่ายเลย ข้าก็คาดหวังกับเขาไว้เช่นกัน เพื่อสามารถที่จะเลือกเส้นทางผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด แน่นอนเขาต้องเป็นคนที่พิเศษ”

“ฮ่าฮ่า เขาเป็นเด็กที่น่าสนใจ” ตาเฒ่าเว่ยกล่าว

อาจารย์ใหญ่หัวร่อ “สำหรับเจ้าที่มาหาข้า มันแน่นอนว่าต้องมีจุดประสงค์ซ่อนเร้น บอกกล่าวเถอะ สิ่งใดที่ข้าพอจะช่วยเจ้าได้กัน?”

“อื้ม ก็ไม่มีมากนัก” ตาเฒ่าเว่ยปราศจากความอาย “อาโม่หลี่ไม่มีปัญหาใดๆกับการเรียนรู้วิชาดาบปฐพีคลั่ง เพียงแต่เขาขาดสถานที่ฝึกซ้อม ข้าอยากจะขอยืมใช้ลานฝึกซ้อมของเจ้าเพื่อให้เขาได้ฝึกซ้อมมัน ส่วนถังเทียนเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว เขาอายุสิบเจ็ดปีแล้วตอนนี้ แต่เขาพึ่งจะสำเร็จเพียงวิชาการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเมื่อไม่นานมานี้ ถ้ายังคงช้าอยู่เขาจะล้าหลังคนอื่นแล้ว”

“สิบเจ็ดปี?” รอยยิ้มบนใบหน้าของอาจารย์ใหญ่จางหายไปพลางจ้องมองไปยังตาเฒ่าเว่ย “เพียงสำเร็จแค่วิชาการต่อสู้พื้นฐาน?”

“ถูกต้อง!” ตาเฒ่าเว่ยยิ้ม “เพียงแต่ เจ้าไม่อาจดูแคลนเขาได้…”

อาจารย์ใหญ่ยกมือขึ้นขัดตาเฒ่าเว่ย “ข้าไม่ได้ดูแคลนเขา เพียงแต่ว่าข้าไม่คาดคิดว่าเด็กอายุสิบเจ็ดปีผู้ที่ซึ่งพึ่งจะสำเร็จเพียงวิชาการต่อสู้พื้นฐานจะมีค่าพอที่จะดูแล เปลี่ยนเป็นผู้อื่นเถอะ”

รอยยิ้มตาเฒ่าเว่ยสลายหายไปพลางขมวดคิ้วขึ้น “หรือเจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าไม่สามารถช่วยข้าได้งั้นรึ?”

“ข้าสามารถช่วยในเรื่องอาโม่หลี่ เพียงแต่ข้าไม่เห็นคุณค่าในการดูแลถังเทียน” อาจารย์ใหญ่ยังคงยืนยัน “ข้าจดจำได้ว่า ถังเทียนเป็นสุดยอดผู้งมงายยุทธ์ เจ้ารับนักศึกษาคนนี้มาได้อย่างไร?”

ตาเฒ่าเว่ยกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าสงสัยในสายตาข้า?”

“เจ้ามันใจอ่อนเกินไป ตลอดมาพบเจอแต่เรื่องแปลกประหลาด” อาจารย์ใหญ่กล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเอาแต่เชื่อว่าบนโลกใบนี้จะมีปาฏิหาริย์ ผู้ที่ไม่มีพรสวรรค์ก็ถือว่าเป็นเยี่ยงผู้คนธรรมดา ไหนจะเวลาที่เขาแทบจะไม่มีแล้ว มาเพื่อพบข้า ข้านั้นสุขใจเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าพาบุคคลที่ไม่มีแม้กระทั่งศักยภาพ ข้าไม่สามารถยอมรับมันได้ เจ้ากำลังทำตัวเองเสียเวลาเปล่า และยังเสียความสัมพันธ์ระหว่างเราสอง”

ตาเฒ่าเว่ยหัวร่อเสียงเย็นชา “เจ้าก็ยังคงเป็นเช่นเดิม มิมีแม้กระทั่งความเมตตา”

“เพราะสิ่งนั้นจึงทำให้สถาบันผลึกฟ้าเป็นอันดับหนึ่งในเมืองเมฆาดารายังไงล่ะ ในขณะที่สถาบันคาราเมลของเจ้า เป็นเพียงอันดับสามจากท้าย” อาจารย์ใหญ่ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะยอมแพ้

ตาเฒ่าเว่ยคร้านที่จะโต้เถียงพลางกล่าวอย่างชัดเจน “งั้นพวกเราจะได้พบกันในงานชุมนุมยุทธ์เมฆาดารา”

เขาหันหลังผลักประตูและเดินออกไปในทันทีที่เขาเสร็จสิ้นคำกล่าวของเขา

ยามเมื่อถังเทียนและอาโม่หลี่พบเห็นสีหน้าดำทะมึนของตาเฒ่าเว่ย ทั้งสองก็ไม่ได้กล่าวพูดอะไรสักคำ

กลับไปที่สถาบันคาราเมล ทั้งหมดเดินตามอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ ไม่มีแม้แต่คำกระซิบกระซาบ

ถังเทียนรีบโยนเรื่องราวนี้ไปไว้เบื้องหลัง และฝึกฝนหมัดอัสนีบาตของเขาอย่างต่อเนื่องทุกวัน แม้ว่าประสิทธิภาพในปัจจุบันของเขาจะไม่ได้เป็นเฉกเช่นเดียวกับตอนอยู่เบื้องหลังประตูกางเขนฝึกอย่างลำบาก เขายังคงใช้ออกสำเร็จหมัดอัสนีบาตสี่พันหมัดต่อวัน

ถังเทียนติดเป็นนิสัยในเรื่องความเพียรพยายามในการฝึกและฝึกจนเขาหมดเรี่ยวแรงทั้งหมด จากนั้นก็ฝึก [ตำราปราณกระเรียน] อย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ความคืบหน้าของ [ตำราปราณกระเรียน] เพิ่มขึ้นอย่างยอดเยี่ยม ในความจริงที่ว่าถังเทียนสามารถสาเร็จหมัดอัสนีบาตได้ถึงสี่พันหมัดต่อวัน เนื่องจากความช่วยเหลืออย่างยอดเยี่ยมของ [ตำราปราณกระเรียน]

จมอยู่ในการฝึก ความสำเร็จหมัดอัสนีบาตของถังเทียนบรรลุไปถึง 160,000 หมัดแล้ว

รอบที่สามแห่งความเพียร

ถังเทียนกล้ำกลืนฝืนทนต่อความทรมานพลางชกออกหมัดอย่างต่อเนื่อง หมัดของเขาหายไปและปรากฏในอากาศอย่างรวดเร็วกว่าอย่างที่เคยเป็น และรวดเร็วอย่างไม่อาจหยั่งถึงได้

หมัดของเขาปราศจากรูปแบบไร้ร่องรอย เส้นสายปราณแท้จริงที่เชื่อมโยงกับบ่อตันเถียนที่สาม ทุกคราที่ใช้หมัดออก ปราณแท้จริงภายในบ่อตันเถียนที่สามจะส่งออกไปยังเส้นปราณในร่างกายของถังเทียนทีละนิด

เส้นสายของปราณแท้จริงนี้คล้ายดั่งเส้นขนวัว และถังเทียนไม่ได้รู้สึกถึงมันเลย เส้นสายเล็กๆทั้งหมดของปราณแท้จริงนี้ โคจรพร้อมกับที่ถังเทียนใช้ออกหมัดอย่างไม่หยุดหย่อนและค่อยๆเติมเต็มทุกส่วนของร่างกายเขา

แม้ว่าเส้นสายเหล่านั้นจะมีจำนวนเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดใจ นับตั้งแต่ถังเทียนเริ่มบ่มเพาะ [ตำราปราณกระเรียน] เขาก็ปล่อยออกมาได้ถึง 150,000 และนั่นหมายถึงเป็นเส้นอันเล็กละเอียด 150,000 เส้นสายปราณแท้จริง เส้นสายเหล่านั้นคล้ายดั่งกลุ่มคลื่น เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

เส้นสายเหล่านั้นโคจรผ่านทุกเส้นลมปราณ ซึ่งบางเส้นเหล่าผู้คนส่วนมากก็ไม่เคยได้ใช้มัน เส้นลมปราณเส้นแล้วเส้นเล่าถูกทะลวงออกโดยปราณแท้จริง เปล่งประกายราวกับมีชีวิต

เส้นปราณภายในร่างกายมนุษย์ ประกอบด้วยสิบสองเส้นทางปราณที่มีการโคจรกันมากที่สุด พวกมันมีขนาดความกว้างที่เหมาะสมกับการโคจรปราณแท้จริง นอกเหนือจากนั้น มีแปดเส้นทางปราณที่ผิดแปลก ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์ดั่งเส้นทางปราณหลักทั้งสิบสอง เพียงแต่เป็นเส้นทางธรรมชาติของเหล่านักสู้ที่เติบโตมา นอกเหนือจากเส้นปราณหลักทั้งสิบสองและเส้นทางผิดแปลกทั้งแปดแล้ว ยังมีเส้นปราณขนาดเล็กก่อตัวเป็นดั่งเส้นใย และเป็นเส้นปราณที่เหล่านักสู้ต่างไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตา

พวกมันเป็นเส้นที่เล็กและบอบบาง ไม่สามารถที่จะทนทานปราณแท้จริงได้

อย่างไรก็ตามถังเทียนกลับไม่ได้รู้ถึงเรื่องนั้น ทุกคราที่หมัดปล่อยออกไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในปราณแท้จริงของเขา

ถังเทียนชกออกอย่างต่อเนื่อง และมันก็ไม่ไกลจากความสำเร็จ 200,000 หมัดแล้ว ยามเมื่อหมัดอัสนีบาตถึง 200,000 หมัด เขาคงจะสามารถปลดปล่อยหมัดอัสนีบาตอย่างสมบูรณ์แบบ ในความเป็นจริง ทุกสิบหมัด เขาสามารถใช้ออกสำเร็จได้ถึงเก้าหมัดอัสนีบาต

หมัดอันสีบาตของเขาแสดงออกให้เห็นถึงบุคลิกของเขา มันรวดเร็วและสง่างาม

‘แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก’ เหงื่อไหลหยดอย่างไม่หยุด แต่ก็ไม่ส่งผลต่อสมาธิของเขา

ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาได้บรรลุถึงเป้าหมายของเขา แต่ถังเทียนก็ไม่รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แทนที่เขากับรู้สึกถึงความหวัง และเขาก็ชกออกหมัดเร็วยิ่งขึ้น

ลมที่เกิดจากหมัดของเขาก็แปรเปลี่ยนไป กลายเป็นรุนแรงและรวดเร็วขึ้น

ปราณแท้จริงภายในบ่อตันเถียนที่สาม รู้สึกคล้ายมันเต็มไปด้วยพลังที่เก็บสะสมไว้ และมันก็พรั่งพรูขึ้น

ถังเทียนลืมเลือนทุกสิ่งทั้งหมด เพื่อที่เขาจะสามารถมีสมาธิและมองเห็นหมัดที่เขาปลดปล่อยออกอย่างชัดเจน เขาสามารถที่จะเห็นหมัดได้อย่างชัดเจนยามเมื่อมันสลายหายไปในอากาศและคลื่นอากาศที่ก่อตัวอย่างละเอียด

หมัดแล้วหมัดเล่า!

คลื่นอากาศในอากาศกระจายออกคล้ายดั่งสายน้ำ ซึ่งทะลวงด้วยหมัด

200,000 หมัด!

ร่างกายของถังเทียนสั่นสะท้าน และปราณแท้จริงจากบ่อตันเถียนที่สามกระแทกอย่างดุร้าย ดูคล้ายมันต้องการที่จะทะลายออกมา

เสียงร้องสดใสของกระเรียนดังเข้ามาในจิตใจเขา

ทันใดนั้นหมัดของถังเทียนก็สลายหายไปในอากาศ

ยามเมื่อหมัดของเขาปรากฏออกมา ก็มีรังสีหมัดสีขาวปกคลุมหมัดของเขา

ถังเทียนตื่นตะลึง เขาจ้องมองไปยังหมัดของเขา เขาพึ่งจะปลดปล่อยหมัด...รังสีหมัด...

เขาพยายามที่จะชกออกอีกครั้ง!

มันเป็นจริง หมัดของเขาเรืองแสงไปด้วยรังสีหมัดสีขาว

รังสีหมัด! มันคือรังสีหมัดจริงๆ!

มีเพียงวิชาหมัดระดับสามเท่านั้นที่จะปรากฏรังสีหมัด เขารู้สึกประหลาดใจเหลือเกินที่พบเห็นมันเกิดขึ้นด้วยมือของเขา

ถังเทียนกระโดดขึ้นด้วยความดีใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงรังสีหมัดอันเบาบาง แต่พลังของมันก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หมัดอัสนีบาตเป็นเพียงวิชาหมัดระดับสอง แต่วิชานี้พลังที่ถูกสร้างขึ้นมันมาจากกล้ามเนื้อ ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งสองของวิชาหมัดพื้นฐานและหมัดอัสนีบาตมาจากต้นกำเนิดเดียวกันและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อเกิดรังสีหมัด

รังสีหมัดที่แท้จริงกระบี่และดาบมิอาจกล้ำกรายได้ มันมีพลังในการทำลายแม้กระทั่งศิลาและทองคำ

“ฮ่าฮ่า! รังสีหมัด! ข้าสามารถใช้รังสีหมัด! ข้าสามารถใช้รังสีหมัดได้!”

สิ่งที่เรียกว่า ‘รังสีหมัดสีขาว’ สามารถก่อเกิดขึ้นโดยการปลดปล่อยปราณแท้จริง และนี้เป็นลักษณะเฉพาะของวิชาการต่อสู้ระดับสาม [ผ่าปฐพี] ของอาโม่หลี่ก็สามารถปลดปล่อยรังสีดาบได้ ในอดีตถังเทียนเคยที่จะปลดปล่อยปราณแท้จริง แต่เขาก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จของรังสีหมัด

นั้นหมายถึงหมัดอัสนีบาตของถังเทียนนั้นดีเพียงพอที่จะเริ่มฝึกวิชาการต่อสู้ระดับสามแล้ว

หลังจากนั้นไม่นานถังเทียนก็สงบลงพลางคิด สาเหตุของหมัดอัสนีบาตก่อเกิดรังสีหมัดได้อย่างไร?

หมัดอัสนีบาตเป็นเพียงวิชาหมัดระดับสอง ธรรมดาที่ควรจะเป็นมันไม่สามารถที่จะก่อเกิดเป็นรังสีหมัดได้

ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงแรงกระเพื่อมของบ่อตันเถียนที่สามและเหล่ากระเรียน หัวใจก็แทบกระเด็นกระดอน มันคือปราณแท้จริง เขารีบนั่งลงและตรวจสอบกายาปราณแท้จริงของเขา บ่อตันเถียนที่สามเต็มไปด้วยปราณแท้จริง มันยากนักที่จะหาเบาะแสใดๆได้

จากนั้นเมื่อถังเทียนตัดสินใจจะชกออกหมัดอัสนีบาตอีกครา ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เส้นสายของปราณแท้จริงโคจรไหลออกจากบ่อตันเถียนที่สาม เข้าสู่เส้นทางยามปกติของการบ่มเพาะปราณของเขาและตรงไปยังหมัดของเขา

ช่างน่าสนใจนัก!

ถังเทียนปล่อยออกหมัดอัสนีบาตอย่างต่อเนื่อง และตั้งสมาธิไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา

ปราณแท้จริงภายในร่างกายของเขาโคจรอย่างผิดปกติ ด้วยแหล่งที่มาจากตันเทียนและเส้นทางปราณคล้ายกับเป็นตาข่ายยักษ์ปกคลุมไปทั่วร่างกายของถังเทียน เมื่อยามโบกหมัดของเขา เส้นใยปราณแท้จริงในร่างกายของเขาก็แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เหล่าเส้นสายเล็กๆของปราณแท้จริงเริ่มโคจรไปยังหมัดของเขา ราวกับพวกมันโคจรตามคำสั่งอย่างนอบน้อม ก่อเกิดเป็นรังสีหมัด

ถังเทียนปล่อยออกหมัดอัสนีบาตครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อสังเกตุถึงการเปลี่ยนแปลงของตาข่ายปราณแท้จริง เนื่องเพราะเขารู้สึกคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของตาข่ายปราณแท้จริง

ประเดี๋ยวนะ ถังเทียนพลางตบไปยังหัวตัวเองคล้ายคิดออกถึงบางอย่าง

ภาพเงาของกระเรียน!

ตาข่ายปราณแท้จริงที่ปกคลุมทั่วร่างของเขามันเป็นโครงร่างของกระเรียน หมัดของถังเทียนเป็นส่วนจะงอยปากของกระเรียน

ยามเมื่อถังเทียนปล่อยหมัดของเขาออก ปราณแท้จริงก็รวมมายังจะงอยปากของกระเรียนและก่อเกิดเป็นรังสีหมัด และเมื่อยามที่เขาหดหมัดของเขา ภาพเงาของกระเรียนก็แปรเปลี่ยนเป็นจางหายเลือนลางอีกครา

ปราณกระเรียน!

มันช่างน่าอัศจรรย์อะไรเช่นนี้!

ถังเทียนตะลึงจนอ้าปากค้าง ไม่ต้องสงสัยเลยทำไมนิกายกระเรียนถึงทรงพลังนักในยุคที่พวกเขารุ่งเรือง พวกเขามีวิชาการบ่มเพาะปราณที่ทรงพลังนี่เอง

ถังเทียนไม่ได้รู้เลยว่าตำราปราณกระเรียนที่เขาบังเอิญเข้าใจนั้น สิ่งที่นิกายกระเรียนบ่มเพาะอยู่ในตอนนี้มันเป็นเพียงฉบับปรับปรุงมาจากตำราปราณกระเรียน ตำราปราณกระเรียนนั้นค่อยๆหายไปและตำรานี้ได้ถูกส่งผ่านมายังอาจารย์ใหญ่ ในเส้นทางอันซับซ้อน หากไม่มีใครชี้แนะถึงจุดสำคัญของลักษณะเฉพาะของภาพเงากระเรียน มันก็คงจะยากลำบากยิ่งที่จะฝึกบ่มเพาะ ดังนั้นผู้คนจำต้องฝึกบ่มเพาะอย่างต่อเนื่องดั่งเช่นถังเทียน เพื่อเปิดช่องเส้นลมปราณอันเล็กที่ถูกละเลย ซึ่งรู้จักกันในนามว่า กายากระเรียน

ยันต์จิตวิญญาณการบ่มเพาะปราณขั้นเงินระดับสาม [ตำราปราณกระเรียน] มีค่าอย่างยิ่งสำหรับเหล่าสาวกที่อายุน้อยภายในนิกายกระเรียน กายากระเรียนก่อเกิดเป็นพื้นฐานของวิชาการต่อสู้ของนิกายกระเรียน และนี้เป็นธรรมเนียมของนิกายกระเรียนอย่างแท้จริง

ภายในความคลุมเคลือของเขา ถังเทียนได้ลงมือบ่มเพาะกายากระเรียน

ในตอนนี้ หมัดของเขาบรรจุไปด้วยปราณแท้จริงจากทั่วร่างกายของเขา และหลอมรวมเป็นชั้นแล้วชั้นเล่าก่อเกิดปราณหมุนเวียนเรื่อยๆ

บางคราที่เขาวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์และประเด็นสำคัญมันดูชัดเจนธรรมดา ยันต์จิตวิญญาณขั้นเงินนี้ประทับร่างเขามาเป็นเดือนแล้ว เขารู้เรื่องนี้ภายในใจและตอบสนองทันที ความเข้าใจอันลึกซึ้งต่างไหลไปยังสมองของเขา ยิ่งไหลเข้าไปมากเท่าไหร่ความเข้าใจของเขาก็ยิ่งมากขึ้น

ทันใดนั้นถังเทียนก็ราวกับคิดสิ่งใดออก เส้นปราณที่ถูกละเลย เส้นสายที่เล็กและคล้ายไร้ประโยชน์ยามเมื่อโคจรสามารถระเบิดเต็มไปด้วยพลัง และเมื่อยามปลดปล่อยปราณแท้จริง การระเบิดพลังช่างน่าอัศจรรย์จริง

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ เมื่อกายากระเรียนได้ถูกบ่มเพาะ ไม่ใช่สามารถเพียงใช้ร่วมกับวิชาหมัดเท่านั้น มันยังสามารถใช้ออกร่วมกับวิชาใดก็ได้

ปราศจากความกังวลใจอันใด ถังเทียนจมอยู่กับการบ่มเพาะอย่างหนัก

200,000 แล้วอย่างไร ยังมี 400,000 หมัดต่างหากที่รอข้าอยู่

เสริมสร้างกายากระเรียน!

เรียนรู้กระบวนท่าสังหาร!

ถังเทียนก็รู้สึกฮึกเหิม

***********************************************************

ติ ชม รับข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ ได้เลย และกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด