ตอนที่แล้วบทที่ 6 - นักผจญภัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่ 7 - การเจรจาครั้งสำคัญ


หญิงสาวกึ่งแมวที่เรียกตัวเองว่า 'มิยะ' นำทางผมมายังห้องหัวหน้ากิลด์ มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดไว้ ผมเลยรู้สึกทั้งยินดีและเสียใจนิดๆเกี่ยวกับมัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เริ่มจากก่อนหน้านี้ วันที่'เท็นไก'อธิบายถึงความแตกต่างของโลกที่พวกเรากำลังอยู่กับโลกเดิมของพวกเรา

“…ถ้างั้น แล้วยังไงละ?”

ผมหลุดคำถามนั้นออกไป สรุปแล้ว ผมที่คิดว่าน่าจะตายไปแล้วจากอุบัติเหตุ อาจจะเกิดใหม่หรือไม่ก็กลับคืนชีพในร่างตัวละครที่ผมเคยเล่นในเกม! แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมอดคิดไม่ได้จริงๆเลยว่าความเป็นจริงทั้งหมดนี้จะเป็นเกม บางทีอาจเป็นเพราะธรรมชาติของโลกนี้จะคล้ายกัน? ที่นี้อาจจะมีธาตุที่มากกว่า?

ด้วยความสัตย์จริง ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถ้อยคำที่ไร้ความระมัดระวังนั้นหลุดออกมาจากปากผม … อา แย่แล้วสิ! อย่างที่คิดเลย! 'เท็นไก'กับคนอื่นๆต่างแสดงสีหน้าตะลึงออกมาในทันที

ต่อมา ด้วยเหตุผลบางอย่าง ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มกว้าง เขาโค้งตัวลงอย่างรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

“แน่นอนขอรับ! นั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้องอย่างแน่นอน! ที่ของพวกเราคือข้างกายขององค์หญิงไม่ว่าจะเป็นที่ใดในจักรวาลนี้ เพราะฉะนั้น หน้าที่ของพวกเราคือผู้ช่วยของท่าน พวกเราจะสังหารศัตรูทุกคนที่ขวางทาง! ต้องขออภัยด้วยองค์หญิง ที่ท่านต้องมาเห็นการกระทำที่ไม่น่าดูของกระผม ผู้ไม่สามารถตระหนักถึงตรรกะอันชัดเจนนี้!”

(TL: ดูเหมือนเจ้าตัวจะเข้าใจว่าฮิยูกิไม่แยแสที่ย้ายมาโลกใหม่ เพราะจะสู้แล้วขึ้นปกครองเหมือนที่เคยทำในเกม)

“ด้วยเลือด ด้วยลมหายใจ ด้วยวิญญาณ ทุกสิ่งแด่องค์หญิง! พวกเราจะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อฆ่าล้างศัตรูของท่าน!!!”

เหล่าผู้บัญชาการปีศาจร้องตะโกนเป็นเสียงเดียว นะ นี่ มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน…?

เพราะไม่รู้ว่าโลกใบนี้เป็นยังไง เลยตัดสินใจที่จะลองบุกเข้าไปดู จะได้รู้ว่าที่นี้มีมนุษย์แบบไหนอาศัยอยู่บนโลก ความคิดแบบนี้อีกแล้ว!! มันคงไม่ดีเท่าไร ถ้าผมไม่เปลี่ยนทิศทางที่พวกเรากำลังจะมุ่งไป หรือถ้าผมไม่ระวังให้มากพอ โลกใบนี้อาจจะถูกทำลายลงไปได้

ซึ่งผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น สวิตซ์ระเบิดที่สามารถทำลายโลกได้อยู่ในมือผมแล้วสิ

“จะว่าไป มันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆที่อารยธรรมของโลกนี้อย่างภาษาจะใกล้เคียงกับโลกเดิมของพวกเรา”

“ใช่ เกี่ยวกับเรื่องนั้นพวกเราได้ลองสืบดูแล้ว แต่ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ได้คืบหน้าเท่าไร กระผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรายงานสิ่งที่เป็นรูปธรรมแด่ท่านได้ องค์หญิง อย่างไรก็ตามด้วยความสัตย์จริง มันเป็นจุดอ่อนของพวกเราในการแฝงตัวเข้าไปสืบค้นในสังคมมนุษย์ …”

ฟังคำของเขาแล้วผมก็ตระหนักได้ นี้ไงละ! ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยโอกาสนี้ไปแน่

“เราเข้าใจแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะลงไปตรวจสอบความสามารถของมนุษย์กับปีศาจบนโลกนี้เอง”

“-ห๊ะ?!?”

'เท็นไก' 'มิโคโตะ' 'อุสึโฮะ' ทั้งสามคนที่อยู่ใกล้ฉันถึงกับลืมคำพูดกันไปเลยทีเดียว' โคคุโย 'ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงจ้องมาที่ผมเงียบๆ ความไม่เห็นด้วยฉายชัดบนใบหน้าเขา

“อย่าตื่นตกใจไปเลยน่า เรานะเคยอยู่กับพวกมนุษย์มาก่อน เป็นแนวหน้าในการต่อสู้อยู่บ่อยๆด้วย เราไม่เหมาะสมที่จะไปกว่าหรืออย่างไร?”

ด้วยเหตุผลเท่านั้นน่าจะพอที่จะซื้อเวลาสักหน่อย คนอย่างหัวหน้ากิลด์หรือกษัตริย์คงจะไม่ได้เข้าพบได้ง่ายๆ และสำหรับผม จะได้ออกห่างจากปีศาจพวกนี้สักหน่อย รู้สึกเหมือนได้ตะโกนว่า “ยะฮู!” ไม่มีผิด

(อะ อย่างน้อยนี้ก็คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ละ ผมคิด)

“ตะ แต่…”

“อย่ากังวลไป เราแค่ต้องการยืนยันความสามารถของหัวหน้ากิลด์ไม่ก็กษัตริย์เท่านั้น มันไม่ได้ยากลำบากอะไรนักหรอก... หรือว่าพวกเจ้าไม่เชื่อในความสามารถของเรารึ?”

◆◇◆◇

ด้วยเหตุผลนั้น ผมจึงอยู่ระหว่างทางไปยังห้องหัวหน้ากิลด์ ห้องของคนที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองอาระแห่งนี้ มันช่างง่ายดายอย่างแท้จริง…

『อย่างที่คาดไว้เลย องค์หญิง! เป็นการเข้ามาในที่ซ่อนของศัตรูที่ง่ายดายถึงเพียงนี้ กระผม เท็นไก ไม่อาจหยุดความรู้สึกชื่นชมที่มีต่อท่านได้เลยจริงๆ!』

'เท็นไก'ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับผมด้วยการใช้ฟังก์ชั่น pet unison สรรเสริญผมอย่างกึกก้องอยู่ในตัวผม …

เพราะว่าเขาพูดอะไรอย่าง 『ที่ซ่อนของศัตรู』 ผมเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าผมควรจะทำยังไงดี ถึงแม้จะไม่ได้พูด ผมก็รู้ดีว่าเขาอยากจะฆ่าทุกคนที่นี้ เขาช่างเป็นคนที่ไม่น่ารักและรักสงบเอาซะละเลย ไม่ว่าใครยกเว้นสหายของเจ้าหญิงคือศัตรู และทางเลือกเพียง 2 ทางสำหรับศัตรูคือ ยอมสยบหรือถูกทำลาย

ผมต้องแก้ไขความเข้าใจของเขาโดยเร็วที่สุด แต่มาคิดดูอีกที มันเป็นเหตุผลในการดำรงอยู่ของสัตว์เลี้ยง บางทีการแก้ไขมันอาจจะเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก เหมือนบอกให้สุนัขหยุดทำตัวเหมือนสุนัข

『เท็นไก ตอนนี้เรากำลังตรวจสอบกำลังความสามารถของศัตรูให้มากที่สุด เราหวังว่าเจ้าจะระวังในคำพูดและการกระทำที่หุนหันพลันแล่นมากกว่านี้』

ถึงอย่างนั้น ผมก็เตือนเขาในเรื่องนี้อย่างละม่อม

『ขอรับ! เดิมพันด้วยดวงตาคู่นี้กระผมจะไม่กระทำสิ่งที่เป็นการเสื่อมเสียเกียรติของท่านอย่างแน่นอน!』

…ผมรู้สึกว่าความหมายของคำเตือนของผมจะส่งไปไม่ถึงเขา แต่บางทีผมอาจจะคิดไปเอง ลองคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ความรับผิดชอบย่อมตกเป็นของผม ดังนั้นการพูดว่า 『อย่าทำตัวหุนหันพลันแล่น』ก็เป็นเรื่องที่รับได้

แต่ถ้าผมพูดว่า 『คุณไม่เป็นมิตรเกินไป』เขาคงไม่คิดว่าผมกำลังหวาดระแวงและตั้งคำถามเกี่ยวกับความยับยั้งชั่งใจของเขาหรอกหรือ? ภายในห้องหัวหน้ากิลด์ มีโต๊ะสำนักงาน ชั้นหนังสือและโซฟารับแขกตั้งอยู่ด้านหน้า ห้องนี้ดูเรียบร้อยอย่างคาดไม่ถึง

เมื่อผมเข้าไป ผมก็สังเกตเห็นที่ทั้งสองข้างของประตูมีคนท่าทางแข็งแรงยืนอยู่ 2 คนดูท่าทางจะเป็นยาม และที่ด้านหน้าของโต๊ะสำนักงานมีใครบางคนที่ให้ความรู้สึกว่า 『เขานี่ละคือหัวหน้ากิลด์』

ชายคนนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและแผลเป็นบนใบหน้าดูแล้วน่าจะประมาณ 50 ปี ส่วนชายหนุ่มร่างบางที่ดูประมาณ 35 ปีที่สวมแว่นดูเหมือนจะเป็นเลขาของเขา

“หัวหน้า ฉันพาแขกมาแล้ว”

พยักหน้าให้กับคำทักทายของ'มิยะ' ก่อนชายร่างบางจะก้าวออกมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้

“ยินดีที่ได้พบนะ คุณหนู ผมชื่อ คอนราด หัวหน้ากิลด์เมือง”

ส่วนตาลุงกล้ามก้าวตามมาทีหลัง

“เช่นกัน ฉันเป็นรองหัวหน้ากิลด์ เกาว์”

โอ ฉันคิดว่าเขาเป็นหัวหน้ากิลด์ซะอีก ดูเหมือนฉันจะเผลอแสดงสีหน้าประหลาดใจออกไป รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ จึงปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก

“ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดแล้วละ คุณหนู กิลด์เป็นงานที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับข้าราชการ ดังนั้นคนที่เติบโตมากับภาคสนามแบบฉัน อย่างดีก็เป็นได้แค่รองหัวหน้ากิลด์เท่านั้นละ”

“อา มันก็ไม่เชื่อจริงๆนั่นละ ฉันเองก็เพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าการดูแลกิลด์จะค่อนข้างหนักเกินไป ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ เกาว์-ซังแท้ๆที่ทำให้ผมสามารถทำได้นะ”

“ฮะฮะฮะ”

หัวหน้ากิลด์ คอนราด ยิ้มออกมาอย่างเขินๆ ถ้าจะให้พูดความรู้สึกของผมในตอนนี้ละก็ นี้คงเป็นสถานการณ์ที่ผมควรรู้สึกสะเทือนใจ หรือไม่ก็ผมควรจะรู้สึกสงสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่สามารถหลอกผมได้หรอก เพราะผมมองดูไปที่หน้าต่างสถานะของเขาแล้ว คอนราดเป็นนักเวทย์เพราะอย่างนั้นเขาถึงอาจจะล้มรองหัวหน้ากิลด์ได้ ถ้าพวกเขาสู้กัน

อา สำหรับตอนนี้ผมรู้สึกสบายจริงๆ หมายถึงตอนนี้ผมนั่งอยู่บนโซฟารับแขก ถัดจากผมไปคือ'โจอี้' ที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความตึงเครียด ด้านตรงข้ามของโต๊ะกาแฟสีขาวคือที่นั่งของหัวหน้ากิลด์ คอนราด และรองหัวหน้ากิลด์ เกาว์

“อา ต้องขอโทษด้วยสำหรับคำเชิญด่วนแบบนี้ มันมีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับ....”

“โจอี้”

“คำขอของโจอี้-คุง”

'มิยะ-ซัง'รีบพูดแทรกคำพูดของหัวหน้ากิลด์ คอนราด

“ฉันทำอะไรผิดงั้นหรอ?”

แสดงออกไปทื่อ ผมถามคำถามอย่างจงใจให้มองว่าเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ไม่เคยรู้อะไรเลย

“จากสิ่งที่ได้ยินมา คำขอของเธอคือคุ้มครองจากดินแดนร้างทางทิศตะวันตกของเมืองอาระและพาชมภายในเมืองนี้สินะ.... เธอคิดไว้ว่าจะใช้เวลาเท่าไรสำหรับมัน?”

ตอนนั้นผมเหลือบมองไปด้านหลังของเขาแล้วหยักไหล่เบาๆเป็นคำตอบ

“อืม บางทีอาจจะ 2-3 วัน”

“…ตามที่ว่า รางวัลคือ 10 เหรียญทองกับอีกหนึ่งเหรียญโฮริฮารูกอน?”

“มากเกินไปแล้ว!!”

รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ งึมงำ ถัดจากผม 'โจอี้'ตัวสั่นเทา

“เจ้าหนุ่ม นายยังอยู่ Rank F สินะ? ตอนนี้รางวัลสำหรับ Rank นี้อยู่ประมาณ…”

“รางวัลโดยเฉลี่ยคือ 2 เหรียญเงินและรางวัลเพิ่มเติมตกอยู่ประมาณ 80 หรือมากกว่าเหรียญทองแดง”

รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์หยักหน้าแข็งๆให้คำอธิบายของ'มิยะ-ซัง'

“นายเข้าใจหรือเปล่า เจ้าหนุ่ม?! นี่มัน 10เหรียญทองกับอีกหนึ่งเหรียญโฮริฮารูกอนเลยนะ! มันเป็นรางวัลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เงินขนาดเท่านี้สามารถซื้อดินแดนเล็กๆกับข้ารับใช้ได้มากมายเลยนะ!”

“เอ๋?…เห้…???”

สถานการณ์เช่นนี้ 'โจอี้'ไม่เข้าใจคำอธิบายเลย เขาทำได้เพียงแค่ตะโกนออกมาด้วยเสียงสูงๆ เหงื่อเย็นไหลลงมาจากใบหน้าที่เปลี่ยนสี หัวหน้ากิลด์ คอนราดพูดต่ออย่างใจเย็น

“ไม่ต้องห่วงมันไม่ได้ส่งผลอะไรต่อกิลด์ มันแค่อาจจะถูกจัดเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีและแสดงพวกเราในแง่ไม่ดีต่อสายตาสังคมประมาณว่า กิลด์นักผจญภัยหลอกเอาเงินก้อนโตจากคุณหนูที่ไร้เดียงสา และโดยปราศจากข้อยกเว้น มันจะแพร่กระจายชื่อเสียงที่ไม่ดีออกไป เมื่อถึงตอนนั้นฉันเชื่อว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นักกับโจอี้-คุงเช่นกัน นายคงไม่สามารถอาศัยอยู่กับกิลด์ได้ถ้าทำอะไรที่ส่งผลต่อชื่อเสียงแบบนั้น บางทีอาจจะมีคนเล็งไปที่เงินหรืออย่างแย่ที่สุด อาจรวมถึงชีวิตด้วย”

เมื่อพูดในลักษณะที่'โจอี้'เข้าใจได้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือกในทันที

“ด้วยเหตุผลนั้น ด้วยความหวังดีของกิลด์ ฉันหวังว่าโจอี้-คุงจะคืนค่าจ้างแก่คุณหนูและให้คุณหนูแจ้งคำขอใหม่ในราคาที่เหมาะสม ถ้าเป็นกรณีนี้คุณหนูก็จะให้เป็นคะแนนกิลด์แก่โจอี้-คุงแทน ถ้าคุณหนูไม่พอใจกับเรื่องนี้ เธอสามารถมาหาเราและตกลงใหม่ได้ ว่าอย่างไรบ้างครับ?”

“-ฉะ ฉันจะคืนมัน! ฉันไม่ได้มีข้อชัดแย้งอะไร…ฮิ-ฮิยูกิ ขอโทษนะ ฉัน…”

ทั้งน้ำตานองหน้า 'โจอี้'เอาเหรียญออกมาจากกระเป๋าอย่างหวาดกลัวแล้ววางมันลงบนโต๊ะ ทันใดนั้นผมเห็นดวงตาของคอนราดกับเกาว์เปล่งแสงอันตรายหลังจากเห็นประกายของเหรียญเหล่านั้นที่หลอมขึ้นด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน

“โจอี้เข้าใจดีแล้ว เธอจะเอาอย่างไรละ คุณหนู?”

คอนราดพูดจาด้วยเสียงสุภาพนุ่มนวลไม่เปลี่ยน คิดถึงจุดประสงค์ของเขาแล้ว ผมก็แสดงท่าทีขบคิดด้วยการวางกำปั้นไว้ใต้คาง

“สำหรับฉัน ฉันได้ให้คำพูดไปแล้ว การรับเงินคืนก็เหมือนเป็นการกลับคำพูด ซึ่งเป็นการทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีของฉัน เพราะอย่างนั้นฉันคงต้องปฏิเสธละนะ”

คนเราไม่ควรกลับคำพูด แต่อย่างไรก็ตอนนี้มันก็คือการยกเลิกทางธุรกิจ คิดว่านะ ฟังคำพูดผมแล้ว 'โจอี้'ก็เปิดปากพะงาบๆ ท่าทางจวนจะเป็นลมเหมือนปลาขาดออกซิเจน ทั้งคอนราดและเกาว์จมสู่ความเงียบ ใบหน้าแข็งทื่อ

“…ไม่มีทางที่เธอจะเปลี่ยนการตัดสินใจเลยหรือ? ฉันเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งกับคนที่ถือสถานะทางสังคมแบบเธอ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ยอมเสียคำพูดนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกนะ”

『กรอด! พวกเจ้ากล้าหมิ่นเกียรติองค์หญิง!』

ผมจำเป็นต้องหยุด'เท็นไก'ที่กำลังจะใช้กำลัง

『การเจรจาเพิ่งเริ่มต้น เราไม่โกรธกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้หรอก เท็นไก』

“หืม ฟังดูแล้ว มันค่อนข้างจะหยาบคายกับฉันที่เป็นหนี้บุญคุณโจอี้ ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รับอะไรเลย …”

“ถ้าสำหรับเรื่องนั้น…”

'มิยะ-ซัง'กล่าวแทรกขึ้นมาหลังจากเงียบฟังการสนทนามาโดยตลอด

“โจอี้-คุงไม่ได้รับการฝึกฝนของนักผจญภัยหรือศาสตร์การใช้ดาบมากนัก ถ้าหากว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าโรงเรียนฝึกฝนนักผจญภัยแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย คิดว่าเป็นยังไง?”

“ห๊ะ? เธอหมายความว่าไงนะ?”

'เกาว์'นิ่วหน้าด้วยความงุนงง

“นี่คือหนทางที่เป็นไปได้ ในเมื่อคุณหนูท่านนี้ไม่ต้องการรับเงินรางวัลคืน เงินส่วนนั้นก็จะตกอยู่ในการดูแลของธนาคารกิลด์เรา ดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนั้นคงจะมากอยู่ไม่ใช่น้อย   เพื่อชดเชยแทนเงินรางวัลตามปกติ โจอี้สามารถเข้ารับการฝึกที่โรงเรียนฝึกฝนของกิลด์จนกว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ได้ ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าฝึกนั้นให้ใช้ดอกเบี้ยจากรางวัลที่ว่า เมื่อเวลามาถึงตอนที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่- แน่นอนว่าเป็น Rank D พวกเราจะคืนเงินรางวัลแก่คุณหนู ถ้าเป็นเงื่อนไขแบบนี้ เธอจะพอตัดสินใจตกลงไหม?”

“เข้าใจแล้ว นั่นไม่เลวเลย”

สัญญานี้ไม่เลวเลย 'มิยะ-ซัง'ดูจะเป็นพวกคิดเร็วไม่น้อย ช่างน่าเสียดายจริงๆ หัวหน้ากิลด์ 'คอนราด' เองก็แสดงท่าทีเห็นด้วยเช่นกัน

“พวกเราไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น แล้วโจอี้-คุงคิดว่ายังไง?”

“นะ แน่นอน ฉันตกลง!”

“เจ้าหนุ่ม อย่ายอมแพ้ในการฝึกซะละ! สู้เข้าไว้!”

'โจอี้'พยักหน้ารั่วๆ รองหัวหน้ากิลด์ 'เกาว์' พูดกับเขาพลางยิ้ม

“เอาละ ในที่สุดเรื่องทั้งหมดก็จบลงด้วยดี ฉันรู้สึกโล่งอกจริงๆ อา จริงสิ แล้วนี่คุณหนูมีที่พักแรมสำหรับคืนนี้หรือยังละ?”

“ไม่ ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ”

“นั่นไม่ค่อยดีเท่าไร มิยะ-ซัง อาจเป็นการรบกวน แต่ช่วยจัดที่พักให้คุณหนูท่านนี้หน่อยแล้ว”

“-เอ๋!?”

“ทำไมถึงร้อง「เอ๋」อย่างนั้นละ? อย่าบอกนะว่านายคิดจะให้คุณหนูท่านนี้ไปพักในโรงแรมถูกๆนะ?”

“เอ๋?! เออ ไม่... นั่นมัน …”

ดูเหมือนว่า'โจอี้'จะวางแผนไว้อย่างนั้นจริงๆ เขาก้มหน้าลงขณะพูดติดอ่าง

“นายจะโง่หรือไง!? นายคิดว่าจะปกป้องเธอได้ยังไงเมื่อนายเป็นคนพาเธอไปอยู่ในที่อันตรายแบบนั้นนะหา?! แน่นอนว่าไม่ได้! นายไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้หรอก! …อา พอเถอะ ที่พักคืนนี้ของคุณหนูให้มิยะ-ซังจัดการแล้วกัน กลับบ้านแล้วค่อยมาทำขั้นตอนร้องขอใหม่พรุ่งนี้!”

ได้ฟังเสียงรองหัวหน้ากิลด์ 'เกาว์'สั่งแล้ว 'โจอี้'ก็ลุกขึ้นและโค้งให้'คอนราด'กับ'เกาว์' จากนั้นเขาก็หันมาหาผมด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้

“แล้วเจอกันนะ ฮิยูกิ ขอโทษสำหรับวันนี้ด้วยนะ พรุ่งนี้ฉันจะมาพาเธอไปดูรอบๆแน่นอน”

“อืม ฉันจะคอยนะ”

'โจอี้'ก้มหัวของเขาอีกครั้งแล้วเดินจากไปพร้อม'มิยะ-ซัง'ที่ได้รับมอบหมายให้จัดที่พักให้ผม หลังจากทั้งสองคนเดินหายไป รองหัวหน้ากิลด์ 'เกาว์'ก็ลุกขึ้นเดินไปล๊อคประตูห้องจากด้านใน เอาละ ในที่สุดก็ได้เวลาคุยธุระจริงๆกันซะที …

End Author Notes 'ฮิยูกิ'รู้สึกว่าการที่เธอเถียงไปเถียงมากับคุณหัวหน้ากิลด์เป็นอะไรที่น่าขำมาก ดังนั้นเธอเลยนั่งขำเกือบตลอดการเจรจา ในตอนแรกฉันวางแผนให้'ฮิยูกิ'อยู่กับ'โจอี้'ที่โรงแรมราคาถูก ที่มีเตียงแค่เตียงเดียว ให้ความต้องการทางเพศสู้กับความอยากอาหาร แต่ฉันก็เปลี่ยนใจ

ที่มา:https://my.dek-d.com/anom0206/writer/viewlongc.php?id=1475351&chapter=9

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด