ตอนที่แล้วตอนที่ 22 ด่านแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 หลินเย่ถง

ตอนที่ 23 หมียักษ์


23

 

เท้าของมันเหยียบบนยอดไม้ที่ไม่ไกลมากนัก สายตาจับจ้องไปยังการต่อสู้เบื้องหน้าที่ทำเอาตื่นตะลึงกับความเสียหายโดยรอบ มันกำลังถามตัวเองอีกครั้งว่าสมควรก้าวต่อไปหรือไม่

 

หมีสีน้ำตาลร่างสูงกว่าสามเมตรตะปบมือลงไปบนตัวของกระทิงตัวใหญ่ที่สูงเพียงครึ่งตัวของมัน หากแต่ผิหนังที่ราวกับเหล็กยังคงสามารถต้านรับได้โดยไม่ถึงเลือดเนื้อ เขาโค้งสีดำสนิทเกี่ยวกับต้นไม้ด้านข้างเพื่อขว้างใส่หมียักษ์ให้หงายท้องลงบนพื้นจนยุบเป็นหลุม

 

จางหมิงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจกับการรู้จักใช้สิ่งของรอบข้างในการต่อสู้ของมัน แม้จะได้รู้มาบ้างแล้วว่าสัตว์อสูรเหล่านี้ล้วนฉลาดมากก็ตามที

 

การที่หมียักษ์นั้นสูงใหญ่มากทำให้การเคลื่อนไหวของมันช้าลงตามไปด้วย กว่ามันจะลุกขึ้นยืนได้ก็โดนทั้งขวิดทั้งขว้างไปอีกหลายแผล เมื่อทรงตัวได้มันก็กระทืบลงพื้นจนพื้นดินสั่นเล็กน้อยหากก็ทำให้กระทิงสีดำที่อยู่ใกล้ๆโอนเอนไปมา หมียักษ์จึงได้ทีฝาดมือลงไปที่ลำตัวสีดำนั้นเต็มแรง

 

มออออออ...

 

เสียงร้องยาวโหยหวนอย่างเจ็บปวดกับลำตัวที่ยุบลง หากมันก็ยังดิ้นรนใช้เขากรีดฝ่ามือนั้นเป็นรอยยาว ก่อนที่จะถอยหลังแล้วพยายามวิ่งหนีไปตามสัญชาตญาณ

 

หมียักษ์ที่เห็นศัตรูเริ่มวิ่ง ความเป็นนักล่าในตัวยิ่งฉีดพล่าน มันขู่คำรามก่อนจะวิ่งตามหลังไปติดๆ แต่ด้วยลำตัวที่ใหญ่โตทำให้ต้นไม้ใบหญ้าที่มันวิ่งผ่านราบเป็นหน้ากลอง

 

เป็นการต่อสู่ที่วินาศสันตะโรโดยแท้

 

จางหมิงที่ชมดูอดไม่ได้ที่จะวิจารณ์ และด้วยความอยากรู้อยากเห็นมันจึงได้ทะยานตามไปด้วยเช่นกัน

 

ความรุนแรงของการต่อสู้ของพวกมันดูจะมากมายก็จริง แต่เมื่อจางหมิงคิดวิเคราะห์ดูแล้วเมื่อเทียบกับการต่อสู้กับมนุษย์นั้นย่อมยากกว่าต่อสู้กับพวกมัน เพราะความตัวใหญ่เทอะทะนั่นทำให้มันเคลื่อนไหวช้าอย่างที่สุด บางทีมันคิดว่าอาจจะสามารถขโมยป้ายสำนักจากพวกมันสักตัวแล้วจากมาได้ง่ายๆ

 

ไม่นานหมียักษ์ก็ตามกระทิงดำทัน เนื่องจากอาการบาดเจ็บช่วงลำตัวทำให้หนึ่งในเจ้าแห่งการวิ่งอย่างมันไม่อาจแสดงพลังได้เต็มที่ ดังนั้นเมื่อถูกตามทันมันจึงได้หันมาเผชิญหน้าอย่างหมดหนทาง

 

จางหมิงที่เห็นยอมรับนับถือกับความกล้าของมัน หากก็ไม่ได้คิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลืออะไร

 

ตามเวรตามกรรมเถอะเพื่อนยาก เพราะข้าก็สู้หมีนั่นไม่ได้เหมือนกัน... จางหมิงคิดพลางชมดูอย่างสนุกสนาน

 

เมื่อการต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดจางหมิงก็ได้มองหาป้ายสำนักไปด้วย แต่เมื่อเห็นสายตาก็ลุกวาวด้วยความละโมภ มันที่นั่งมองอย่างสบายอารมณ์ลุกพรวดขึ้นยืนอย่างเต็มตัวแล้วจ้องป้ายนั้นเพื่อยืนยันว่ามันไม่ได้มองพลาดไป

 

มันคือป้ายหยกแดง!

 

เมื่อเทียบกับป้ายหยกหิมะของเกาหลงลี่แล้ว นี่นับว่ามีราคากว่ากันมากนัก

 

“ป้ายหยกแดงขนาดครึ่งฝ่ามือ ...นั่นย่อมไม่ต่ำกว่าสามสิบตำลึงทอง ถ้าหากข้าได้มามากกว่าหนึ่ง... หึหึ” จางหมิงหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้าย ความคิดที่อยากทดสอบแบบขอไปทีกลับเป็นตั้งใจสุดๆอย่างช่วยไม่ได้

 

เมื่อความโลภบังตาโจร ...เงินย่อมสำคัญกว่าชีวิต!

 

ป้ายหยกแดงชิ้นแรงแขวนห้อยอยู่บนลำคอของกระทิงดำอย่างเห็นได้ชัด ส่วนป้ายของหมียักษ์ซ่อนอยู่ภายใต้ขนหนาที่มันพยายามมองหาอยู่นานจนเจอ

 

แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ามันจะเข้าไปเอาได้อย่างไร

 

หมียักษ์คำรามออกมาอีกครั้งก่อนจะกระโจนใส่กระทิงดำที่เลือดไหลทั่วทั้งตัว ปากกว้าอ้างับเข้าที่ลำคอของกระทิงตัวนั้นอย่างพอดี เลือดทะลักไหลนองเต็มพื้น กระทิงนั้นยังคงดิ้นรนอยู่สักพักก่อนจะแน่นิ่งไปอย่างไม่เต็มใจ

 

กรอบ!

 

เสียงหักของสันคอหนาทำให้จางหมิงนึกถึงครั้งเมื่อมันตกเขาตาย นั่นทำเอาเสียววูบตรงท้ายทอยตามไปด้วย มือข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมาจับลำคออย่างช่วยไม่ได้เช่นเดียวกัน

 

“เห้ย!”

 

จางหมิงอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นหมียักษ์กัดสิ่งที่อยู่ในปากจนขาดครึ่ง ป้ายสำนักที่เดิมห้อยอยู่ที่คอของกระทิงดำติดเข้าไปในปากของหมียักษ์ไปด้วย ผู้มองจ้องลุ้นแทบหยุดหายใจเพื่อไม่ให้มันกลืนลงไป ไม่นานก็ถอนหายใจออกมาเมื่อพบว่าสายคล้องป้ายเส้นนั้นยังคงห้อยอยู่กับฟันของหมียักษ์อย่างปลอดภัย

 

แต่เสียงร้องนั้นก็หันเหความสนใจของหมียักษ์มาที่มัน!

 

คิดว่าร่างเล็กๆของมันตอนนี้จะสู้หมีมือเปล่าได้?

 

ยิ่งไม่ต้องถามเมื่อหมีตัวนั้นกลายพันธุ์จนใหญ่โตกว่าเดิมมาก อีกพร้อมทั้งพละกำลังอันมหาศาล

 

จางหมิงกระโดดถอยหลังเมื่อหมียักษ์กระโจนเข้ามา ต้นไม่ที่มันเคยยืนอยู่แม้ไม่ใหญ่โตมากนักแต่กลับโค่นลงด้วยการโจมตีเดียว

 

การมองดูกับการรับรู้ด้วยตนเองนี่ต่างกันมากจริงๆในความคิดของมัน

 

สมบัติก็อยากได้ ชีวิตก็ต้องเอาให้รอด

 

...ออกจะเป็นงานที่ยากเอาการ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่มันเคยเจอมานักต่อนัก

 

จางหมิงวิ่งหนีโดยวิชาทะยานข้ามภพในขั้นสามัญเท่านั้นเพื่อไม่ให้ระยะห่างระหว่างมันกับหมียักษ์มีมากเกินไป สายตามองไปรอบตัวเพื่อหาจังหวะในการฉกฉวยที่จะทำให้ชีวิตรอดปลอดภัย

 

โชคดีที่ข้างหน้าของมันคือต้นไม้ใหญ่ที่คงจะยืนยงมาอย่างยาวนานจนทำให้มีขนาดใหญ่กว่าสามคนโอบถึงสองต้น มันจึงได้พุ่งเข้าแทรกกลางช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้น หมียักษ์ที่ตามมาแม้ฉลาดแต่ก็ไม่มากเท่ามนุษย์มันจึงชนโครมเข้ากับต้นไม้ทั้งสองเต็มแรง จางหมิงจึงได้ใช้จังหวะที่มันมึนงงอยู่นั้นพุ่งเข้าไปกลางลำตัวที่ปกคลุมไปด้วยขนหนาแล้วดึงป้ายสีแดงสดนั้นออกมา

 

“อาชาไพรี”

 

เสียงร้องของม้าและพายุทีโถมออกไปข้างหน้าทำให้หมียักษ์ที่เตรียมจะตะปบมือเข้าใส่จางหมิงล่าถอยไป แต่นั่นก็เพียงสองสามก้าวเท่านั้น

 

ป้ายหยกแดงชิ้นแรงถูกใส่เข้าไปในถุงเงินข้างตัวเองคล่องแคล่วก่อนที่มันจะใช้ทะยานข้ามภพในขั้นเชี่ยวชาญพาตนเองหนีไปไกล หมียักษ์ที่ขาดเป้าหมายจึงทำได้เพียงทำลายข้าวของแถวนั้นอย่างกราดเกรี้ยว

 

แต่จางหมิงมีหรือจะหยุดแค่สมบัติชิ้นเดียว!

 

มันทะยานห่างออกไปสุดสายตาก่อนจะวกกลับมาอย่างเงียบเชียบเพื่อตามติดหมียักษ์ที่อาละวาดไปทั่วจนเย็น ดวงอาทิตย์หายลับไปจากขอบฟ้าหากแต่แสงจันทร์ครึ่งดวงยังคงสาดประกายบางเบาให้เห็นรอบด้าน

 

หมียักษ์ตนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สัตว์กลางคืน เมื่อมันเจอถ้ำมันก็ได้เข้าไปหลบและหลับใหลลง

 

เสียงแมลงดังเสียดหูอยู่บ้างแต่จางหมิงก็ยังได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วจางมาจากภายในถ้ำ ตัวมันนั้นกำลังตัดสินใจว่าสมควรเข้าไปนำหยกแดงออกมาขณะที่หมียักษ์ตนนี้หลับหรือสมควรรอในช่วงเช้า แต่เมื่อคิดถึงเรื่องระยะเวลาในการทดสอบมันจึงตัดสินใจเข้าไปเสียตอนนี้

 

ภายในถ้ำมืดมิดเป็นอย่างมากเนื่องจากแสงจันทร์ไม่อาจส่องถึง ตอนนี้จางหมิงจึงได้ใช้วิชายุทธ์ในคัมภีร์มหาโจรของมันอีกครั้ง

 

‘เนตรจริงแท้’ นั่นคือวิชาที่มันหยิบมาใช้

 

ว่ากันตามจริงความสามารถของวิชาเนตรจริงแท้สามารถมองทะลุได้ทุกอย่าง ขอบเขตของมันน่าพรั่นพรึงขนาดว่ากล่าวไปถึงการมองเห็นสวรรค์ แต่ตัวมันที่ฝึกมาเพียงแค่ไร้ฐานนั้นก็มองได้แค่ในความมืดแบบเลือนรางก็เท่านั้น

 

หากนั่นก็ดีมากแล้ว...

 

จางหมิงมองเห็นหมียักษ์เป็นเงาตะคุ่ม หากก็พอมองออกว่ามันนอนหงายท้องอย่างแสนสุข ทำเอาหมั่นไส้จนอยากได้มีดสักเล่มมาจิ้มท้องป่องๆนั้นให้แตกโผละ

 

มันละความสนใจจากสิ่งอื่นเมื่อมองเห็นเงาวิบวับของหยกแดงในความมืดมิด สายคล้องยังคงห้อยออกมาจากซี่ฟันขนาดใหญ่ของหมียักษ์ที่นอนหลับ จางหมิงจับที่ตัวหยกก่อนจะออกแรงดึงเพื่อให้สายขาดออก เสียงคำรามอย่างรำคาญในลำคอของหมียักษ์ทำให้มันหยุดจังหวะการดึงเป็นพักๆ

 

ตอนนี้จางหมิงเริ่มหงุดหมิดกับเชือกที่ดูจะเหนียวเป็นอย่างยิ่งนั้น อีกทั้งก็ไม่อยากให้หมียักษ์ตัวนี้ตื่นขึ้นมาสักเท่าไหร่จึงได้ดึงสุดแรงในครั้งนี้ หากแต่หมียักษ์อ้าปากขึ้นมาพอดีทำให้สายคล้องลื่นไถลออกจากตัวฟัน ตัวคนที่ออกแรงจนสุดไม่ทันได้ตั้งตัวหงายหลังกลิ้งไปชนผนังดังปังใหญ่

 

เจ้าหมีบัดซบ!

 

จางหมิงกัดฟันแน่นเพราะความเจ็บปวดที่แผ่นหลัง แม้ไม่ได้เลือดหากก็ร้าวระบมจากแรงกระแทกไม่น้อยเหมือนกัน มันทำได้แค่ส่งสายตาคาดโทษไปยังสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร หลังจากนั้นก็เดินออกมาเงียบๆ

 

เจ็บตัวไปบ้างแต่เมื่อนึกถึงป้ายหยกแดงทั้งสองในกระเป๋ามันก็ยิ้มออก จากนั้นทะยานร่างพุ่งลึกเข้าไปในเขตป่าเพื่อตามผู้อื่นให้ทัน

 

จางหมิงเล็งเห็นแล้วว่าการนำป้ายหยกมาจากสัตว์อสูรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันจึงได้หันเหเป้าหมายไปที่มนุษย์ด้วยกันแทน

 

ดวงตาสีดำสนิทของจางหมิงลุกวาวในความมืดมิด รอยยิ้มสมใจปรากฏขึ้นไปสุดทางเมื่อนึกไปถึงสมบัติที่เหลือ เลือดในกายพลุ่งพล่านกว่าปกติแต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจ แม้ว่าดวงตาสีดำนั้นจะวาบแสงสีแดงออกมาจางๆก่อนหายไปเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวอยู่ดี

 

+++

แมว : คนอ่านเหนื่อยไหม แต่แมวพิมพ์เหนื่อยมาก =w=

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด