ตอนที่แล้วตอนที่ 30 วันที่ 2 ของการเข้าเมือง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 32 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยน

ตอนที่ 31 เลื่อนระดับ และ เรื่องราวของหัวหน้ากิล


พวกผมตรงกลับไปที่กิลพร้อมกับใบภารกิจทั้ง 2 ใบที่รับมา พอมาถึงพระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินแล้ว บรรยากาศโดยรอบค่อยๆมืดลงๆตามเวลาที่ผ่านไป ข้างในกิลวันนี้คนดูน้อยกว่าทุกวัน หรือว่าทุกคนจะเสร็จงานกันตั้งแต่ช่วยบ่ายๆแล้วนะ

“….เป็นยังไงกันบ้างหละ? สุดท้ายก็ยอมแพ้งั้นสิ….?”

ให้ตายเถอะ นี่มันยัยพนักงานต้อนรับคนเดิมสินะ ยัยนี่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเลยหรือไงกัน ไม่มีคนอื่นบ้างเรอะ?

“ไม่มีทางซะหละ พวกผมทำเสร็จหมดแล้ว เอ้านี่…”

“….ล้อเล่นน่า..จริงหรือเนี่ย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ว่าจ้างยังพอใจมากๆอีกด้วย”

ใบหน้าของคุณพนักงานต้อนรับบึ้งตึงหงิกงอไปหมด นี่เธอไม่พอใจอะไรกันนะ

“ยินดีด้วย พวกนายเลื่อนระดับได้แล้วหละ อยากจะเลื่อนระดับตอนนี้เลยไหม”

“เอ๋…!?”

เลื่อนระดับ….หมายความว่าผมจะได้เลื่อนจากระดับ G เป็นระดับ F ซินะ

“การเลื่อนระดับจากระดับ G ไป F นั้น จะต้องทำภารกิจสำเร็จอย่างต่ำ สิบครั้ง สำหรับภารกิจออกล่านั้น นับเป็น 2 ภารกิจ หากลูกค้าพึงพอใจอย่างมาก จะนับแต้มภารกิจเพิ่มอีกเป็น 2 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น ภารกิจล่ากระต่ายนั้น ต้องการกระต่ายขั้นต่ำ 3 ตัว พวกนายล่ามาได้ 10 ตัว จึงนับว่าทำภารกิจสำเร็จ 3 ครั้งยังไงหละ รวมทังหมดที่กล่าวไป พวกนายจึงมีแต้มมากพอจะเลื่อนขั้นแล้ว จะขอถามอีกทีนะ อยากจะเลื่อนขั้นเลยไหม?”

“เอาสิ”

“ถ้างั้นขอบัตรนักผจญภัยด้วยค่ะ ขออภัยในความไม่สะดวก”

หลังจากยื่นบัตรนักผจญภัยให้ไปแล้ว คุณพนักงานต้อนรับก็หายไปในห้องด้านหลัง ….เลื่อนระดับหลังจากที่มาถึงแค่วันที่ 2 ผมสงสัยว่าพวกผมนี่ทำตัวเด่นไปหรือป่าวนะ ชักเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าการรีบเลื่อนระดับนี่ จะนำความยุ่งยากมาให้ในภายหลังหรือป่าว ไม่สิ ยังไงเราก็ต้องการเลื่อนเป็นระดับ F เพื่อที่จะรับภารกิจสำรวจดันเจี้ยน [ถ้ำธรรมดาๆ]

ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะได้ตีเนียนถามข้อมูลของดันเจี้ยนในมุมมองของพวกนักผจญภัย ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น คุณพนักงานต้อนรับก็กลับออกมา

“คุณเคมะ และ …คุณมีท หัวหน้ากิลต้องการที่จะสัมภาษณ์พวกคุณทั้งสองคนค่ะ รบกวนเชิญทางนี้ด้วยค่ะ”

ดูเหมือนยัยนี่จะลังเลไปซักพักก่อนที่จะเรียก'มีท'ว่าคุณสินะ คงจะต้องเรียกแบบนั้นตามหน้าที่สินะ ยัยนี่ยังมอง'มีท'เป็นทาสที่ผมนำมาใช้งานอยู่หรือไงนะ   ที่สำคัญ ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากไปพบหัวหน้ากิลเลย นี่พวกผมไปทำอะไรให้หัวหน้ากิลสนใจกันนะ แต่จะปฏิเศธก็คงไม่ดี ยิ่งดูมีพิรุธเข้าไปใหญ่ คงช่วยไม่ได้สินะ

หลังจากเดินตามคุณพนักงานต้อนรับไป พวกเราก็ไปถึงห้องหัวหน้ากิล มันเป็นห้องที่ดูโอ่อ่า กั้นด้วยประตูบานหรู ข้างบนของบานประตูมีแผ่นป้ายเขียนว่า [ห้องหัวหน้ากิล] ติดอยู่ คุณพนักงานต้อนรับเคาะประตู จากนั้นก็มีเสียงห้าวๆทุ้มๆดังออกมา

“เข้ามาได้…”

“ขอรบกวนหน่อยนะคะ”

หลังจากที่เปิดประตูเข้าไป ผมก็พบชายแก่ที่ล่ำโคตรๆนั่งอยู่ ผิวของเขาออกคล้ำๆและหยาบกร้านแสดงถึงประสบการณ์ของการเป็นนักผจญภัยที่ช่ำชอง หนวดสีชาวและสายตาที่จ้องมองมาดูเฉียบคมดั่งพยาเหยี่ยว

“ข้าชื่อ งิน เป็นหัวหน้ากิลของที่นี่ ข้าได้ยินเรื่องของพวกเจ้ามาเยอะเลยหละ ต้องขอบใจ ซีเลียเค้าหละนะ”

'ซีเลีย'เป็นชื่อของคุณพนักงานต้อนรับหรือ? พึ่งจะเคยได้ยินชื่อของเธอเป็นครั้งแรกนะนี่ หัวหน้ากิลจ้องมองมาที่'มีท' ที่ยืนอยู่นิ่งๆข้างๆผม

“…นี่แม่หนูน้อย เธอคิดยังไงกับพี่ชายข้างๆเธอยังงั้นหรือ?”

“เป็นนายท่านของดิฉันค่ะ”

“….ยังงั้นหรือ…”

'มีท'ตอบออกไปในทันที หัวหน้ากิลลูบหัว'มีท'แล้วค่อยๆพยักหน้า ถึงรูปร่างหน้าตาของตาลุงนี่จะดูดุดัน แต่เวลายิ้มแล้วดูเป็นลุงแก่ใจดีไปเลยแฮะ หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับไปหาคุณพนักงานต้อนรับ

“ก็…ไม่มีปัญหาอะไร  เฮ้!! ซีเลีย ฝากทำการเลื่อนระดับให้เรียบร้อยด้วยหละ!!”

“เอ๋…ค่ะ..ค่ะ!!”

“ซีเลียกับแม่หนูน้อย ช่วยรบกวนออกไปก่อนจะได้ไหม พอดีข้ามีเรื่องจะพูดกับพ่อหนุ่มคนนี้ต่ออีกซักหน่อยหนะ”

หลังจากถูกสั่งให้ออกไปรอข้างนอก 'ซีเลีย'ก็ออกจากห้องไป คือว่านะ ขอผมออกไปด้วยได้ไหมคร๊าบบบ แต่คงไม่ได้สินะ

“….นายท่านค่ะ?”

“ไม่เป็นไรหรอก ออกไปรอข้างนอกนะ”

'มีท'พยักหน้าแล้วเดินออกไป หลังจากที่แน่ใจว่าทั้งคู่ออกไปแล้ว หัวหน้ากิลก็เริ่มเปิดปากพูดออกมา

“ท่าทางแม่หนูจะติดเจ้าน่าดูเลยนะ”

“ช่าย..น่ารักดีใชไหมหละ?”

“…เจ้ากับแม่หนูนั่น เกี่ยวข้องกันยังไง?”

ตาลุงนี่เหมือนจะทำสีหน้าจริงจังขึ้นมาหรือป่าวนะ ไม่สิหมอนี่จู่ๆก็จริงจังสุดๆไปเลย

“ถามแบบนั้น มีอะไรหรือป่าวครับ?”

“คือว่า ข้าแค่สงสัยว่า พวกเจ้าเกี่ยวข้องอะไรทางสายเลือดกันหรือป่าว แบบว่า เป็นพี่น้องกันอะไรแบบนั้นหนะสิ”

“คือว่า ผมเป็นมนุษย์ส่วนมีทเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์นะครับ”

“ก็อาจจะ…เป็นญาติห่างๆก็ได้นี่”

เออ…ก็จริงแฮะแบบนั้นก็พอฟังขึ้นเหมือนกัน ผมไม่เคยนึกเลยนะเนี่ย

“โทดทีนะ ยัยหนูนั่นหนะ เป็นทาสที่ผมบังเอิญเก็บได้หนะ”

“…งั้นรึ? กี่ปีมาแล้วหละ?”

“…เอ่อ..ก็ปีนี้นี่แหละครับ”

“แม่หนูนั่นติดเจ้าขนาดนั้น? แค่ปีเดียวเนี่ยนะ?”

“โทดทีนะครับ ถ้าจะเอาจริงๆ ผมพึ่งจะเก็บเธอมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองครับ”

“เฮ๊ยๆๆ!! แกทำได้ไงวะใช้อุปกรณ์หรือว่าเวทมนต์อะไร บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!!”

เหวอออ จู่ๆลุงแกเป็นอะไรของแกวะเนี่ย!?

“ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ แค่ช่วยเธอไว้ตอนที่ยัยนี่กำลังจะตายเท่านั้นเอง”

“ยะ..ยังงั้นเองหรอ? ขอโทษทีนะที่ตื่นเต้นไปหน่อย จริงๆแล้วเด็กคนนั้น อาจจะเป็นหลานของข้าหนะสิ…”

".............................."”

อะไรอีกหละเนี่ย ผมงงไปหมดแล้ว ทิ้งระเบิดลูกใหญ่แล้วก็อย่าเงียบไปแบบนี้สิลุงงงง!!!

“นอกจากนั้น เจ้าเองก็อาจจะเป็นหลานของข้าเหมือนกัน”

ช็อค!! ช็อค!!สิครับ นี่ผมเป็นหลานของตาลุงจากต่างโลกหรอเนี่ย!! ไม่ๆๆ ผมมีปู่ของผมตัวเป็นๆอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่แล้วนี่หว่า

“นี่ลุงพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย!?”

“คือว่านะ พ่อของข้าหนะ เป็นผู้กล้าที่มาจากต่างโลกแหละ ผมของข้าหนะ เดิมทีเป็นสีดำเหมือนกับเจ้าและแม่หนูนั่นแหละ แต่ตอนนี้มันหงอกหมดแล้วหละ”

“แบบนั้นเองหนะหรอ”

เมื่อกี้ตาลุงนี่พูดว่า ผู้กล้าจากต่างโลกสินะ นี่มันข้อมูลที่สุดยอดมากๆเลยนะเนี่ย

“ขอเล่าคร่าวๆเลยนะ ลูกชายของข้าหนะ หายตัวไปตั้งแต่ 10 ปีก่อน นับแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ข้าได้พบใครก็ตามที่ผมสีดำ ข้าอดคิดไม่ได้ว่า นั่นจะเป็นหลานของข้าหรือป่าวนะ? ลูกชายของข้าไปแต่งงานกับใครแล้วมีลูกหรือป่าวนะ? นี่หละคือเหตุผล จริงๆแล้วข้าอาจจะไม่เคยมีหลาน หรือลูกชายของข้าอาจตายไปแล้วก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย อย่างน้อยข้าก็อยากจะรู้ข่าวคราวของลูกข้าบ้าง…”

“ถ้าเกิดว่าผมได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับลูกชายของลุง ผมจะรีบมาบอกลุงเป็นนคนแรกเลยละกัน”

“ขอบใจ…”

หัวหน้ากิลพยักหน้าขอบคุณ บรรยากาศที่น่าอึดอัดหายไปแล้ว ผมพึ่งมารู้สึกตัวว่า ผมเกร็งจัดจนลืมกลืนน้ำลายเลยทีเดียว ตอนนี้น้ำลายมันท่วมเต็มปากจนแทบจะทะลักออกมา ผมกลืนลงไปเฮือกใหญ่ๆ ให้ตายเถอะ ไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะ หัวใจจะวาย

“อย่างไรก็ตาม จากรายงานของซิลเวีย ไม่ได้จะว่าอะไรนะ แต่ชื่อ [มีท] เนี่ย เจ้าเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้แม่หนูนั่นหรือ?”

“…มันเป็นชื่อเก่าของเธอก่อนที่ผมจะเก็บมาหนะสิ”

“อย่างงั้นเองหรอ….แบบนั้นก็ช่วยไม่ได้หละนะ…”

หัวหน้ากิลถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ

“เห็นแก่โชคชะตาที่พาพวกเราที่มีสีผมเหมือนๆกันมาพบกัน เอาไว้ว่างๆมานั่งคุยเล่นกันใหม่นะ หรือถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกข้าได้เสมอหละ”

หลังจากที่ออกมาจากห้องของหัวหน้ากิล ผมก็พบมีทที่ยืนรออยู่หลังประตู หลานของหัวหน้ากิล?......เหลนของผู้กล้ายังงั้นหรือ…..? ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้หรอกนะ ดูจากสีผมของเธอแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องที่หัวหน้ากิลคาดเดาไปนั้นมันจะจริงไหม

ในเมื่อไม่มีหลักฐานอะไรซักอย่าง แล้วก็เรื่องที่พ่อของตาลุงนั่นเป็นผู้กล้าที่มาจากโลกอื่นนี่ก็น่าสนใจมาก สงสัยต้องหาข้อมูลเรื่องนี้ซะหน่อยแล้วสิ คือว่านะ มันแปลกไปหน่อยไหมที่มันจะเชื่อมโยงกันด้วยกะอีแค่สีผม

ถ้าเกิดว่าพระเจ้าอัญเชิญคนชาติอื่นมาหละ อาจจะเป็นผมทองหรือผมบลอนก็ได้ คงไม่มีเหตุผลอะไรที่พระเจ้าจะเอามาแต่คนญี่ปุ่นหรอกมั๊ง? นอกจากนั้น คนอื่นๆที่ถูกอัญเชิญมา อาจจะไม่ได้มาจากโลกเดียวกับผมก็ได้ ให้ตายเถอะ อยากจะซื้อไอ้เครื่องจับเท็จอะไรนี่ไว้ใช้เองบ้างซะแล้วสิ     หลังจากที่ผมกับ'มีท'เดินกลับออกไป คุณพนักงานต้อนรับก็ยื่นบัตรนักผจญภัยคืนมาให้

“เอ้า! รับไปสิ ตอนนี้พวกนายก็เป็นนักผจญภัยนะดับ F แล้วนะ”

บัตรที่พวกผมได้รับมามีตัวอักษร F สลักอยู่ หลังจากที่ส่งบัตรให้เสร็จ คุณพนักงานต้อนรับก็รีบกลับเข้าไปหลังเคาเตอร์ทันที เอาหละ ทีนี้พวกผมก็สามารถรับภารกิจสำรวจดันเจี้ยน [ถ้ำธรรมดาๆ] ได้แล้วสินะ ….หืมมมม? ผมหาใบภารกิจนั่นไม่เจอแฮะ หรือผมมองดูไม่ดีเองหรือป่าวนะ?

“ไม่เจอเลยค่ะ นายท่าน…”

“ไม่อยู่แล้วหรือ? งั้นก็หมายความว่า….มีใครรับภารกิจนี้ไปแล้วหนะสิ”

 

 

ที่มา:https://my.dek-d.com/grit/writer/viewlongc.php?id=1472768&chapter=31

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด