ตอนที่แล้วตอนที่ 3 เอาหละ มาประเมิณสถานการกันเถอะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 มาสร้างห้องเพิ่มกันเถอะ

ตอนที่ 4 มาทำข้อตกลงกกับพวกโจรกันหน่อยละกัน


2 วันผ่านไปนับตั้งแต่ผมถูกอัญเชิญมาโลกนี้ ตอนนี้ค่า DP ของผมก็เพิ่มมาเป็น 179..ไม่สิ 180 แล้วหละตอนนี้ เท่ากับว่าผมสามารถเสกกอบลินได้ 9 ตัว จะว่าไป ผมรู้สาเหตุที่ดันเจี้ยนนี้ยังไม่ถูกทำลายแล้วหละ พวกโจรมันใช้แกนกลางดันเจี้ยนที่เจอเป็นเหมือนกระเป๋าน้ำร้อนหนะนะ แกนกลางดันเจี้ยนนั้นส่องแสงอ่อนๆและก็อุ่นด้วย

หัวหน้าของพวกโจรใช้แกนกลางดันเจี้ยนเป็นเครื่องอุ่นส้นเท้าเวลานอนหลับ ทุกๆครั้งที่ผมอยากจะแอบดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่น ผมเปิดเมนูขึ้นมาแล้วภาพที่เห็นก็มีแต่ฝ่าเท้าเน่าๆของไอ้หมอนั่นเท่านั้นเอง 'โรคุโกะ'จังผู้น่าสงสาร นี่มันแย่กว่าเอาเท้าลูบหน้าอีกนะ เธอหนะโดนเหยียบย่ำกลางดวงใจเลยหละ

“ก็นะ ถึงยังไงทางเราก็ได้ DP ต่อวันมากขึ้นจากการที่พวกนี้มาอาศัยอยู่ ก็ถือว่า วิน-วิน ละกันนะ หุหุ”

ถึงจะพูดอย่างนั้น 'โรคุโกะ'ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา ช่างน่ารักจริงๆ ก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ โดนเอาเท้าเน่าๆมาประทับแบบนั้น

“เอาหละ มีอะไรที่เราพอจะทำได้ไหมนะ…”

“อัญเชิญอะไรก็ได้ออกมาเร็ว!! ก็อบลินก็ได้ อ๊ะ หรือว่าจะเป็นลิซาร์ดแมน(มนุษย์กิ้งก่า) ที่ราคา 150 DP ก็ดีนะ จะได้สั่งให้เอาหอกไปแทงไอ้เจ้าหัวหน้าโจรเท้าเน่านั่นรัวๆเลย”

“ยัยโง่ ถ้าแบบนั้นท่าทาง เธอเองหนะแหละจะโดนแทงจนพรุน”

โดนเอาแกนกลางไปใช้เป็นฮีทเตอร์แบบนี้ ยัยหนูนี่ท่าทางจะแค้นเอามากๆสินะเนี่ย

“ศัตรูมี 8 คน กำลังรบของเราไม่พอแหงมๆอยู่แล้ว นี่ถ้าเธอไม่เอา DP มาเรียก ก็อบลินเล่นเราคงไม่ต้องมาเสีย DP กับค่าอาหารของเจ้าหมอนี่หรอก”

“หืม… ไม่เคยรู้เลยนะนี่ว่าเราต้องเสียค่าอาหารให้กับมอนสเตอร์ด้วย…. แต่เดี๋ยวนะ นายเองก็เอา DP ไปเสกฟูกเหมือนกันไม่ใช่หรือไงยะ!!”

ผมได้เรียนรู้อีกอย่างนึง ดูเหมือนว่าเราจะสามารถมองเห็นทุกๆที่ภายในดันเจี้ยนได้ จากห้องแกนกลางที่เราอยู่นี้ ยัยหนู'โรคุโกะ'นี่ยังไม่รู้ว่าทำแบบนี้ได้ แต่ก็พอเข้าใจได้อะนะ ดันเจี้ยนที่มีห้องๆเดียวคงไม่จำเป็นต้องมาใช้ความสามารถแบบนี้หรอก คิดแล้วก็เศร้าจริงๆ

“งั้นเราจะทำไงกันดีหละ”

“พูดถึงเรื่องนั้นก็นึกขึ้นมาได้ เฮ้ โรคุโกะเขียนหนังสือเป็นไหม? แล้วพวกโจรมันอ่านออกหรือป่าวนะ?”

“ถ้าแค่นั้นไม่ยากหรอก เห็นแบบนี้เค้าก็เขียนหนังสือเป็นนะ ส่วนพวกโจรนี่ เค้าเห็นพวกมันอ่านหนังสือที่ปล้นมาได้บ้างเหมือนกัน น่าจะพออ่านได้แหละน่า”

“เข้าใจละ งั้นเธอช่วยเขียนตามที่ชั้นบอกหน่อยสิ”

“ได้เลย สบายมากกกก”

“ลูกพี่!!! ตื่นเร็ว ลูกพี่!!!”

“หืม!! เกิดอะไรขึ้น!!”

พอหัวหน้าโจรตื่นขึ้นมา ก็ปรากฏว่ามีกล่องจู่ๆก็โผล่มาในถ้ำ มันเคยมีของแบบนี้ด้วยหรอวะ หรือว่าเราไม่เคยสังเกตุเห็นมาก่อน

“นี่มันอะไรกันวะ มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!?”

“ผมก็ไม่รู้ครับลูกพี่ พวกเราก็เฝ้าถ้ำนี้ตลอด ไม่มีใครหลุดรอดเข้ามาแน่ๆครับ”

“แล้วยังไง จู่ๆไอ้กล่องนี่มันจะโผล่ออกมาเฉยๆรึไงกัน”

“แล้ว….เอาไงกันดีลูกพี่”

หัวหน้าโจรตรวจสอบกล่องๆนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีกับดักอะไร พอค่อยๆเปิดกล่องออกดูก็พบ หมวกเหล็กกล้าอยู่ในนั้น เป็นหมวกเหล็กกล้าชั้นดี และก็ยังดูใหม่อยู่

“เฮ๊ยๆๆ นี่มันของดีเลยไม่ใช่รึไงวะ เอาไปขายก็คงได้หลายตังอยู่ หรือข้าอาจจะใช้มันเองก็ได้นะเนี่ย”

“ลูกพี่ ที่ก้นกล่องมีข้อความเขียนอยู่ด้วยหละ”

“หืมม… นี่มันอะไรวะ เฮ๊ย!! บรัคเคน!! เอ็งอ่านหนังสือได้ไม่ใช่หรอวะ มาอ่านไอ้นี่หน่อยซิ!!”

“คร๊าบโผมมม ไหนดูซิ”

หลังจากจ้องมองดูที่ก้นกล่อง ข้อความที่แสนจะประหลาดก็ค่อยๆถูกอ่านออกเสียงให้ทุกคนได้ยิน   [เรา   คือ   แกน  กลาง  ดัน   เจี้ยน   ขอบ  ใจ   มาก   ที่   กำ   จัด  ก็อบ  ลิน   ให้   นี่   คือ  ของ   ราง  วัล   ถ้า   ทำ  ดี   อีก   เรา   ก็    มี    ราง    วัล    ให้   อีก]

“แกนกลางดันเจี้ยน…. เฮ๊ย ถ้ำนี้มันคือ ดันเจี้ยนหรือเนี่ย!?”

“เอ ไม่น่านะ ก็ถ้ำนี้มันชื่อว่า ถ้ำธรรมดาๆ นี่นา”

“อ๊า… เดี๋ยวนะหัวหน้า  สมัยที่ผมเป็นนักผจญภัย ผมเคยได้ยินว่ามีดันเจี้ยนที่ชื่อว่า ถ้ำธรรมดาๆ ด้วยหละ”

“จริงหรอวะ จอนนี่”

ว่าแล้วหัวหน้าโจรก็พึ่งจะนึกออก จะว่าไปมันไปก้อนกลมๆเรืองแสงที่เขาเอาไว้อุ่นเท้าอยู่นี่นา หรือว่าไอ้นั่นมันจะเป็นแกนกลางดันเจี้ยนกันหว่า? ไม่เห็นจะเคยได้ยินว่ามีใครที่สื่อสารกับแกนกลางของดันเจี้ยนได้มาก่อน แต่ไอ้ข้อความนี่ ถ้าจะบอกว่ามีคนแกล้งก็คงไม่ใช่ เพราะดูแล้วไม่มีใครผ่านเข้ามาในถ้ำนี้ได้แน่ๆ

นอกจากนั้น ถึงจะอยากแกล้งกัน แต่คงไม่มีทางหาหมวกเหล็กกล้าชั้นดีแบบนี้ได้ง่ายๆแน่ๆ จากข้อความที่เขียนไว้ หมวกเหล็กนี้เป็นรางวัลจากการกำจัด ก็อบลินสินะ หรือว่าจะเป็นตอนแรกที่พวกเรามาที่ถ้ำนี้ มันมีก็อบลินอยู่ 5 ตัว ในมุมมองของหัวหน้าโจร ก็อบลิน 5 ตัวนี้กระจอกมาก แทบจะไม่เสียเหงื่อซักกะหยด แค่กำจัดก็อบลิน 5 ตัวนี่ ได้รางวัลเป็นหมวกชั้นดีแบบนี้เลยหรอเนี่ย

“เฮ๊ยๆๆ อีแบบนี้ท่าทางโชคจะเข้าข้างข้าซะแล้วซิเนี่ย”

มีเรื่องเล่าที่โด่งดังมากๆเกี่ยวกีบดันเจี้ยนที่มีชื่อว่า เขาวงกตสีขาว ที่ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงขอประเทศๆนึง ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ไอ้ดันเจี้ยนนั้นมันอยู่มาก่อนของมัน แล้วเหล่าผู้คนก็มาสร้างเมืองทับบนดันเจี้ยนนั้นถึงจะถูก ได้ยินมาว่า ดันเจี้ยนนั้นมีสมบัติหายากๆอยู่มากมายก่ายกอง อย่างพวกเกราะ หรืออาวุธเวทมนต์หรือของมีค่าอื่นๆ

“ดูเหมือนว่าข้าจะทำให้คุณดันเจี้ยนพอใจสินะ”

หัวหน้าโจรคิดในใจ ถ้าดันเจี้ยนนี้มอบรางวัลกับคนที่ทำดีด้วย แบบนี้ก็เหมือนกับว่าสามารถทำเงินได้ไม่มีจำกัดเลยหนะสิ [ถ้า   ทำ  ดี   อีก   เรา   ก็    มี    ราง    วัล    ให้   อีก] จะว่าไปตอนแรกที่จัดการพวกก็อบลิน ศพของพวกก็อบลินก็หายไปโดยที่ข้ายังไม่ทันได้สังเกตุนี่นา ตอนนั้นคิดว่าพวกลูกน้องจัดการเก็บกวาดให้ซะอีก ระหว่างที่หัวหน้าโจรกำลังคิดอยู่ กล่องที่เคยตั้งอยู่ตรงหน้าก็หายไปต่อหน้าต่อตา

“ทำไม!! ทำไม!! ทำมายยยย!!! ไปให้รางวัลกับไอ้พวกผู้บุกรุกแบบนั้นทำมายอ่า!!?”

ยัยหนู'โลลิ' โวยวายไม่หยุดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น   [กระดาษกับปากกา]5DP, [กล่องไม้]5DP, [หมวกเหล็กกล้าชั้นดี]170DP หลังจากใช้ DP ทั้งหมดที่มีเสกของที่ว่า ตอนนี้พวกเราก็ไม่เหลือ DP อีกแล้ว ผมใช้ DP ทั้งหมดเสกของรางวัลให้กับหัวหน้าพวกโจร

“ทำไมอะ แบบนั้นยิ่งไม่พอจะเสกก็อบลินอะดิ”

“เสกไปก็โดนเชือดหมดหนะสิ ทำแบบนั้นก็ตายตกตามกันพอดี โทดทีนะ ผมยังไม่อยากตายตอนนี้ ผมอยากจะนอนมากกว่า”

“แล้วเสกของให้ศัตรูแบบนั้นทำมายยย นายคนทรยศ”

“เอาน่า เอาเป็นว่าตอนนี้เรายังซื้อเวลาต่อได้อีกนานเลย ไม่ต้องห่วง ไม่วันใดวันนึง ผมจะกวาดพวกโจรให้เหี้ยนเลย ดังนั้นสงบสติอารมณ์ไว้ก่อนเถอะ”

“เอ๋!?”

อาจจะเป็นเพราะ'โรคุโกะ' ประหลาดใจกับคำว่า กวาดให้เหี้ยนที่ออกจากปากผมไป ทำให้ยัยนั่นทำหน้าบ้องแบ้วด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวนะๆ หรือว่านายเป็นเผ่ามนุษย์เหมือนกับพวกโจร เลยจะเข้าข้างพวกนั้นหรือป่าวเนี่ย”

“เฮ้อ… ทำไมผมต้องไปช่วยพวกโจรที่อาจจะจบชีวิตผมเมื่อไรก็ได้ด้วยหละ”

“แต่ว่า ไปให้ของมันแบบนั้นก็เหมือนกับช่วยพวกนั้นไม่ช่ายหยอ?”

“ผมไม่ได้จะช่วยเหลืออะไรพวกโจรนั่นหรอกนะ อา…วันนี้ก็ไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว งั้นขอตัวไปงีบก่อนละกันนะ”

ผมหยิบฟูกมาปูแล้วก็ล้มตัวลงนอน

“เดี๋ยวๆๆๆ มาอธิบายให้เค้าเข้าใจก่อนเซ่!!”

“ถ้าอยากรู้ขนาดนั้นก็ช่วยไม่ได้ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะเล่าให้ฟังละกัน ราตรีสวัส”

“อย่าพึ่งนอ….. อุ๊บ!!”

พอผมปิดตาลง เสียงของ'โรคุโกะ'ก็ค่อยๆจางหายไป ดูเหมือนคำสั่งที่เคยสั่งไว้ในวันแรกที่ว่าช่วยเงียบๆตอนผมนอนจะยังมีผลอยู่สินะ ราตรีสวัส

 

 

ที่มา:https://my.dek-d.com/grit/writer/viewlongc.php?id=1472768&chapter=4

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด