ตอนที่แล้วตอนที่ 119 เงื้อมมือชายโฉด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 121ตั๊กแตนจับจั๊กจั่นไม่รู้ว่านกขมิ้นอยู่ข้างหลัง

ตอนที่ 120 ตั๊กแตนมรณะ


“กา กา กา ....”

บนท้องฟ้า อีกาตาแดงกลุ่มหนึ่งกางปีกเหินบินกวาดตามองอยู่ในอากาศ ผ่านไปชั่วขณะ  พวกมันก็บินกลับมาอีก และบินวนเป็นวงกลมอยู่บนท้องฟ้า  มีบางส่วนร่อนลงมาเกาะกิ่งไม้มองหาอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถหา'เย่ว์หยาง'และองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มป่าทึบเจอ

ในที่สุด พวกมันก็กระพือปีกเสียงดัง และบินไปหาในตำแหน่งอื่น นับแต่'เย่ว์หยาง'ฆ่าอีกาตาแดงตัวแรกไปแล้ว ในช่วงกลางวันและกลางคืน ฝูงอีกาตาแดงก็บินตามหา'เย่ว์หยาง'อย่างน้อยก็ยี่สิบครั้ง เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า นักสู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอินทรีร้องแห่งเทือกเขากุ่ยเจี้ยนโฉวมีความชำนาญในการควบคุมอีกามาก

เพื่อค้นหาที่ซึ่ง'เย่ว์หยาง'และองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'อยู่ นักสู้ลึกลับผู้นี้ได้ควบคุมอีกาอย่างน้อย 200 ตัวให้ค้นหาเขา พวกมันถูกส่งหมุนเวียนกันมาค้นหาเขาทุกที่ที่'เย่ว์หยาง'มุ่งหน้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า

อย่างไรก็ตาม พวกมันถูก'เย่ว์หยาง'หลอกโดยการอำพรางของ'เย่ว์หยาง' จนไม่สามารถทำงานได้สำเร็จในที่สุด  องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ก็เหมือน'เย่ว์หยาง' ถอดเกราะชุดเต็มออกจากตัวแล้วเอาใบไม้มาพรางกายแบบที่มักใช้โดยหน่วยตระเวณในป่า

เมื่อใดก็ตามที่มีฝูงกาบินเข้ามา  พวกเขาจำเป็นต้องหลบเข้าในกลุ่มต้นไม้หรือหมอบลงหยุดการเคลื่นไหว  วิธีนี้ ทำให้ฝูงกาบนท้องฟ้าจะไม่สามารถหาตำแหน่งของพวกเขาเจอ แม้ว่าความโกรธขององค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ที่มีต่อ'เย่ว์หยาง'ที่บังอาจมือบอนยังไม่จางหายไป แต่นางก็ยอมรับว่าเจ้าผู้นี้เจ้าเล่ห์ ใช้กิ่งและใบไม้ทำเป็นชุดพราง นับเป็นความคิดที่ดีจริงๆ อย่าว่าแต่อีกาเลย  แม้แต่มนุษย์ก็ยังไม่สามารถหาพวกเขาพบ

ภายในหุบเขาที่เต็มไปด้วยกระแสโตรกธารที่ไหลแรง อินทรีภูผาเล็บเหล็กนับไม่ถ้วนส่งเสียงร้องวุ่นวายบินหลบในทุกทิศทาง มังกรบินสีเขียวโผล่หัวออกมา ปรากฏว่ามันบรรทุกบุรุษชุดดำอยู่บนหลังขณะที่ร่อนลงกับพื้น 'เย่ว์หยาง'และองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'รีบซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกในหุบเขา  คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของบุรุษชุดดำอย่างเงียบๆ

พวกเขาเห็นบุรุษชุดดำล้วงเอากะโหลกสีดำออกมาก่อนจะเริ่มบริกรรมคาถา หมอกสีดำหนาพวยพุ่งออกมาจากกะโหลกในที่สุดมันก็รวมตัวกันเป็นลูกบอลสีดำหลายลูก จากนั้นบุรุษชุดดำ ก็โยนลูกบอลหมอกสีดำเหล่านี้ลงบนพื้น หมอกสีดำกระจาย  และมีเสียงแตก โครงกระดูกรูปทรงประหลาดถูกเรียกออกมาทีละตัวๆ โครงกระดูกเหล่านั้นบางตัวก็มีสิ่งของที่พวกมันครอบครองอยู่เมื่อครั้งที่พวกมันยังมีชีวิต

ตัวอย่างเช่น ถุงมือที่ขาดรุ่งริ่ง โซ่เงินที่ชุ่มไปด้วยเลือดดำ ดาบยาวที่มีสนิมเขรอะ เจ้าหญิง'เชี่ยนเชี่ยน'หลบหน้าลงทันที 'เย่ว์หยาง'ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางเข้าใจ นางเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี  นางพบเป้าหมายของนางแล้ว โครงกระดูกเหล่านี้คือหน่วยลาดตระเวนที่นางตามหา แต่ว่าพวกเขาทั้งหมดตายแล้ว  และพวกเขายังถูกบุรุษชุดดำเปลี่ยนให้เป็นโครงกระดูก ด้วยวิชาเรียกวิญญาณคนตายที่น่าสยดสยอง  กลับกลายเป็นว่าคนที่ทำลายหน่วยลาดตระเวณจากราชสำนักและควบคุมอีกาก็คือหมอผีผู้นี้

อย่างไรก็ตาม พวกหมอผีมีอยู่แต่ในแดนอเวจีของปีศาจ  แล้วกลับมีปรากฏในทวีปมังกรทะยานได้อย่างไร? หมอผีชุดดำซ่อนตัวอยู่หุบเขาอินทรีร้อง เทือกเขากุ่ยเจี้ยนโฉวมานานเท่าไรแล้ว?  เขามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่?

“บริวารอมตะของข้า จงออกไป หาดูว่าคนเป็นๆ สองคนมันซ่อนตัวอยู่ที่ใด..”

ขณะที่สวดพึมพำ มือของบุรุษชุดดำผอมแห้งจนแทบเหลืออยู่แต่กระดูก ใช้แสงอัญเชิญสีเขียวและฉายไปที่โครงกระดูกหลายสิบนี้ โครงกระดูกเหล่านี้เปลี่ยนรูปร่างไปภายใต้แสงเรืองๆ สีเขียว เปลี่ยนสีและเพิ่มขนาดกลายเป็นขนาดยักษ์

ภายใน 10 วินาที พวกมันก็เปลี่ยนจากโครงกระดูกแห้งเหี่ยวระดับ 1 ไปเป็นโครงกระดูกระดับ 2 บรรดาโครงกระดูกเหล่านั้น มีอยู่โครงหนึ่งดูดกลืนแสงของบอลเขียวไปมาก มันได้รับการเสริมความแข็งแกร่งและเกิดวิวัฒนาการกลายเป็นเป็นโครงกระดูกเหล็กระดับ 3 โครงกระดูกเหล็กตัวหัวหน้านี้มีแขนเป็นดาบเหล็กงอกออกมาทั้งสองข้าง เจ้าหญิง'เชี่ยนเชี่ยน'รู้ว่านี่เป็นฝีมือควบคุมวิญญาณของหมอผี

ตราบใดที่ยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ใกล้ๆ  พวกโครงกระดูกผีเหล่านี้จะรู้สึกถึงได้  การอำพรางด้วยกิ่งไม้และใบไม้จะสูญเสียประสิทธิภาพ  โชคดีที่การตรวจจับของเจ้าพวกโครงกระดูกผีนี้มีขอบเขตจำกัดที่ระยะ 20-30 เมตร  ไม่ใช่เพียงแค่นั้น  ลำธารยังแยกทั้งสองออกห่างจากหมอผีนั้นด้วย มิฉะนั้นอาจถูกโครงกระดูกผีเหล่านี้ตรวจเจอทันทีก็ได้

องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'วางมือลงบนหลัง'เย่ว์หยาง'เบาๆ และวาดมือเป็นวงกลมบอกใบ้ให้เขาทราบว่าเตรียมโจมตีแบบคาดไม่ถึง ด้วยระยะที่ห่าง มันเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการลอบโจมตีและโอกาสประสบผลสำเร็จมีไม่มาก  และพวกเขายังต้องกระทำให้ได้รวดเดียว

มิฉะนั้น ถ้าหมอผีชุดดำนี้ขับขี่มังกรบินพิษทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า  พวกเขาจะไม่มีทางไล่ตามพวกเขาทันอีก องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ได้ประเมินหมอผีชุดดำนั้นไว้ว่าอาจเป็นนักสู้ระดับ 6 ก็ได้  มีโอกาสสูงที่จะสังหารเขาได้ ถ้าการจู่โจมอย่างคาดไม่ถึงประสบผลสำเร็จ ปัญหาประการเดียวก็คือว่าคนผู้นี้มีความระมัดระวังตัวเป็นอย่างสูง  จุดที่มังกรบินเกาะอยู่เป็นหินที่ยื่นออกมา

ตราบใดที่มังกรบินยังกระโจนได้ เขาก็อาจหลบหนีไปได้โดยง่าย นอกจากนางพญากระหายเลือดแล้ว เกี่ยวกับการต่อสู้ทางอากาศ องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'กับเจ้าคนลามกได้แต่งอมืองอเท้าดูเฉยๆ เท่านั้น มีแค่นางพญากระหายเลือด อสูรทองระดับ 3 ตนเดียว ยากมากที่จะฆ่ามังกรบินพิษ อสูรทองแดงระดับ 6 ตัวนี้ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามีหมอผีที่มีความแข็งแกร่งระดับ 6 ขับขี่มันอยู่ด้วย

“ชู่ววว”

'เย่ว์หยาง'จับมือองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ไว้  เมื่อนางพยายามขัดขืนดิ้นรน  เขากลับส่งสัญญาณให้นางเงียบและอย่าเคลื่อนไหว  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“…”

องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'จ้องมองเขา  แต่ในที่สุด พอฟังสิ่งที่เขาพูดก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการอีก นางต้องการดึงมือกลับ  แต่'เย่ว์หยาง'ทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้  เขาไม่ยอมปล่อยมือนางและยังคงกุมมือไว้อย่างนั้นถือโอกาสตอดเล็กตอดน้อยหากำไรกับนางไว้ก่อน  องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ทำอะไรไม่ได้ นางต้องการยันเขาให้ตกลงไปในโตรกธาร

อย่างไรก็ตามบุรุษชุดดำยังคงปรากฏตัวอยู่  นางจึงต้องพักความคิดเช่นนี้ไว้ เดิมทีนางต้องการจะชกเขา  แต่ชั่วครู่ต่อมานางก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย นางตะครุบหลังของ'เย่ว์หยาง'อย่างกังวล จากนั้นหน้าอกกดลงบนตัว'เย่ว์หยาง'โดยไม่รู้ตัว แล้วยังกดต่ำลงไปอีกจนติดกับพื้น ทั้งนี้เป็นเพราะตำแหน่งที่จะดูได้'เย่ว์หยาง'จองไว้ก่อนแล้ว

องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'จึงต้องดูจากตำแหน่งที่สูงกว่าโดยข้างล่างเป็นผาสูงชัน  สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวยังคงยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ยังไม่ปรากฏให้เห็น มันไม่ได้เคลื่อนไหว และมันเก็บซ่อนลมหายใจเอาไว้ มันเกาะติดอยู่กับผนังหน้าผาราวกับว่ามันเป็นหิน เป้าหมายของมันคือหมอผีชุดดำและมังกรบินพิษ ที่ไม่สามารถรู้สึกถึงสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนี้

เมื่อมังกรบินพิษกระพือปีกยักษ์ของมันและเริ่มจะพาบุรุษชุดดำบินขึ้นช้าๆ  สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวก็เคลื่อนไหวราวกับาสายฟ้า พอมันเคลื่อนแขนขนาดยักษ์ที่เหมือนคมเคียวไวราวกับสายฟ้าสีดำแล้ว  มันใช้แขนเคียวคว้ามังกรพิษเอาไว้  อสูรทองแดงระดับ 6 มังกรบินพิษไม่สามารถจะต่อสู้ได้ ได้แต่ร้องโหยหวนครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอ้าปากที่เต็มไปด้วยซี่ฟันแหลมคมของมันและกินหัวของมังกรบินพิษทั้งเป็น  มันไม่ฆ่าเหยื่อของมันก่อน แต่กินมันทั้งเป็นแทน เสียงกรีดแหลมของมังกรบินพิษดังก้องไปทั้งหุบเขา

ขณะเดียวกันทั่วทั้งหุบเขาเป็นเหมือนแดนมรณะ  สิ่งมีชีวิตทั้งหมดกลัวจัดจนไม่รู้ว่าจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เมื่อสิ่งมีชีวิที่น่ากลัวกินมังกรบินพิษทั้งเป็น  หมอผีชุดดำกำลังดิ้นรน   ร่างของเขายังคงห้อยอยู่กับแขนยักษ์ของสิ่งมีชีวิตตัวนี้  เขาไม่สามารถดิ้นรนต่อสู้ให้หลุดมาได้เลย พอเห็นเจ้าหนอนตัวน้อยยังบังอาจต่อสู้ดิ้นรน  เจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวก็โน้นหัวลงมากัดศีรษะของบุรุษชุดดำทันที  หมอผีชุดดำมีปฏิกิริยาว่องไว และล้วงลูกบอลเทเลพอร์ทออกมาทันที และทุบมันด้วยมือที่เป็นกระดูกของเขา ลำแสงเทเทพอร์ทส่องลงมาภายในวินาทีเดียว

อย่างไรก็ตาม  ทันทีก่อนที่เขาจะหายไประหว่างเทเลพอร์ท  สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวโกรธและยกแขนเคียวของมันขึ้นข้างหนึ่ง และฟันลงมาที่บุรุษชุดดำ..

*ฉับ!*

ร่างท่อนล่างของบุรุษชุดดำผู้กำลังเทเลพอร์ทอยู่ขาดตกเข้าไปในพื้นที่เทเลพอร์ททันที และร่างท่อนบนของเขาหล่นลงพื้นดังตุ้บ ถ้าไม่ใช่เพราะหลบหนีได้เร็วพอ  หมอผีชุดดำนี้มีความแข็งแกร่งระดับ 6  ก็จะต้องถูกฆ่าทันที

'เย่ว์หยาง'และองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ดูภาพที่เกิดเหตุทั้งหมดจนหัวของพวกเขาแทบระเบิด  สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวคงเป็นอสูรทองระดับ 7 ตั๊กแตนมรณะที่ลือกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น มันยังเป็นจ้าวอสูรทองอีกด้วย บุรุษผู้มาจากมิติอื่นเหงื่อแตกเป็นสายฝนและอุทานในใจว่า พระเจ้าช่วย! เจ้าบ้าที่ไหนกันบอกว่าตั๊กแตนมรณะสูญพันธุ์ไปแล้ว?   ยังมีตัวหนึ่งอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา!  ร่างของมันใหญ่กว่ามังกรบิน 2-3 เท่า และยังใหญ่กว่าเครื่องบินขับไล่เสียอีก   เป็นไปได้หรือนี่ที่ยังมีสิ่งมีชีวิตแบบนี้คงอยู่ในทวีปมังกรทะยานจริงๆ?

โชคดีที่มันไม่ได้บินออกไปจากกุ่ยเจี้ยนโฉว มิฉะนั้นทุกคนคงโดนกินเรียบแล้ว มังกรบินพิษ อสูรทองแดงระดับ 6 ยังไม่มีเวลาจะต่อสู้และยังถูกกินไปเต็มๆ คำ  ถือเป็นความซวยของมัน  เจ้ามังกรบินพิษตัวนี้โชคร้ายจริงๆ หลังจากตั๊กแตนมรณะกินหัวของมังกรบินพิษแล้ว  มันก็หมดความสนใจซากยักษ์ของมังกรบินและโยนทิ้งทันที มันกางปีกออกและบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้าและหายไปในอากาศที่บางเบาทันที ถ้าไม่ใช่เพราะซากของมังกรบินหล่นลงบนพื้นเสียงดังตุ้บต่อหน้าต่อตาพวกเขา  'เย่ว์หยาง'และองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'ทั้งคู่คงสงสัยว่าจะเป็นการปรากฏตัวของตั๊กแตนมรณะหรือเปล่า

“ดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วมันกินแก่นเวทของมังกรบินไปได้”

'เย่ว์หยาง'ร้องในใจว่า

“นั่นเกือบไป”

“มันเป็นตั๊กแตนตำข้าวตัวเมีย ข้าไม่รู้ว่ามันวางไข่แล้วหรือไม่  แต่ถ้าเราหาไข่เหล่านั้นเจอ  อย่างนั้นเราจะหาตัวอ่อนของตั๊กแตนมรณะได้”

องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'มีความปรารถนาในใจเล็กๆ  ตัวอ่อนของตั๊กแตนมรณะเป็นอสูรชั้นทอง  และความสามารถของมันเพิ่มมากขึ้นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด  เมื่อ'เย่ว์หยาง'ได้ยินแล้ว เขาโดดผางด้วยความตกใจและรีบโบกมือรัวๆพูดว่า

“ถ้าเจ้าต้องการหาที่ตายก็เชิญไปเลย  ไม่ต้องลากข้าไปด้วย  ข้ายังสนุกกับชีวิตไม่พอ!”

“เจ้าคนขี้ขลาด!”

องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'โกรธ นางแค่พูดลอยๆ เท่านั้น  เขาคิดจริงๆ หรือว่าจะมีตัวอ่อนตั๊กแตนมรณะเหลือรอพวกเขาอยู่?

“ข้ารู้สึกสมเหตุสมผลที่สุดแแล้ว เพราะนี่ก็ทำถูกแล้ว เราฆ่าบุรุษชุดดำไปแล้ว”

'เย่ว์หยาง'เคยกลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอ เขากลัวความยากลำบากมากกว่า

“แต่เขาหนีไปแล้ว เราจะหาเขาเจอได้อย่างไร? ใครจะรู้ว่าเขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”

ตอนนี้องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'รู้สึกว่ามันจะอันตรายไปหน่อยที่จะลงมือในหุบเขาอินทรีร้อง  ที่สำคัญก็คือ  ตั๊กแตนมรณะ อสูรทองระดับ 7 ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง และอาจโจมตีพวกเขาจากข้างหลังเมื่อไหร่ก็ได้ ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้คนขนหัวลุกจริงๆ

“ดูสิ...”

'เย่ว์หยาง'ชี้ไปที่พวกโครงกระดูกผี ที่กำลังลากตัวท่อนล่างของบุรุษชุดดำและซากของมังกรบิน

“เจ้าผู้นั้นยังคงอยู่ที่นี่หรือ?  ก็ดี   เราจะดำเนินการต่อกับสิ่งที่เจ้าพูดตอนนี้  รอต่อไปเถอะ”

องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'รู้สึกว่า เจ้าหมอผีปีศาจจะต้องโชคร้ายแน่นอน  ประการแรก เขาปล่อยให้ตั๊กแตนมรณะซุ่มโจมตีเขา  ฆ่ามังกรบินพิษ อสูรทองแดงระดับ 6 ของเขา  ตอนนี้ เขายังจะถูกนางและเจ้าลามกผู้นี้ซุ่มโจมตี ด้วยการโจมตีคู่เช่นนี้  ยากที่เขาจะรอดชีวิตได้

แม้ว่าองค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'จะยังโกรธ'เย่ว์หยาง'อยู่มาก แต่นางไม่มีทางเลือก ได้แต่อยู่ใกล้ชิดกับเขาต่อ ร่างทั้งสองคนสัมผัสกันและกันและแอบอิงกันและกันอย่างใกล้ชิด  เพื่อให้การลอบโจมตีประสบผลสำเร็จ  คนทั้งคู่ซ่อนตัวอยู่ในรอยแยกของภูเขา

สำหรับสีหน้าหื่นที่'เย่ว์หยาง'แสดงออกมาถึงความพอใจของเขาเองทำให้องค์หญิง'เชี่ยนเชี่ยน'โกรธจนแทบระเบิดออกมา  ในที่สุดนางเกรงว่านางจะไม่สามารถทนต่อการยั่วโมโหให้ทุบหน้าเขา จะมีผลต่อการซุ่มโจมตีด้วย  นางได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ในขณะที่ทั้งสองคนรอการกลับมาของบุรุษชุดดำผู้บาดเจ็บหนักอย่างเงียบๆ ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง บุรุษชุดเทาคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังจ้าวอีกาปีกเหล็กขนาดยักษ์พร้อมกับบุรุษชุดดำที่เหลืออยู่เพียงกายท่อนบน คนชุดดำสาปแช่งอย่างโกรธแค้น กล่าวว่า

“ข้าโชคไม่ดีจริงๆ  ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อใช้ร่างนี้  ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าแค่ภายในครึ่งเดือน จะโดนตั๊กแตนมรณะตัดจนขาดครึ่ง  ข้าอาจไม่สามารถฟื้นคืนร่างจนอยู่ในสภาพก่อนอย่างน้อยก็ภายในปีหนึ่งได้  ท่านซัวจ์บอกว่าไม่มีตั๊กแตนมรณะในกุ่ยเจี้ยนโฉว? ไม่ใช่เหรอ อย่างนั้นข้าก็เจอผีหลอกน่ะสิ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะข้าหนีได้เร็ว  หัวของข้าคงโดนกัดเหมือนมังกรบินของข้าไปแล้ว  ลูตัน! ช่วยข้าหน่อย เชื่อมร่างข้าเข้าด้วยกันที”

บุรุษชุดเทาขำในใจ

“โชคของเจ้าแย่จริงๆ  ข้าอยู่ในกุ่ยเจี้ยนโฉวมาเกือบ 10 ปีข้ายังไม่เคยเห็นตั๊กแตนมรณะเลย  คงเป็นความผิดของมังกรบินของเจ้า  ใครใช้ให้เจ้าชอบมังกรบินมากนักเล่าถึงกับทำสัญญากับมันตัวหนึ่ง?   เอ่..มีการปรากฏตัวของจ้าวอสูรทองแถวนี้ได้อย่างไร?”

“อะไรกัน จ้าวอสูรทองเหรอ?”

บุรุษชุดดำยังคงมีความกลัวเหลืออยู่ ฟังนี่สิ มันกลัวจนถึงกับสั่นไปทั้งตัว

“อย่ากลัวเลย นั่นคือนางพญากระหายเลือดของข้า  ข้ารับรองได้ว่านางไม่ชอบกินหัวมนุษย์แน่  โดยเฉพาะหัวคนตาย”

'เย่ว์หยาง'ปรากฏตัวอยู่หลังบุรุษชุดดำ  เขายังคงยิ้มเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์ แน่นอนว่า ในสายตาของบุรุษชุดดำ มันเป็นยิ่งกว่ายิ้มของปีศาจ ไวเวิร์น  มังกรบิน 2 ขา

 

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=120

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด