ตอนที่แล้วตอนที่ 229 รักแท้พาพิชิตด่าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 231 โชคครั้งใหญ่ของเย่ว์หยาง

ตอนที่ 230 น้ำตาเทพธิดา


แม้ว่าหลังจากเปลี่ยนชุดของเย่ว์ปิงแล้ว อี้หนานก็ยังรู้สึกเขินอายอย่างมาก นางยังคงก้มหน้าต่ำไม่กล้ามองดูเย่ว์หยาง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางคิดถึงภาพที่น่าอายนั้น นางแทบอยากแทรกแผ่นดินเข้าไปหลบอยู่ในนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางแสดงตัวต่อหน้าเย่ว์หยางด้วยสถานะหนุ่มอี้หนาน แสดงตัวว่าเป็นพี่ชายของตัวนางเองแล้วยังมอบสร้อยคอในนามน้องสาวเป็นสัญลักษณ์เชิงบุคคลว่าขอหมั้นหมายแต่งงาน แต่สถานะที่นางเป็นสตรีกลับถูกเปิดเผยที่นี่ นางจึงไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริงๆ

เย่ว์ปิงเองก็อาย

นางเป็นน้องสาวของเขา ชุดของนางถูกไฟไหม้เป็นเถ้าถ่านต่อหน้าพี่ชาย เห็นได้ชัดว่านางก็อายมากเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้ดูน่าอึดอัดใจสำหรับนางที่สุดก็คือดูเหมือนว่าไฟที่ลุกโหมครั้งใหญ่นี้เริ่มต้นที่นาง เกิดขึ้นได้อย่างไร นางหาสาเหตุไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ถือโอกาสขณะที่เย่ว์ปิงและอี้หนานไปสวมเสื้อผ้าในที่ลับตาแห่งหนึ่ง เย่ว์หยางเข้าไปใกล้หญิงงามลึกลับที่ตอนนี้ทั้งร่างของนางมีน้ำแข็งปกคลุม

“ที่ผ่านมานี้ ปีศาจภายในทำให้เจ้าต้องเจอกับอะไรบ้าง? เจ้าเห็นปีศาจภายในเหมือนกับข้าหรือเปล่า? เขาพูดอะไรกับเจ้า?”

“เขาพูดแต่เรื่องไร้สาระ...”

หญิงงามลึกลับเผยให้เห็นความรู้สึกที่อ่อนโยนในประกายตานาง

“นั่นเป็นเรื่องไร้สาระ อาจเป็นความลับนิดหน่อย แต่ข้าไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าเจ้ากังวลเรื่องนั้น ข้าบอกเจ้าได้เลยว่า เป็นความลับอย่างหนึ่งที่มีเจ้ากับข้าที่จะรู้ ในอนาคต จะไม่มีทางที่บุคคลที่สามได้รู้เรื่องนั้น เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องความลับนี้อีกต่อไป แค่ดูแลแม่สี่และน้องของเจ้าให้ดีก็พอ!”

“เจ้าก็สงสัยมาตั้งแต่ต้นสินะ?”

ความรู้สึกสุขใจมีอยู่เต็มหัวใจเย่ว์หยาง ก่อนที่เขาจะถามนางอีกครั้ง

“ทุกคนมีความลับเป็นของตนเอง ถ้าเจ้าไม่แบ่งความลับให้ข้ารู้ ข้าก็จะไม่สงสัยมัน แม้ว่าข้าจะรู้ ข้าก็จะฝังความลับไว้ในใจส่วนลึก”

นัยน์ตาของหญิงงามลึกลับกระจ่างใสเหมือนน้ำ ขณะที่นางยิ้มอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตน

“เย่ว์หยาง! อาจจะมีคนที่ไม่คู่ควรให้เจ้าไว้วางใจ แต่เจ้าลองเชื่อใจข้าเถอะ!”

“ขอบคุณ, อู๋เสีย”

เย่ว์หยางรู้สึกว่าหัวใจของเขาปลดภาระที่หนักอึ้งออกไปได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเดินทางเข้ามาในโลกนี้ เขารู้สึกโล่งใจและผ่อนคลายใจเป็นอย่างมาก

สภาวะจิตของเขาเริ่มเปลี่ยนไปโดยที่เขาไม่รู้

ในที่สุด เขารู้สึกได้ว่ามีโอกาสที่เขาจะฝึกฝนเพื่อบรรลุขอบเขตระดับใหม่ได้

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการดูรางวัลสำหรับการผ่านด่านวิหารเทพสตรีแล้ว เย่ว์หยางคงจะลองยกระดับวิชากระบี่ไร้ลักษณ์ขึ้นสู่ขั้นที่ห้าแน่ หลังจากเอาชนะปีศาจภายในใจและปลดภาระที่ถ่วงจิตใจเขาอยู่ เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อมั่นว่า เขามีความสามารถไต่อันดับขึ้นไปเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสุดยอดได้ เมื่อเขามีเรื่องวุ่นวายใจอยู่มาก เขาไม่สามารถตั้งสมาธิฝึกฝนได้เต็มที่ แล้วเขาจะขึ้นไปสู่เขตแดนปราณก่อกำเนิดระดับสุดยอดแบบนั้นได้อย่างไร?

หญิงงามลึกลับยิ้มสดใสเหมือนผลึกน้ำแข็งในฤดูใบไม้ผลิ สามารถหลอมหัวใจเย่ว์หยางได้

“แม้ว่าเจ้าจะโง่เง่าอยู่บ้าง แต่ข้าคิดว่า.. เจ้าก็ยังดูดี ไม่มากก็น้อย!”

เย่ว์หยางดีใจ

“จริงเหรอ? พรุ่งนี้ข้ามีเวลาว่าง เจ้าอยากไปนั่งพายเรือชมทะเลสาบกับข้าไหม?”

“ไม่หรอก, พายเรืออาจเหมาะกับเชี่ยนเชี่ยน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าชอบ”

หญิงงามลึกลับปฏิเสธเขาทันที

“อย่างนั้นข้าสามารถติดตามเจ้าไปอ่านหนังสือเล่นภายใต้ต้นโอ๊คพันปีก็ได้..”

เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาโต้ตอบได้เร็วมาก

“แค่อ่านหนังสือเหรอ?”

หญิงงามลึกลับถามอย่างระมัดระวัง

“ข้ารับรองได้ว่าเราจะทำแค่อ่านหนังสือ ข้าจะไม่ก่อเรื่องกวนใจใดๆ แน่นอน”

พอได้ยินว่าอาจมีโอกาส เย่ว์หยางเริ่มทำตัวเป็นเด็กดีทันที ขณะที่เขาตบอกรับรองกับนาง หวังว่านางจะเห็นด้วย

“ไม่”

หญิงงามลึกลับยังคงปฏิเสธเขาในที่สุด

“ทำไมเจ้าถึงไม่ต้องการไปเล่า?”

เย่ว์หยางแสดงให้เห็นความจริงใจของเขา

“คนงาม! ให้โอกาสข้าบ้างเถอะ มันยากสำหรับข้านะที่จะแสดงตัวว่าเป็นเด็กดี เจ้าก็รู้”

“ให้ข้าคิดดูก่อน..”

หญิงงามลึกลับยิ้มอย่างอ่อนโยน

เมื่อเย่ว์หยางได้ยินเช่นนั้น เขากระโดดโลดเต้นอย่างเบิกบานใจ

ในชีวิตคนๆ หนึ่ง ถ้าเขาพบหญิงสาวอย่างนี้ จะไม่ตามจีบนางมาเป็นภรรยาได้อย่างไร?

อี้หนานและเย่ว์ปิงกลับมาหาพวกเขาอย่างเงียบๆ อี้หนานสวมชุดคับติ้วที่นางยืมมาจากเย่ว์ปิง มันเล็กเกินไปสำหรับนาง นางจึงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเย่ว์ปิง ด้วยเกรงว่าเย่ว์หยางจะเห็นนาง เย่ว์หยางเกรงว่านางจะรู้ตึงเครียดเกินไป ดังนั้นเขาทำเป็นไม่สนใจนาง กลับเอื้อมมือออกไปลูบศีรษะเย่ว์ปิง

“ปิงเอ๋อ, ไปกันเถอะ เราควรไปรวบรวมรางวัลของเราสำหรับการผ่านด่านครั้งนี้”

ขณะที่พูดอยู่นั้น เขาก็ลูบหัวอี้หนานและส่งสัญญาณให้นางตามมาด้วย

แม้ว่าเขาได้พบความจริงเรื่องของนาง เขาก็ยังใจเย็นและเป็นปกติอยู่ได้ อี้หนานรู้สึกอายมาก

ด้วยสีหน้าที่แดงซ่าน นางซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขาและเดินตามมาอย่างเงียบๆ

กระจกแก้วผลึกที่ประดับด้วยทองและเพชรดูผิวเผินเหมือนกับเป็นกระจกสมบัติ แต่ด้วยทักษะญาณทิพย์ระดับ 4 เขาสามารถเห็นได้ว่าความจริงแล้วมันคือสัตว์อสูรตนหนึ่ง

เป็นสัตว์อสูรชนิดพิเศษ

เมื่อเย่ว์หยางและสามสามเดินเข้าไปใกล้มัน รูปเทพธิดาผู้ปราณีปรากฏอยู่บนผิวกระจก มีเสียงที่ฟังไม่ชัดดังก้องอีกครั้ง “สหายน้อย และสาวน้อยทั้งสาม ขอแสดงความยินดีด้วยที่กลุ่มของพวกเจ้าผ่านด่านวิหารเทพสตรีแห่งวิหารสิบสองนักษัตรได้ พวกเจ้ามีความไว้วางใจที่ไม่มีเงื่อนไขให้กันและกัน

เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะปีศาจภายในของพวกเจ้าได้ มากกว่าข้ามาที่นี่ตามลำพังเสียอีก.. ในฐานะผู้พิทักษ์วิหารเทพสตรี นอกจากขอยินดีด้วยกับความสำเร็จของพวกเจ้าแล้ว ข้ายังอยากจะให้รางวัลพิเศษกับพวกเจ้าด้วย!”

แสงสว่างเจิดจ้าฉายออกมาจากกระจก เป็นแสงที่บริสุทธิ์ฉายส่องมาที่เย่ว์หยางและคนอื่นๆ

ในขณะเมื่อแสงสว่างมีความสว่างถึงที่สุด แก้วผลึกใสสว่างสี่ลูกลอยเข้าไปในหน้าผากของเย่ว์หยาง, เย่ว์ปิง, อี้หนานและหญิงงามลึกลับ ขณะเดียวกันคนทั้งสี่รู้สึกเหมือนกับมีข้อมูลใหม่กระจายอยู่ในศีรษะของพวกเขา ทักษะที่เรียกว่า “กระจกภายใน” ปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา เหมือนกับว่าเป็นทักษะแฝงเร้นที่มอบให้ทันทีที่พวกเขาทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้สำเร็จ

หลังจากนั้น รอยร้าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวกระจกแก้วขณะที่พวกมันแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ลำแสงถูกยิงออกมาจากร่างของอี้หนานและสลายหายไปในท้องฟ้า ก่อตัวเป็นรูปเทพธิดาผู้ปราณี นางยิ้มให้อี้หนานแล้วพูดว่า

“เด็กสาวคนนี้มีสัมพันธ์ที่ดีกับข้าที่สุด ดังนั้นข้าจะให้ทักษะ”ภูตกระจกเงา“แก่เจ้า งานของข้าที่นี่ลุล่วงดีแล้ว ลาก่อน!”

ร่างของเทพธิดาผู้เมตตาเปลี่ยนไปเป็นลำแสงและยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า หายไปโดยไม่เหลือร่องรอย เหมือนกับว่าไม่เคยคงอยู่มาก่อน

มีเพียงเศษกระจกแตกอยู่บนพื้น เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพวกเขาผ่านด่านได้แล้ว พวกเขาสร้างบันทึกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จแล้ว

เย่ว์หยางเก็บเศษกระจกขึ้นมา

เขารู้ได้ว่าสำหรับกระจกที่แตกเหล่านี้ ยังคงมีบางส่วนที่ใช้งานได้ อักษรรูนที่สลักอยู่บนนั้นดูแล้วเขาไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย, ถ้าเขาสามารถทำซ้ำได้ เขาอาจสร้างกระจกแก้วผลึกที่มีพลังปีศาจภายในได้อีกชิ้นหนึ่ง..

หากเขาสามารถใช้อาวุธเช่นนั้นสู้กับคู่ต่อสู้ของเขา คู่ต่อสู้ของเขาอาจตายอย่างน่าอนาถก็ได้! เมื่อเย่ว์หยางเก็บชิ้นส่วนกระจกผลึกที่แตกขึ้นมา ทันใดนั้นอี้หนานเรียกคัมภีร์อัญเชิญของนางออกมาและเปิดดู นางก็เห็นได้ว่าหน้าว่างในคัมภีร์ของนาง บัดนี้มีสัตว์อสูรตัวใหม่ปรากฏขึ้น

ภูตกระจกเงา – อสูรรูปแบบพิเศษ ชั้นทองระดับที่ 1 มีพลังวิญญาณและร่างมายา ไม่มีพลังปัญญา ทักษะพิเศษ – พลังวิญญาณเปลี่ยนรูป, พลังวิญญาณซึมซับ และผสานวิญญาณ

หญิงงามลึกลับและเย่ว์ปิงร่วมแสดงความยินดีกับอี้หนานเมื่อพวกนางเดินเข้ามาดู

ไม่ใช่แค่ว่าเป็นอสูรทองระดับ 1 ที่ทำให้พวกเขาทุกคนมีความสุขมากเท่านั้น แต่ความจริงก็คือ เทพธิดาผู้การุณย์ได้มอบเส้นทางพัฒนาและแนวทางฝึกฝนพลังจิตให้อี้หนาน

ด้วยพลังภูตกระจกที่มีความสัมพันธ์กับอี้หนานมากที่สุดนี้ จะทำให้อนาคตของนางไม่มีขีดจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนางเข้าถึงขอบเขตที่ทำให้นางสามารถสร้างโลกปีศาจภายในได้ คู่ต่อสู้ที่โชคร้ายของนางผู้ไม่สามารถเอาชนะปีศาจภายในของพวกเขาได้ อาจต้องพบจุดจบอย่างน่าสังเวช

ก็เหมือนกับที่สุดยอดนักสู้แต่โบราณได้พูดไว้ก่อนว่า อสูรชนิดใดที่ดีที่สุด? คำตอบก็คืออสูรที่เหมาะสมเข้ากันได้ดีกับตัวเจ้าเองที่สุด

อี้หนานไม่เคยรู้วาอสูรชนิดใดเหมาะสมเข้ากันได้กับนางที่สุดมาก่อน อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่นางได้รู้ว่าอสูรชนิดใดเหมาะสมกับนางที่สุดในตอนนี้เท่านั้น นางยังคงเป็นเจ้าของอสูรที่เรียกว่า ภูตกระจกซึ่งเป็นอสูรที่ข้ากันกับเส้นทางฝึกฝนของนางได้ดีที่สุด

“ยินดีด้วย! พี่อี้หนาน!”

เย่ว์ปิงร่วมยินดีกับอี้หนานทันที ในที่สุดนางก็สามารถเรียกอี้หนานเป็นพี่สาวได้อย่างเต็มคำเสียทีโดยไม่ต้องห่วงว่าเย่ว์หยางจะได้ยิน ดังนั้น เสียงของนางจึงเต็มไปด้วยความดีใจและดังมาก

“ขอบใจนะ, ปิงเอ๋อ..”

ปากอี้หนานกล่าวขอบคุณนาง แต่สายตานางกลับตรวจดูปฏิกิริยาของเย่ว์หยาง

พอเห็นว่าเย่ว์หยางยิ้มและมองดูอยู่ข้างหลังนาง นางรีบก้มหน้าทันทีกลัวว่าเขาจะล้อนางเล่น

พอได้ยินเขายินดีกับนาง ความรู้สึกวาบหวามอย่างหนึ่งผุดขึ้นจนอี้หนานรู้สึกเขินอาย ด้วยพลังภูตกระจกนี้ ดูเหมือนว่านางจะสามารถช่วยเขาได้ในอนาคต นางจะมีความสุขถ้าหากนางช่วยเขาได้แม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งก็ยังดีกว่าคอยเป็นภาระถ่วงเขาไว้ พอเห็นอี้หนานมองนางอย่างกังวลใจ หญิงงามลึกลับยิ้มและพูดว่า

“ภูตกระจกนี้เป็นอสูรชั้นดีมากๆ เย่ว์หยางไม่เคยให้ของขวัญอะไรเจ้ามาก่อน เจ้าน่าจะขอให้เขามอบสัตว์อสูรเจ้าที่สามารถผสานร่างเข้ากับภูตกระจกได้ เมื่อภูตกระจกของเจ้าครอบครองปัญญาได้ในที่สุด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะอยู่ไม่ห่างจากการสร้างโลกปีศาจภายในเลย”

อี้หนานตอบด้วยน้ำเสียงที่เบากว่ามดเสียอีก

“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นก็ได้”

แม้ว่านางพูดว่าไม่จำเป็น แต่ความจริงนางปรารถนาอยากให้เย่ว์หยางมอบอสูรตนหนึ่งที่สามารถผสานเข้ากับภูตกระจกได้

นางไม่สนว่าเขาจะให้นางเมื่อไหร่ ตราบเท่าที่เขามอบให้ด้วยตัวเขาเองก็ดีแล้ว

เย่ว์หยางไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแต่ยื่นมือมาแตะศีรษะของอี้หนานแทนคำตอบ

แน่นอนว่าอี้หนานเข้าใจคำตอบเงียบของเย่ว์หยาง นางรู้สึกเขินอายแต่ก็สุขใจในขณะเดียวกัน ภายนอกนางต้องการจะแสดงว่าเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีคุณธรรม แต่มุมปากนางกลับไม่ยอมขยับ ได้แต่เม้มนิ่งอย่างสุขใจ

ด้านหน้าประติมากรรมเทพธิดา มือทั้งสองของประติมากรรมนั้นถือบอลที่มีประกายไฟ ไฟที่ดูโปร่งแสง มองดูคล้ายหยดน้ำตา... เย่ว์หยางใช้ญาณทิพย์ระดับ 4 ตรวจดูแล้วเขาก็โพล่งขึ้นอย่างอัศจรรย์ใจว่า

“นี่คือ..น้ำตาเทพธิดา!”

น้ำตาเทพธิดาเป็นสมบัติล้ำค่าในตำนานที่สารานุกรมยาเขียนระบุสรรพคุณไว้ว่าสามารถชุบชีวิตคนตายซึ่งก็คือของสองชิ้นเล็กๆ นี้เอง”

“ด่านท้าทายที่ยากที่สุด ย่อมได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”

หญิงงามลึกลับตื่นเต้นยินดีเป็นที่สุด ญาติผู้พี่ของนางจะอยู่รอดปลอดภัยด้วยน้ำตาเทพธิดานี้

น้ำตาเทพธิดา ไม่ปรากฏชัดว่าถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร แต่ผู้ที่จะเอามาได้จะต้องอยู่ในหอทงเทียนชั้นสูงๆ ขึ้นไป

พันปีที่แล้ว มีการบันทึกไว้ในสารานุกรมยาว่า น้ำตาเทพธิดาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดที่จำเป็นต้องใช้ในการปรุงยาเทพเจ้าที่เรียกว่ายาชุบชีวิต คนแรกที่ได้บริโภคยาเม็ดชุบชีวิตก็คือเจ้าหญิงแสงดาวผู้โด่งดัง เรียกกันอีกชื่อว่าเจ้าหญิงนิทรา เล่ากันว่านางถูกคนวางยาพิษและถูกเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

ในที่สุด หลังจากได้รับยาชุบชีวิต นางก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นเหมือนกับว่าเป็นการตื่นจากการหลับใหล รูปลักษณ์ของนางไม่เปลี่ยนแปลงเลยหลังจากที่ถูกวางยาพิษมาหลายร้อยปี หน้าของนางเปล่งปลั่งขณะที่พิษในตัวนางทั้งหมดถูกขับสลายไป ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากได้รับยาชุบชีวิต นางยังคงมีรูปอ่อนเยาว์เป็นเวลาเกินกว่าสองร้อยปี ถ้าไม่ใช่เพราะนักรบปีศาจบางพวกที่ริษยาความเยาว์วัยของนางต้องการฆ่าและชิงยาชุบชีวิตไปจากเจ้าหญิงนิทรา บางทีนางอาจจะเป็นหญิงงามที่สุดในทวีปมังกรทะยานในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา

ส่วนผสมที่สำคัญที่สุดในการทำให้ยาชุบชีวิตที่มีพลังอมตะก็คือน้ำตาเทพธิดานั่นเอง

แม้แต่กระบวนการปรุงยาชุบชีวิตให้สำเร็จ ถ้าปราศจากน้ำตาเทพธิดาแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรมากจากยารักษาโรคธรรมดา

กล่าวกันว่าแม้จะไม่ได้ปรุงเป็นยา แต่หญิงสาวก็ยังจะมีความเยาว์วัยอมตะเพียงเพราะกินแต่เพียงน้ำตาเทพธิดาเท่านั้น

ในรายชื่อสมุนไพรหายากที่มีค่ามากที่สุดในบันทึกสารานุกรมยา น้ำตาเทพธิดามีค่ามากเป็นอันดับห้า สมุนไพรอย่างเดียวที่พอจะเทียบเคียงได้ก็คือ “โลหิตเทพเจ้า” ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าทำให้พลังฝึกปรือของบุรุษมีความก้าวหน้าถึงหลายร้อยปี

ไม่มีผู้ใดคิดว่าของหายากและเป็นสมบัติคุณภาพสูงส่งอย่างนั้นจะปรากฏเป็นรางวัลตอบแทนในวิหารเทพสตรีได้

ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่มีแค่เพียงหยดเดียว ความจริงกลับมีน้ำตาเทพธิดาถึงสองหยด

มิน่าเล่าวิหารเทพสตรีจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นด่านที่ผ่านยากที่สุด รางวัลตอบแทนในการผ่านด่านมากกว่าในวิหารคนคู่เสียอีก น้ำตาเทพธิดาสองหยดนี้ จะเป็นของที่มีความต้องการมากที่สุดในหมู่สาวๆ อย่างแน่นอน

ที่สำคัญที่สุด เย่ว์หยางสามารถใช้เจ้าสิ่งนี้เพื่อช่วยชีวิตหญิงงามอมโรคได้

ถ้าเขาสามารถปรุงยาเม็ดชุบชีวิตด้วยน้ำตาเทพธิดานี้ ก็จะมีหวังกอบกู้ชีวิตของหญิงงามอมโรคนี้ได้

ที่มา : https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=250

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด