ตอนที่แล้วตอนที่ 54 จุดจบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 56 ทางในถ้ำ

ตอนที่ 55 ดอกหญ้าคายตะวัน


55

 

เวลาผ่านไปจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำ ดวงดาราทั้งสิบแปดดวงด้านบนพราวระยับกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ดวงจันทร์กลมโตสีเหลืองทองลอยเด่น และทั้งหมดนั้นไม่ใช่ภาพมายา

 

ยามที่พักฟื้นพลังจางหมิงได้สอบถามจิ้งจอกน้อยถึงสภาพรอบด้าน คำตอบที่ได้มาสรุปได้ว่าที่แห่งนี้คือผืนป่าของจริงที่ตั้งอยู่ในค่ายกลขนาดยักษ์ อาณาเขตพื้นที่ก็ดูจะไม่ใช่น้อย มีความเป็นไปได้ว่าค่ายกลนี้จะมีมาก่อนหน้าที่สำนักจะถูกก่อตั้งขึ้นจึงไม่มีผู้ได้ล่วงรู้ความลับ หรือรู้แต่ไม่ได้เปิดเผยออกมา

 

ว่าแต่ที่นี่ร้อนเกินไปหรือเปล่า

 

จางหมิงขยับลุกขึ้นนั่งแล้วปาดเหงื่อบนหน้าผาก ร่างกายของมันกลับมาสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าเกิดจากเม็ดยาหรือร่างกายของมันเองก็ดี หากมันก็ไม่ได้เร่งเดินทางไปต่อแต่กลับสำรวจรอบด้านอย่างจริงจังแทน ความมืดนั้นไม่ได้เป็นปัญหากับวิชาเนตรจริงแท้ของมัน ยิ่งมีแสงจันทร์ส่องสว่างก็ยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม

 

ป่าโดยรอบส่วนใหญ่เป็นไม้เขตร้อนหรือพืชพันธุ์ที่ชื่นชอบอุณหภูมิสูง ในตอนกลางวันมันอาจคิดได้ว่าความร้อนนี้เกิดจากแสงแดด แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางคืนมันก็ยังคนร้อนมากอยู่ดี นั่นแปลได้ว่าพื้นที่แห่งนี้คืออาณาเขตของฝั่งตะวันตกที่มักจะร้อนจัดจากเหล่าภูเขาไฟหลายแห่ง

 

แต่ทำไมค่ายกลถึงพามาที่นี่!

 

ในวิชาทั้งหมดที่มีผู้ถือครองในอาณาจักรมังกรทะยาน ไม่มีวิชาหรือค่ายกลใดที่สามารถนำพาผู้คนเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังที่ห่างไกลได้ นี่ไม่นับว่าสามารถพามาได้ทีละเป็นพันคน หากยังคงอยู่มานานจนไม่อาจนับอีกต่างหาก

 

จางหมิงยังไม่ได้มั่นใจกับความคิดของตนเองนัก แต่ที่มันมั่นใจว่าที่แห่งนี้คือของจริงจากการตรวจสอบภาพมายาของจิ้งจอกน้อยเท่านั้น แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วเหตุใดสำนักที่อยู่เขตตะวันตกอยู่แล้วจึงตรวจหาที่นี่ไม่พบ

 

เอาเถอะ

 

ปล่อยเรื่องราวที่ดูจะใหญ่โตนั้นไปก่อน สิ่งที่จากหมิงต้องสำรวจป่าเขตร้อนนี้จริงๆเพราะสมุนไพรที่มันต้องใช้แก้พิษเหมันต์นิรันดร์จำเป็นต้องมีสมุนไพรธาตุร้อนเป็นส่วนผสม มันยังไม่ได้ลืมหรอกนะว่าในตัวยังมีพิษอยู่

 

ตัวยาสามสิบสี่ชนิด หนึ่งในนั้นคือบัวหินที่มันได้มาอยู่ก่อน นอกนั้นอีกยี่สิบเก้ามีในสำนักและมีขายอยู่ทั่วไป จะขาดก็แต่สมุนไพรอีกสี่และตัวกลั่นผสมที่จำเป็น

 

ดอกหญ้าคายตะวัน ผลึกธาตุอัคคี ผลเมฆาสีชาด และตัวกลั่นผสมเป็นน้ำจากแอ่งลาวา

 

ผลึกธาตุอัคคีและน้ำจากแอ่งลาวาคงหาไม่ได้ในแถบนี้ ผลเมฆาสีชาดก็เป็นอะไรที่หาได้ยากเย็น จะมีก็แต่ดอกหญ้าคายตะวันที่อาจจะมีอยู่บ้าง

 

ความหายากของดอกหญ้าคายตะวันไม่ได้อยู่ที่จำนวนการเกิด หากอยู่ที่การสังเกตแยกแยะ ดอกไม้ชนิดนี้ตามจริงเป็นเพียงแค่ต้นหญ้าที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่ลักษณะภายนอกของมันเหมือนกับดอกพิษแดงไม่มีผิด และแน่นอนว่าดอกไม้ชนิดนั้นมีพิษแม้ไม่ร้ายแรงมากแต่ถ้าใช้เป็นส่วนผสมของยาจะทำให้สรรพคุณยาเปลี่ยนไปเป็นร้ายมากกว่าดี

 

กลีบดอกสีเหลืองเข้ม ก้านและใบสีแดงจนเกือบดำ นั่นคือรูปลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของมันและที่จากหมิงต้องมองในตอนกลางคืนเพราะดอกหญ้าคายตะวันจะหุบลงเมื่อพระอาทิตย์ตก ต่างจากดอกพิษแดงที่จะบานอยู่แบบนั้นจนกว่ามันจะโรยราไป

 

เกือบค่อนคือนที่จางหมิงตามหา จนกระทั่งมันคิดว่าความร้อนแถบนี้อาจน้อยเกินกว่าที่ดอกหญ้านั้นจะเกิดขึ้นมา แต่มันก็พบเป็นกอใหญ่ชิดแนวผาที่จะอย่างไรก็ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดนี้

 

จางหมิงพุ่งตัวเข้าไปเมื่อพบ แต่ก่อนที่จะได้เก็บกลับเข้าอัญมณีผนึกมันก็มองเห็นดอกหญ้าชนิดนี้อีกกว่าสิบกอ มันตาโตก่อนจะถอนหญ้าเหล่านั้น ดอกหญ้านี้ไม่ได้บอบบางเหมือนสมุนไพรทั่วไป เพียงแค่ดึงถอนอย่างลวกๆก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะจะอย่างไรมันก็คือหญ้า เป็นวัชพืชที่ทนทาน

 

กอหญ้าเกิดเป็นจุดๆซึ่งปะปนกันทั้งดอกหญ้าและดอกพิษแดง แต่เพื่อความรวดเร็วจางหมิงก็ได้เก็บมันไปทั้งหมด

 

ดอกพิษแดงมีประโยชน์ในการทำยาพิษเหมือนกัน

 

พอเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วจางหมิงจึงมาคิดได้ว่ามันจะเอาไปทำอะไรตั้งมากมาย ในเมื่อดอกหญ้าชนิดนี้ใช้เป็นตัวยาน้อยมากอีกทั้งไม่สามารถขายได้เป็นเงิน มีตัวยาไม่มากหรืออาจแทบไม่มีที่ใช้มันเป็นส่วนผสม

 

“ข้าหิว” จิ้งจอกน้อยที่นั่งมองอยู่เงียบๆพูดขึ้นมา

 

“รอก่อนเถอะ เช้าแล้วค่อยหาอะไรกิน สัตว์ป่าที่หากินตอนกลางคืนน่ากลัวกว่าที่เจ้าคิด” จางหมิงหันมาลูบหัวมันแล้วยิ้มให้

 

ความจริงมันก็หิวเหมือนกัน อีกทั้งความกระหายอยากภายในยังรุมเร้าจนแทบทนไม่ไหวหลังจากการต่อสู้ แต่ลูกแก้ววิญญาณที่พอจะมีเหลือจากการล่าในครั้งก่อนๆก็พอจะระงับได้บ้าง

 

“ลูกแก้ววิญญาณของข้าก็หมดพอดี ตอนนี้หาที่พักกันก่อนเถอะ นี่ก็ใกล้จะเช้าแล้ว”

 

จิ้งจอกน้อยหูลู่ไปด้านหลังเพื่อแสดงอาการเสียใจแต่จางหมิงรู้ว่ามันแค่แกล้งทำจึงได้หัวเราะออกมา ก็ไม่รู้ไปติดนิสัยแบบนั้นมาจากไหนกัน

 

 

 

 

 

 

จิ้งจอกน้อยและจางหมิงออกล่ากันพักใหญ่โดยวิ่งไปตามทิศทางเดียวกับผาสูงที่ทอดยาว นี่ราวกับมันถูกตัดออกมากกว่าเกิดขึ้นจากธรรมชาติเสียอีก

 

แต่พลังอะไรกันที่ทำได้ขนาดนั้น

 

จางหมิงได้ลูกแก้ววิญญาณมาจำนวนหนึ่งและจิ้งจอกน้อยก็อิ่มแล้วพวกมันจึงเร่งเดินทางกันต่อ มันไม่อยากจะคิดถึงความกว้างขวางของที่นี่เลยว่าจะมากแค่ไหน คนกว่าพันที่เข้ามานอกจากติงหรงแล้วมันก็ไม่เจอใครอีกเลยแม้แต่คนเดียว

 

“นายท่านหมิง ภาพมายา”

 

“หืม...” จางหมิงหยุดตัวลงเมื่อได้ยินเสียงของจิ้งจอกน้อย

 

สิ่งที่จิ้งจอกน้อยมองอยู่คือหน้าผาสูงที่จางหมิงไม่อาจแยกแยะได้ว่ามันคือของจริงหรือไม่ แต่เมื่อจิ้งจอกมายารับรู้ได้ก็ย่อมรู้แล้วว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่ปกติ

 

“ทำลายได้ไหม” จางหมิงถามออกไปเมื่อแน่ใจแล้วว่าจุดที่มันมองคือจุดเดียวกับที่จิ้งจอกน้อยบอกออกมา

 

“ไม่ได้ แต่... เข้าไปได้”

 

“เข้า? มันคือทางเข้าหรือ” จากหมิงเลิกคิ้วถาม

 

“ถ้ำ มันคือปากถ้ำ” จิ้งจอกน้อยยังยืนยันคำพูดของมันเอง

 

จางหมิงเริ่มที่จะสนใจถ้ำที่จิ้งจอกน้อยว่าไว้ อย่างน้อยมันก็ถูกปิดไว้ไม่ให้ผู้คนพบเห็น หากไม่มีจิ้งจอกมายาหรือสัตว์มายาทั้งหลายมาด้วยก็คงไม่อาจรับรู้ได้ แถมจิ้งจอกมายาก็ไม่ได้จับมาเป็นคู่พันธะง่ายนัก

 

“ไปดูกัน”

 

จางหมิงเดินนำออกไป มือขวายื่นออกไปสัมผัสกับผิวหินที่เย็นชืดราวกับของจริงนั้น ก่อนที่ไม่นานแรงดูดจากภายในจะกระชากตัวมันเข้าไปโดยมีจิ้งจอกน้อยตามไปด้วยติดๆ

 

โครม!

 

ท่าทางการลงไม่ได้สวยงามนักเมื่อต้องไถลลงมากับทางลาดที่ทอดยาวลงเบื้องล่าง จางหมิงรีบลุกขึ้นกระแอมไอเบาๆกับฝุ่นที่คลุ้งขึ้นมาจากพื้น มันใช้ปราณกวาดให้ฝุ่นเหล่านั้นออกไปก่อนจะเห็นรอยเท้าบนพื้นดิน

 

มีคนเข้ามาก่อนมัน?

 

รอยเท้าทุกรอยดูเร่งรีบแต่ก็บางเบาที่ทำให้รู้ว่าคนผู้นั้นมีฝีมือในการลอบเร้นอยู่บ้าง บางรอยก็หนักจนจมไปบนพื้นเห็นเป็นร่องรอยชัดเจน

 

การสะกดรอยก็เป็นสิ่งที่โจรถนัดเหมือนกัน อย่างน้อยเหยื่อที่หมายตาจะได้ไม่หลุดรอดไป

 

ตามลักษณะของรอยเท้ามีคนผ่านมาเส้นทางนี้เมื่อไม่นานประมาณหกคน เป็นจำนวนที่ไม่มากแต่มีความเป็นไปได้ว่าคนเหล่านี้มาเป็นกลุ่ม หรืออาจจะสองกลุ่ม

 

รอยเท้าทั้งหมดพุ่งตรงเข้าสู่ทางเข้าที่มืดมิด ตอนนี้จางหมิงขอบคุณตนเองที่มีวิชาที่สามารถมองเห็นในที่มืดแบบนี้ได้จริงๆ ถึงแม้จะไม่ชัดเจนมากมายแต่ก็พอช่วยให้อะไรมันง่ายขึ้นเยอะ จิ้งจอกน้อยที่ไม่สามารถมองเห็นก็ดมกลิ่นตามไปเงียบๆ

 

ในถ้ำนี้ร้อนกว่าภายนอกมาก มีความเป็นไปได้ว่าภูเขาที่ถูกตัดแบ่งนี้คือภูเขาไฟที่ดับไปแล้วมันจึงถูกสร้างขึ้นเป็นฐานที่มั่นหรือที่เก็บของ

 

ว่าแต่จะมีสมบัติไหมหนอ...

 

มันมาอยู่ในร่างใหม่นี้ก็นานแล้ว แต่สมบัติที่มันได้มาช่างน้อยนิดจริงๆ

 

การเป็นโจรนี่ไม่ง่ายเลย...

 

+++

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด