ตอนที่แล้วUWG#042 นักแปรธาตุคนใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปUWG#044 การเก็บเลเวลครั้งยิ่งใหญ่

UWG#043 ผู้เล่นทุนนิยม


ถ้าไม่ได้ดูด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็ ใครจะบอกก็คงไม่มีทางเชื่อเป็นแน่!!

อาชีพเสริม นักเล่นแร่แปรธาตุ ขั้น7 งั้นรึ?!

เพียงการแปรธาตุครั้งเดียวทำให้ทักษะในการแปรธาตุของกีอัสเลื่อนขึ้นไปถึงขึ้นที่7 แสดงว่าเขาต้องมีความเข้ากันได้กับทักษะในการแปรธาตุพวกนี้อย่างลงตัวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถแปรธาตุออกมาได้สมบูรณ์ตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งยังเป็นการแปรค่าพลังทั้งหมดภายในครั้งเดียวอีกด้วย

เหตุการณ์นี้ทำให้คุรุรุกิซึ่งเป็นคนเดียวที่ได้เห็นและรู้ว่ากีอัสมีอาชีพเสริมเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ ขั้น7 ถึงกับชะงักและอุทานออกมา

“ขะ..ขั้น เจ็ด!!!”

คนอื่นๆในทีมเองก็รู้จักคุรุรุกิดี เขาไม่ใช่คนที่จะตกใจให้กับอะไรง่ายๆ คำอุทานนี้ทำให้พวกเขาอีก4คนเข้าใจได้ทันทีว่า มันต้องเป็นระดับการแปรธาตุของกีอัสอย่างแน่นอน

หากคุรุรุกิที่เป็นนักแปรธาตุขั้น2ยังแปรค่าพลังได้แค่แบบเน้นสองค่าพลังโดยมีความสมบูรณ์เพียง80%และใช้การแปรธาตุหลายครั้ง การที่คนที่สามารถแปรค่าพลังให้กลายเป็นค่าพลังเดียวกันได้ถึง100%โดยใช้การแปรธาตุแค่ครั้งเดียวจะได้เลื่อนระดับขั้นเป็นขั้นที่7ก็ไม่น่าแปลกอะไรเท่าไร

นอกจากนั้นกีอัสยังสามารถแปรค่าพลังพื้นฐาน(STR,AGI,INT,VIT,DEX,LUK )ไปเป็นค่าพลังป้องกันได้อีกด้วย ไม่แน่ว่าเขาอาจจะแปรค่าพลังเหล่านั้นให้กลายเป็นพลังโจมตีได้ด้วยก็เป็นได้

แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาทั้ง4ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเปิดเมนูสมาชิกในทีมขึ้นมาดูด้วยตาของพวกเขาเอง

[ {สมาชิก}กีอัส เลเวล7 อาชีพหลัก:นักดาบ อาชีพเสริม:นักเล่นแร่แปรธาตุขั้น 7 เผ่ามนุษย์  ]

มันเป็นเรื่องจริง!

มหัศจรรย์!!

“เจ้านั่นมีอาชีพเสริมขั้นที่7” คิริฮาระอุทานออกมาอย่างตะลึกเช่นกัน

“มันก็เหมาะสมกับความสามารถที่เขาทำได้นั่นแหละ ข้าเองก็ไม่ได้มีความสามารถในการใช้สมอง จินตนาการ ความคิดเชิงซับซ้อนมากนัก ทำให้ข้าทำได้เพียงแค่นั้น”คุรุรุกิกล่าว

“แล้วบอสจะเปลี่ยนอาชีพเสริมไปเป็นผู้ขนส่งเลยหรือป่าวค่ะ” ยูอิ หญิงสาวนักบวชผู้ฝึกสัตว์อสูรถาม

“แน่นอน ตอนนี้เลย อาชีพเสริมผู้ขนส่งเหมาะกับอาชีพหลักดรากูนของข้าอย่างมาก เพราะเดิมที่อาชีพดรากูลจำเป็นต้องขี่สัตว์อสูรอยู่แล้ว จึงทำให้นำสัตว์อสูรออกมาต่อสู้ด้วยไม่ได้เพราะใช้ขี่อยู่ แม้สัตว์อสูรที่ขี่จะเพิ่มพลังบางอย่างให้กับคนที่ขี่ แต่มันก็ช่วยสู้ไม่ได้ มันทำได้เพียงช่วยแบ่งเบาความเสียหายเท่านั้น  หากต้องปะทะกับพวกที่มีสัตว์อสูรเก่งๆร่วมต่อสู้ด้วย ก็จะถูกรุม2-1 ทำให้เสียเปรียบได้”

“แต่อาชีพผู้ขนส่ง มีความสามารถคือสามารถบรรทุกของได้มากขึ้นและขี่พาหนะสัตว์อสูรได้ ทำให้เมื่อมีอาชีพหลักเป็นดรากูลและมีอาชีพเสริมเป็นผู้ขนส่งแล้ว สามารถใช้สัตว์อสูรได้พร้อมกันถึง2ตัว ต่างกับผู้เล่นคนอื่นๆที่เรียกสัตว์อสูรมาได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น”

“แม้ว่าคนอื่นๆที่เป็นผู้ขนส่ง จะขี่สัตว์อสูรและเรียกสัตว์อสูรมาพร้อมกันได้ทั้งสองตัวเหมือนข้า แต่เมื่อพวกเขาไม่ใช่ดรากูน การขี่สัตว์อสูรก็เพิ่มพลังจากคุณสมบัติของสัตว์อสูรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างเช่นหากผู้เล่นทั่วๆไปขี่พยัคฆ์ขาวเก้าหาง ก็จะได้รับพลังโจมตีเพิ่ม10% แต่หากดรากูนขี่พยัคฆ์ขาวเก้าหากแล้วนอกจากจะได้พลังโจมตีเพิ่ม10%แล้ว ยังได้รับค่าพลังทั้งหมดเพิ่มอีก25%ด้วย แต่สำหรับดรากูลเมื่อไม่ได้ขี่สัตว์อสูรค่าพลังทั้งหมดก็จะเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเช่นกัน”

“และหากเป็นดรากูนที่ไม่ได้มีอาชีพเสริมเป็นผู้ขนส่ง ก็จะเรียกสัตว์อสูรมาขี่เพิ่มอีก1ตัวไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ใช้สัตว์อสูรแบบปกติ1ตัวเท่านั้น ซึ่งสำหรับดรากูนแล้ว ก็ไม่สามารถใช้สัตว์อสูรตัวเดียวตัวนั้นต่อสู้ได้ เพราะหากไม่ได้ขี่มัน ค่าพลังทั้งหมดจะเหลือเพียงครึ่งเดียว”

“ผู้เล่นคนหนึ่งจะสามารถเรียกสัตว์อสูรแบบปกติได้1ตัว จะใช้ต่อสู้หรือขี่ก็ได้ ถ้าสู้สัตว์อสูรก็มีพลังตามเลเวลและของมัน ถ้าขี่ผู้เล่นที่ขี่ก็จะได้รับค่าพลังเพิ่มเติมเป็น% แต่หากเป็นผู้ขนส่งจะสามารถเรียกสัตว์อสูรแบบพิเศษมาได้ ซึ่งจะใช้ได้แค่ขี่เท่านั้น ทำให้เอาสัตว์อสูรที่เรียกแบบปกติมาใช้ต่อสู้แทนขี่”

“แต่สำหรับผู้เล่นทั่วๆไปมักไม่นิยมอาชีพผู้ขนส่งเท่าไร แม้มันจะสามารถขี่สัตว์อสูรและได้รับค่าพลังเล็กๆน้อยๆที่เพิ่มขึ้นมาให้ฟรีๆทั้งยังสามารถใช้สัตว์อสูรอีกตัวต่อสู่ไปพร้อมๆกันได้ แต่ก็ดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไรเมื่อเทียบกับอาชีพเสริมอื่นๆ เพราะค่าพลังที่เพิ่มขึ้นมาจากคุณสมบัติของสัตว์อสูรมันค่อนข้างน้อย ไปเป็นอาชีพเสริมอื่นๆเสียยังดีกว่า” เมื่อคุรุรุกิกล่าวอธิบายถึงความเข้ากันได้อย่างลงตัวของอาชีพหลักดรากูนและอาชีพเสริมผู้ขนส่งของเขาอย่างภาคภูมิใจมาซักพัก เขาก็ตอบรับการเป็นผู้ขนส่งในที่สุด

[ {หัวหน้า}คุรุรุกิ เลเวล10 อาชีพหลัก:ผู้ใช้หอก(ดรากูน) อาชีพเสริม:ผู้ขนส่ง ขั้น1 เผ่ามนุษย์  ]

“เลิกโม้เรื่องความลงตัวอะไรนั่นได้แล้วค่ะพี่ขา พวกหนูฟังพี่พูดเรื่องนี้มาเกือบ10ครั้งตั้งแต่พี่บรรลุเงื่อนไขของอาชีพเสริมผู้ขนส่ง แต่ไม่ตอบรับเพราะไม่มีนักแปรธาตุในทีมแล้วค่ะ ตอนนี้พี่ก็จะได้เปลี่ยนอาชีพเสริมเป็นผู้ขนส่งเสียที หวังว่าพี่จะโม้เรื่องนี้ในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะค่ะ” ฮิโนกิประชดพี่ของเธออย่างแทงใจดำ

“นั่นสิค่ะ ชั้นเองก็ฟังบอสพูดเรื่องนี้จนเอียนแล้วค่ะ บอสรีบพาพวกเราไปล่าสัตว์อสูรตามที่ตกลงกับกีอัสเอาไว้ดีกว่านะค่ะ” ยูอิที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันก็สนับสนุนคำพูดของฮิโนกิเช่นกัน

“ขอรับ แม่สองสาวแห่งทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะพาพวกเจ้าทั้งสองไปล่าบอสเดียวนี้ล่ะ ฮ่าๆ”คุรุรุกิกล่าว

แม้คุรุรุกิจะเป็นคนหลงตัวเองอยู่บ้างแต่เขาก็มีการตัดสินใจและการจัดการเรื่องต่างๆได้ดี ทำให้เขาถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าทีมของพวกเขา ยิ่งในสถานการณ์ที่คับขันแล้ว คนที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายคับขันเช่นนั้นได้ในกลุ่มของพวกเขามีเพียงคุรุรุกิเท่านั้น

“ข้ามีข่าวดรจะบอกพวกเจ้าทุกคนด้วยนะ ระหว่างทางกลับมาเมือง ข้าพบกับสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์อสูรระดับสูง พวกมันเป็นวัวยักษ์ พวกมันน่าจะมีเลเวล10-12ได้ ถ้าหากพวกเจ้ามีข้าอยู่ พวกเราทุกคนสามารถอัพเลเวลให้ถึง10ได้อย่างรวดเร็วโดยการไปล่าสัตว์อสูรที่นั่น”

“นานๆที่ถึงจะมีเรื่องที่น่าฟังจริงๆออกมาจากปากของพี่ชายเสียที่ เฮ้ออ..” น้องสาวฮิโนกิกล่าว

“ตามข้ามาเลย” ว่าแล้วคุรุรุกิก็นำออกไป โดยที่เขากำลังขี่เจ้าพยัคฆ์ขาวเก้าหางอยู่

หากจะให้เล่าถึงที่มาของสัตว์อสูรตัวนี้แล้วล่ะก็ มันก็คงจะถือความเป็นโชคดีของคุรุรุกิที่ได้รับสัตว์อสูรตัวนั่นเป็นรางวัลสำหรับการบรรลุเงื่อนไขการเป็นดรากูนเป็นคนแรก

แม้ในขณะนี้มันจะยังไม่ได้พัฒนาการไปถึงขั้นสูงสุด แต่มันเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังมากหากจะนำมันมาใช้ในการต่อสู้ น่าเสียดายที่คุรุรุกิจำเป็นต้องขี่สัตว์อสูรอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นแม้เขาจะมีเลเวล10 เขาก็ถูกผู้เล่นเลเวล9สังหารได้อย่างง่ายดายอันเนื่องมาจากการที่เขาไม่ขี่สัตว์อสูรทำให้ค่าพลังทั้งหมดลดเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงต้องการสัตว์ขี่ตัวใหม่และนำเอาพยัคฆ์ขาวเก้าหางมาเป็นสัตว์อสูรคู่ใจในการต่อสู้แทน

[ พยัคฆ์ขาวเก้าหาง ระดับ Common(ธรรมดา) เลเวล10 ]

พลังชีวิต : 700

พลังโจมตี : 112

คุณสมบัติสัตว์ขี่ : เพิ่มพลังโจมตีให้ผู้ขี่10%

ทักษะ กงเล็บพยัคฆ์สังหาร – สร้างความเสียหาย125%ของพลังโจมตี มีโอกาส25%ที่จะคริติคอลสร้างความเสียหายเป็นสองเท่าจากความเสียหายของสกิลปกติ(250%ของพลังโจมตี)

สัตว์อสูรที่ทรงพลังขนาดนี้ ยังไม่มีใครนอกจากคุรุรุกิที่ได้มีโอกาสได้ครอบครองมัน หากเป็นสัตว์อสูรทั่วๆไปอาจะไม่มีทักษะและคุณสมบัติสัตว์ขี่ให้ ต่อให้จับสัตว์ระดับบอสมาได้ก็อาจจะมีคุณสมบัติสัตว์ขี่ที่เพิ่มพลังบางอย่างเพียง2-3%เท่านั้น

ดังนั้นการจะมาเป็นอาชีพผู้ขนส่งเพื่อให้สามารถได้ขี่สัตว์และได้คุณสมบัติสัตว์ขี่มาฟรีๆโดยที่ยังสามารถใช้สัตว์อสูรอีกตัวต่อสู้ไปด้วยได้ จึงไม่ใช้ทางเลือกที่คุ้มค่าสักเท่าไร เมื่อต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่างที่เสียไป ทั้งเวลาและเงินในการหาสัตว์อสูร และการที่เสียโอกาสในการเลือกอาชีพเสริมอื่นๆที่น่าสนใจ

แต่สำหรับผู้เล่นที่เน้นการต่อสู่แล้ว พวกเขาเหล่านั้นไม่ต้องการที่จะมีอาชีพเสริมด้วยซ้ำ เพราะจะทำให้พวกเขาเสียเวลาในการออกล่าสัตว์อสูร การจะเสริมพลังไอเท็มก็แค่ต้องใช้เงินจ้างช่างตีเหล็กซักคนเท่านั้น ส่วนยาก็หาซื้อจากพวกแม่ค้าที่รับซื้อมาจากนักปรุงยาอีกที

สำหรับเกมๆนี้ NPC จะไม่ค่อยมีบทบาทซักเท่าไรนัก ทั้งการเสริมพลังอุปกรณ์ การผลิตยา การตั้งร้านค้า การจับสัตว์อสูร และอื่นๆอีกมากมายจะถูกจัดการโดยผู้เล่นทั้งสิ้น

มีอยู่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ผู้เล่นจะต้องเสียเงินให้กับNPC อย่างเช่นการประมูลที่จะเสียเงินค่าวางสินค้าประมูลบวกกับ5%ของราคาขายหากขายได้ การเข้าร่วมอารีน่าเพื่อประลองกับผู้เล่นคนอื่นอย่างเป็นทางการและมีรางวัลที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ได้อันดับดีๆ หรือการสร้างพันธมิตรที่จะต้องเสียเงินกว่า100เหรียญทองหรือก็คือ100,000เหรียญเงินในการสร้าง ซึ่งเรียกได้ว่าต้องรวมเงินของสมาชิกทุกคนเพื่อสร้างพันธมิตรขึ้นมาเลยทีเดียว

 

แม้ว่าจะดูเหมือนผู้เล่นจะไม่ได้ใช้เงินมากนัก แต่จริงๆแล้วมันเหมือนกับว่านี่เป็นระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเสียมากกว่า หรือก็คือราคาของทุกๆอย่างในเกมจะถูกกำหนดโดยกลุ่มที่ทรงอิทธิพล หรือไม่ก็ผู้เล่นส่วนใหญ่ จะไม่มีอะไรที่NPCจะมาวางราคากลางเอาไว้ หากช่างตีเหล็กขาดแคลน การจ้างช่างตีเหล็กมาเสริมพลังก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ยาโพชั่นเองก็เช่นกัน หากมีนักปรุงยาน้อยเกินไป ยาขาดตลาด ก็อาจจะทำให้ยาเหล่านั่นมีราคาแพงแสนแพง

สำหรับทีมภาคีวิหกศักดิ์สิทธิ์ที่สมาชิกทั้งทีมเป็นนักเล่นเกมที่จะนำเงินในเกมออกไปขายแลกเงินจริงแล้ว พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องมีอาชีพเสริมกันให้ครบวงจร แม้ว่าจะเสียเวลาในการอัพเลเวล แต่พวกเขาก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆออกไปได้ นอกจากนั้นพวกเขายังสามารถหาเงินมาได้มากขึ้นจากให้บริการตามอาชีพเสริมของแต่ละคนอีกด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด