ตอนที่แล้วตอนที่ 21 ออกเดินทาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 ตอนพิเศษ นักผจญภัยที่สุดแสนจะประหลาด (มุมมองของทหารเฝ้ายาม)

ตอนที่ 22 เข้าเมือง


ด้านหน้าผมคือกำแพงอิฐที่สูงราวๆ 5 เมตรล้อมรอบเมืองทั้งเมืองเอาไว้ มีทหารยามเฝ้าประตูยืนคุมทางเข้าเมืองอยู่อย่างแข็งขัน เป็นเมื่องที่ใหญ่กว่าที่คิดอีกนะเนี่ยมีคนอาศัยอยู่มากขนาดไหนกันนะ ผมเปิดแผนที่ขึ้นมาดูแล้วพบว่าเมืองนี้มีประตูทางเข้าอยู่ทั้ง 4 ทิศด้วยกัน ดูเหมือนว่าประตูที่ผมอยู่จะเป็นประตูเมืองฝั่งตะวันตก

“หยุด!! เจ้ามีธุระอะไรที่เมืองเซียร์แห่งนี้?”

หลังจากเดินมาที่ประตูเมือง ทหารยามจับตาดูพวกผมและเรียกให้พวกผมหยุดเพื่อตอบคำถาม ผมทำตามแต่โดยดีเพราะไม่อยากจะก่อปัญหาให้มันวุ่นวาย

“โอ้ต้องขออภัยด้วย พอดีว่าผมมาจากประเทศอื่นเลยไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ ผมต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าไปข้างในเมืองได้ยังงั้นหรือ?”

“…ตอบคำถามข้ามาก่อน!! พวกเจ้ามีธุระอะไรที่เมืองเซียร์แห่งนี้”

“คือว่า…ผมเดินทางมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเป็นนักผจญภัยที่เมืองแห่งนี้หนะ”

“หืม…ทาสนั่น เป็นของเจ้ายังงั้นหรือ?” “ใช่แล้ว พอดีว่าผมไปเก็บมาได้โดยบังเอิญหนะสิ”

“พวกเจ้ามาทำอะไรในเวลาแบบนี้?”

“ก็..พอดีว่าเห็นว่าอัศวินเพิ่งจะไปกำจัดพวกโจรเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหมครับ ดังนั้นผมเลยคิดว่า ถ้าเดินทางในช่วงนี้ก็คงจะปลอดภัยดี พวกผมเองก็ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรเป็นพิเศษ ว่าแต่….พวกผมมาผิดเวลาหรือป่าว? คนต่างถิ่นอย่างผม ไม่ทราบเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกนะ ต้องขออภัยด้วย”

ผมไม่ได้โกหกอะไรเลย แค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง ตอนอยู่ที่ดันเจี้ยนผมเคยลองไล่ดูรายชื่อของที่ซื้อได้เล่นๆแล้วไปพบกับอุปกรณ์เวทย์มนต์อันนึงที่มีชื่อว่า [เครื่องจับเท็จ] ราคา 50,000DP ผมเลยระวังตัวเองไว้ก่อน ในเมื่อมันมีราคาเป็นครึ่งนึงของคัมภีเวทย์[รักษา] ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์นี้จะมีขายในท้องตลาด ก็เอาเป็นว่าปลอดภัยไว้ก่อนนั่นแหละ

ผมมาจากหมู่บ้านที่มีสมาชิกทั้งหมด 3 คน(หนึ่งในนั้นเป็นแกนกลางดันเจี้ยน) และผมต้องการจะมาเป็นนักผจญภัยที่นี่เพื่อเก็บข้อมูลช่าวสาร ผมเก็บทาสนี่ได้ที่ดันเจี้ยน ผมได้พบกับพวกอัศวินระหว่างทาง(และก็พวกกองโจรในดันเจี้ยนด้วย) หลังจากนั้นก็เดินทางมาที่นี่โดยสวัสดิภาพนั่นเป็นข้อมูลที่ผมบอกกับทหารยามไป

“โอ้ เข้าใจหละ โทดทีนะ ช่วงนี้มันมีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อยนะก็เกี่ยวกับที่พวกอัศวินไปกำจัดพวกโจรนั่นแหละ ทางเมืองนี้ก็เลยเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในระยะนี้หนะสิ”

“โอ้ ยังงั้นหรือ? ท่าทางจะเหนื่อยกันน่าดูเลยนะ แล้วผมเข้าเมืองได้ไหม? ผมต้องทำอะไรก่อนหรือป่าว”

“เจ้ามีบัตรแสดงตนไหมหละ? ถ้าไม่มีก็ 4 เหรียญเงินสำหรับค่าผ่านทาง และ 1 เหรียญทองแดงสำหรับค่าผ่านทางของทาสนั่น เนื่องจากปลอกคอของทาสก็นับเป็นบัตรแสดงตนชนิดนึง ดังนั้นค่าผ่านทางจึงเสียแค่ 1 เหรียญทองแดง”

ก่อนที่ผมจะออกจากดันเจี้ยนมา ผมใช้ DP จำนวนหนึ่งแลกเป็นเงินของพวกมนุษย์ ทั้งหมดที่ผมมีตอนนี้คือ 8 เหรียญเงินกับ 30 เหรียญทองแดง ดูเหมือนว่าผมจะมีพอจ่ายค่าผ่านทาง แต่ไม่รู้ว่าจะพอสำหรับใช้จ่ายข้างในเมืองหรือป่าวนี่สิ

“อ้อ 4 เหรียญเงินนั่นเป็นเงินสำหรับหลักประกันหนะ ในเมื่อเจ้าเองยังไม่มีบัตรยืนยันตน ถ้าหากว่าเจ้าได้เป็นนักผจญภัย และได้บัตรยืนยันตนมาจากกิลแล้ว ก็สามารถกลับมายื่นบัตรและรับเงินประกันคืนไปได้นะ แต่ว่าเจ้าจะมีเงินเหลือพอที่จะสมัครเป็นนักผจญภัยหรือป่าวเนี่ย ค่าสมัครเข้าร่วมกิลมันอยู่ที่ 3 เหรียญเงินนี่นา”

“จะว่าไปก็มีอีกทางเลือกนึงนะ เจ้าสามารถจ่าย 3 เหรียญทองแดงเพื่อให้ทหารยามพาเจ้าไปที่กิลนักผจญภัยได้ ทหารยามจะอยู่กับเจ้าจนกระทั่งเจ้าได้รับบัตรยืนยันตนจากกิล ถ้าเป้นวิธีนี้ก็จะไม่จำเป็นต้องวางเงินประกัน แต่จะเสีย2 เหรียญทองแดงเพื่อเป็นค่าแรงให้ทหารยามแทน(2 เหรียญทองแดงค่าแรง + 1 เหรียญทองแดงค่าผ่านทาง)”

“โอ้...ถ้างั้นทางผมก็ขอรบกวนนำทางไปทีนะครับ”

“ได้เลย ข้าจะเป็นคนพาเจ้าไปเอง  เฮ้!!! มาเฝ้าประตูแทนข้าที!! ข้าจะออกไปปฏิบัติหน้าที่หนะ”

ผมจ่ายไป 4 เหรียญทองแดง ทหารยามพาพวกผมไปยังกิลนักผจญภัย  ค่าแรงพาไปส่งราคาเพียงแค่ 2 เหรียญทองแดงนี่ดูเหมือนจะถูกมากเลยนะ ผมเองมีแต่เหรียญเงินกับเหรียญทองแดงเท่านั้น ว่าแต่เหรียญทองนี่ มันมีมูลค่าเท่าไรกันะอยากรู้จริงๆ อัตราแลกเปลี่ยนเงินของโลกนี้เป็นยังไงเท่าไรกันบ้าง คงต้องหาข้อมูลไว้ซะหน่อยแล้ว   ระหว่างทางมีรถเข็นขายเนื้อเสียบไม้ย่างที่มีกลิ่นหอมหวลชวนให้น้ำลายไหลอยู่ ผมอยากรู้จริงๆว่าเนื้อที่ย่างอยู่นั่นมันคือเนื้ออะไรกันแน่

“เฮ้ ข้าเข้าใจนะว่าเจ้าอยากจะกินไอ้นั่นขนาดไหน แต่ช่วยรีบไปกับข้าแล้วไปทำบัตรให้มันเสร็จๆก่อนได้ไหมหละ”

ทหารยามตะโกนเร่งผมที่หยุดดูรถเข็นขายเนื้อย่าง

ว่าแต่คุณทหารนี่ใจดีเหมือนกันนะ เอาเป็นว่า  ถ้าเกิดหมอนี่มาที่ดันเจี้ยนของผมหละก็ ผมจะไว้ชีวิตละกันนะ หลังจากเดินตามทหารยามไปอีกซักครู่ พวกเรามาพบกับตึกหลังใหญ่หลังหนึ่ง มีป้ายไม้ขนาดใหญ่ บนป้ายแกะสลักเป็นรูป ดาบ ขวดยา และคัมภีเวทย์ ท่าทางว่าสัญลักษณ์นี่จะเป็นสัญลักษณ์ของกิลนักผจญภัยสินะ

ผู้คนข้างในกำลังดื่มกินกันอยู่ ดื่มหนักกันแต่หัววันแบบนี้ พวกนี้มันทำงานกันกะกลางคืนหรือยังไงนะ ถึงว่างมานั่งดวลเหล้ากันกลางวันแสกๆแบบนี้ ผมเดินไปที่เคาเตอร์พร้อมกับคุณทหารยาม พนักงานต้อนรับยื่นกระดาษแบบฟอร์มลงทะเบียนมาให้ เท่าที่ดู ใบลงทะเบี้ยนนั้นถูกเขียนด้วยมือคน จะว่าไปเทคโนโลยีของโลกนี้นี่จะเจริญพอจะมีเครื่องพิมพ์หรือยังนะ

“นายหนะ เขียนชื่อตัวเองได้ไหม? ถ้าจะให้ทางนี้เขียนให้ มีค่าแรงที่ 1 เหรียญทองแดงนะ”

“อ้อ ทางนี้เขียนเองได้ ไม่เป็นไร เฮ้มีท ฝากด้วยนะ”

“รับทราบค่ะ นายท่าน”

ผมยื่นกระดาษแบบฟอร์มให้มีทเขียนให้ผม  สำหรับการเขียนนั้น ผมเขียนได้แต่ภาษาญี่ปุ่น ในขณะที่การอ่านนั้นไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไร ในสายตาผมก็จะมองเห็นอักษรนั้นแปลเปลี่ยนเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ผมอ่านได้สบายๆ จะว่าไปดีนะที่พา'มีท'มาด้วย ไม่อย่างงั้นคงมีปัญหาเรื่องการเขียนการสื่อสารน่าดูเลยแหละ แต่ว่านะ ดูเหมือนว่าทั้งทหารยามและพนักงานต้อนรับจะมองผมกับ'มีท'ด้วยสายตาสนอกสนใจ ทำไมกันหละ การที่ทาสเขียนหนังสือได้มันแปลกขนาดนั้นเลยหรอ?

“ไม่น่าเชื่อเลยนะนี่ ที่ทาสนี่จะเขียนหนังสือได้ แถมยังเด็กอยู่เลยด้วย”

“ก็ เพราะว่าผมสอนอะไรให้หลายๆอย่างหนะสิ”

“โอ้ อย่างงั้นหรือ?”

จะว่าไปมีอยู่เรื่องนึงที่ติดใจผมมานานแล้ว มานั่งคิดตอนนี้ไม่รู้จะสายไปไหม รูปร่างหน้าตาของผมเนี่ย มันแปลกสำหรับที่นี่หรือป่าวนะ ก็พวกโจรกับพวกอัศวิน ดูจากหน้าตาแล้วจะออกไปทางคนยุโรปหนะสิ แล้วคนหน้าตาแบบผมนี่ถือว่าประหลาดสำหรับโลกนี้ไหมนะ   แต่ดูเหมือนว่ารูปกายภายนอกจะไม่ใช่อุปสรรคในการลงทะเบียน

หลังจากที่ผมยื่นกระดาษที่เขียนชื่อผมให้ไป การลงทะเบียนก็เสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี ค่าลงทะเบียนสำหรับสองคนคือ 6 เหรียญเงิน….ตอนนี้ผมเหลือเงินติดตัวแค่ 2 เหรียญเงินกับ 30 เหรียญทองแดง เงินผมลดลงไปเยอะเลยนะนี่

“ในเมื่อเจ้าลงทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว ข้าขอตัวไปทำงานของข้าต่อหละนะ”

“โอ้…ขอบคุณมากเลยนะ ที่พามาส่ง”

“ไม่ต้องเกรงใจ มันเป็นงานของข้าอยู่แล้ว หลังจากนี้ไป ค่าผ่านประตูของเจ้าก็จะเป็น 1 เหรียญทองแดงนะ ตราบใดที่เจ้ายังมีบัตรยืนยันตนอยู่”

แล้วคุณทหารยามก็จากไปหลังจากที่ผมมีบัตรเรียบร้อยแล้ว ด้วยบัตรใบนี้น่าจะช่วยให้ผมได้หาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเมืองนี้ได้

“เอาหละ ชั้นจะอธิบายเกี่ยวกับระดับต่างๆของกิลนักผจญภัยให้นะ”

“โอ้ ครับผม”

ถึงแม้ว่าจะลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย แต่ดูเหมือนจะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้จากที่นี่สินะ

 

ที่มา:https://my.dek-d.com/grit/writer/viewlongc.php?id=1472768&chapter=22

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด