ตอนที่แล้วตอนที่ 108 ข้าจะข้ามหัวเจ้า P2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 111 ท้ารบในตระกูล P2

ตอนที่ 109 จงทำให้ศัตรูสั่นสะท้านต่อหน้าเจ้า


“ซานเอ๋อ, เจ้าไม่ควรฆ่านะ”

ผู้เฒ่า'ห้า'รีบตะโกนทันทีเมื่อเขาเห็น'เย่ว์หยาง'เงื้อดาบฮุยจินขึ้น

“เสียใจด้วยปู่ห้า, ในสมัยเด็กๆ ข้าโดนลุงรองตบ ตั้งแต่นั้นมาหูของข้าก็เลยไม่ค่อยดี  ท่านว่ากระไรนะ? ข้าไม่ได้ยินเลย”

'เย่ว์หยาง'เอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบหัวยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าไว้ แล้วค่อยกดลงทีละนิ้วๆ ในที่สุด หัวของเขาก็จมคาอยู่ในพื้นหินเวที ยอดฝีมืออีกคนพอเห็นเช่นนี้ก็สั่นและตกใจจนระงับไม่ได้ เขารีบพาตัว'เย่ว์เฟิง'ออกมา เกรงว่าตัวเขาเองอาจประสบชะตากรรมเดียวกัน แม้ว่าผู้อาวุโสที่เป็นนักสู้ระดับ 6 จะเป็นคนสอนหลักๆ ให้'เย่ว์เฟิง'

'เย่ว์หยาง'อดแปลกใจไม่ได้ถึงท่าทีเขา  เขามองลูกศิษย์ถูกโจมตี แต่สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย ยังคงนั่งอยู่อย่างสงบ สำหรับยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าถึงกับขายหน้าที่ถูก'เย่ว์หยาง'เหยียบหัว  เขาก็ยังทำไม่สนใจ 'เย่ว์หลิ่ง'รีบยืนขึ้น  ใบหน้าเขามีความกังวลเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามพอเห็นว่าลูกชายของเขาแค่เป็นลมไม่มีอันตรายใดๆ เขาถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก เขามองบิดาของเขาและฮ่องเต้'จุนอู๋โหย่ว'แห่งอาณาจักรต้าเซี่ย  ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครตั้งใจห้าม'เย่ว์หยาง'เลย  เขารีบนั่งลงและไม่ออกไปช่วยยอดฝีมือมนุษย์หมาป่า ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าตกอยู่ในความลำบากอย่างหนัก เพียงลำพังโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ เขาใช้กรงเล็บขุดพื้นลงไป

เมื่อสบโอกาส เขาจะใช้พลังของสัตว์อสูรหนีให้รอดจากขาที่'เย่ว์หยาง'เหยียบยันศีรษะของเขาไว้ด้วยน้ำหนักที่ดูเหมือนจะมากกว่าพันกิโลกรัม ตอนนี้เขาไม่คิดจะเอาชนะเจ้าสวะจอมเพี้ยนนี่อีกต่อไปแล้ว เขาพียงแต่หวังว่าจะหนีพ้นจากสภาพที่น่าขายหน้าถูกเหยียบยันศีรษะนี้ให้ได้  ในฐานะที่เป็นยอดฝีมือของสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่กลับถูกผู้เยาว์รุ่นหลังเหยียบหัวต่อหน้าจุน'อู๋โหย่ว'ฮ่องเต้และตัวแทนของสี่ตระกูลใหญ่ อีกทั้งยังถูกกดจนจมลงไปในพื้นโดยที่เขาขยับตามที่ตัวเองต้องการไม่ได้ มันเป็นเรื่องอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

ถ้าเป็นไปได้  เขาอยากจะฆ่าเจ้าเด็กนี่ให้ได้ทันที  แต่เขาไม่สามารถดิ้นรนให้หลุดจากสภาพนี้ได้ ขณะที่ศีรษะของเขาถูกเหยียบยันไว้อยู่  ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าใช้เล็บของตนขุดลึกลงไปในพื้นหิน  พยายามใช้แรงจากส่วนหลังช่วย แม้จะกระดูกของเขาจะส่งเสียงแตกหักเป็นระยะ  แต่เขาก็ยังดิ้นรนเพื่อให้หลุด เขารู้สึกว่าเท้าของ'เย่ว์หยาง'ที่กดลงนั้นเหมือนภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง นักรบธรรมดาต่างตกตะลึงที่เห็นภาพเช่นนี้ คิดกันว่าเจ้าสวะผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

ไม่น่าแปลกเลยว่าเขาสามารถต่อสู้ตามวิธีของตนเองเพื่อเข้ามาในปราสาทตระกูลเย่ว์ด้วยดาบในมือเพียงเล่มเดียว สำหรับนักรบที่มีพลังเพียงพอ เกือบทุกคนพยายามค้นดูว่า “ท่าดาบที่ 2 ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย” ที่'เย่ว์หยาง'ใช้ออกมาก่อนหน้านั้น

แม้ว่าจะไม่เหมือนวิชาดาบของ'เย่ว์ชิว'  แต่ความแข็งแกร่งและความตั้งใจของมันเป็นของจริงแท้  เป็นไปได้ว่าเจ้าเด็กผู้นี้ได้ปรับเปลี่ยนและปรับปรุงวิชาของบิดาของเขา?  หรือว่าวิชามันเพี้ยนไปเพราะเขาไม่สามารถฝึกให้สำเร็จวิชาของบิดาเขาได้? กลุ่มผู้ชมไม่เข้าใจและเพียงหวังว่าจะมีโอกาสได้เห็นอีก ครั้งนี้จะดูให้ชัดๆ ไปเลย นั่นคือเหตุผลหลักที่ไม่มีผู้ใดสอดมือเข้าห้ามปรามความดื้อด้านของ'เย่ว์หยาง'

เมื่อเห็นยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าดิ้นรนสุดแรง  'เย่ว์หยาง'หัวเราะอย่างเยือกเย็นและผ่อนแรงที่ขาลงเล็กน้อย เมื่อเขารู้สึกว่าแรงที่กดที่ศีรษะของเขาผ่อนลงแล้ว  ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง หรือเป็นไปได้ว่าเจ้าเด็กนี่เริ่มหมดแรง? ได้เวลาที่เขาจะตอบโต้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่ายกศีรษะขึ้นได้เล็กน้อย  แรงกดทับขนาดยักษ์ก็กดลงมาอีก เสียงดังบึ้ม ศีรษะของเขาถูก'เย่ว์หยาง'ยันกดลงไปที่พื้นอีกครั้ง  เฉพาะตอนนี้เอง ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าถึงได้เข้าใจ  เจ้าเด็กบ้านี่จงใจล้อเขาเล่นต่อหน้าสาธารณชนจนทำให้เขาอับอายขายหน้ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะเขาคือยอดนักสู้ระดับ 5 ไม่มีทางที่เขาจะร้องขอความเมตตาภายใต้สายตาของมหาชนที่จ้องมองดู?

แค่คิดเพียงเท่านี้ นัยน์ตาของยอดฝีมือมนุษย์หมาป่ามีน้ำตาคลอด้วยความอับอาย เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้  เขาเป็นคณาจารย์ผู้สั่งสอนจากนิกายภูเขาหมอกแดนใต้ เขาอาจเสียหน้าได้  แต่ไม่อาจทำให้นิกายภูเขาหมอกแดนใต้หนึ่งในสี่นิกายใหญ่เสียศักดิ์ศรีได้ เขาจะถูกเจ้าเด็กบ้านี่ฆ่าจริงๆ หรือนี่? ไม่, เขายังมีสัตว์อสูรของเขา  ทำไมถึงไม่ใช้ทุกอย่างที่มีมาเผชิญหน้ากับเจ้าเด็กนี่เล่า?    ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าไม่ยอมจำนนและเตรียมจะเรียกสัตว์อสูรออกมากอบกู้สถานการณ์  ทันใดนั้นเสียงของ'เย่ว์ซาน'ดังกึกก้องขึ้นทันที

“หลานซานเอ๋อ,  เจ้าไม่อาจไร้มารยาทต่อแขกผู้มีเกียรติของเราจากนิกายภูเขาหมอกแดนใต้ได้นะ  นิกายภูเขาหมอกแดนใต้เป็นหนึ่งในสี่นิกายใหญ่  คนรุ่นเก่าของพวกเขามีอยู่เป็นจำนวนมากและมีความสามารถพอๆ กับเขาเรา  ผู้เยาว์รุ่นหลังก็ได้รับการนับถือ  ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวจิ่วยังเป็นศิษย์ของนิกายภูเขาหมอกแดนใต้ ถ้าเจ้าทำร้ายอาจารย์ผู้สอน  ข้าเกรงว่าการเล่าเรียนของเสี่ยวจิ่วจะได้รับผลกระทบไปด้วย  หลานซานเอ๋อ  เชื่อคำแนะนำของลุงใหญ่เถอะ  รีบปล่อยอาจารย์ผู้สอนท่านนั้นเสียเถอะ”

“…..”

ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าแอบสบถในใจ เห็นได้ชัดว่าเจ้ารู้ว่า'เย่ว์หยาง'จะต้องทำอะไรห่ามๆ และยังไม่พอใจ'เย่ว์เฟิง'อีกด้วย

“เนื่องจากลุงใหญ่สั่งมา  ผู้หลานขอรับคำสั่งและฆ่าเจ้าคนขี้โกงนี้ที่จะขัดขวางเสี่ยวจิ่วในอนาคต”

'เย่ว์หยาง'ใช้ดาบปีศาจในมือฟันที่หลังของยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าจนเลือดเขากระเซ็นออกมา  ในตอนแรกยอดฝีมือมนุษย์หมาป่ากลัวจนคิดอะไรไม่ออก  อย่างไรก็ตาม เมื่อเขารู้สึกเจ็บปวด  เขาตระหนักว่าแม้จะได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็เป็นบาดแผลเพียงผิวเผิน เขาไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต  เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าเด็กแสบนี่ไม่ใช่จะรับมือได้ง่าย  ดูเหมือนสาเหตุที่เขาไม่ถูกฆ่าเป็นเพราะความจริงแล้ว'เย่ว์หยาง'ต้องการฉวยโอกาสล้างแค้นกับลุงใหญ่'เย่ว์ซาน'

“ไม่ ไม่ ไม่ ซานเอ๋อ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว  ความตั้งใจของข้าคือต้องการให้เจ้าปล่อยอาจารย์ท่านนี้เท่าที่เป็นไปได้”

'เย่ว์ซาน'แนะนำ'เย่ว์หยาง'ด้วยท่าทางเหมือนจริงใจไม่มีใครเหมือน

“ได้เลย, ลุงใหญ่ อย่าห่วง ผู้หลานจะเชื่อฟังคำสั่งท่านลุงและฉีกหน้าเจ้าขี้โกงนี้  ที่ไม่มีความสามารถ แต่อวดเก่งว่ามีความสามารถ”

เขาฟันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเลือดกระเซ็น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีแผลใดที่บาดเจ็บรุนแรง ฝูงคนเหงื่อตกเพราะความโกรธแค้น  ดูเหมือนเจ้าเด็กบ้านี่ตั้งใจหาเรื่อง'เย่ว์ซาน' ดูเหมือนเจ้าเด็กบ้านี่เตรียมชำระล้างชื่อเจ้าสวะออกไปต่อหน้าคนทั้งตระกูลเย่ว์  เขายังต้องการเรียกร้องทุกสิ่งที่ตนเองสูญเสียไปกลับคืนมา  ท่าทีของ'เย่ว์หยาง'ทำให้ตระกูลอื่นแอบยินดี  ตระกูลเย่ว์มีอัจฉริยะมากเกินไปและยังมีสมาชิกที่ได้ดีอยู่มาก

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามีการกระทบกระทั่งภายในและมีการต่อสู้ที่น่ากลัวแล้ว  ตระกูลเย่ว์จะเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่ตระกูลใหญ่  ความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์และตระกูลเย่ว์จะเป็นผลดีต่อตระกูลอื่น  ถ้าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้นี้ตายเร็วเหมือนบิดาของเขา 'เย่ว์ชิว' หรือถูกกำจัดในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของตระกูล  น่าจะเป็นผลดีที่สุด

“ซานเอ๋อ!  ดูเหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจความตั้งใจของข้าผิดไปแล้ว”

'เย่ว์ซาน'ทำท่าทางเหมือนทุกข์ใจมากเหลือเกิน  ด้วยทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้ แม้แต่ผู้ชนะเลิศรางวัลออสการ์ยังไม่คู่ควรหิ้วรองเท้าให้เขา

“โปรดอย่าพูดอีกต่อไปเลย  เมื่อลุงใหญ่เข้ามาขอ ข้าจัดให้ก็แล้วกัน ข้าจะฟันล่ะ”

ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่านึกเดือดดาลอยู่ในใจ เขาคับข้องใจเป็นอย่างมากจนพูดไม่ออก เขารู้สึกว่าถ้า'เย่ว์ซาน'จริงใจที่จะช่วยเขา ทำไมไม่ขึ้นเวทีมาแล้วซัดเจ้าเด็กเปรตสักหมัดเล่า? แน่นอนว่า อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้อาณาจักรต้าเซี่ยหรือผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่' เขาคงไม่กล้าตำหนิ'เย่ว์ซาน'หรือตระกูลเย่ว์ได้

นอกจากนี้  เขายังฝ่าฝืนกฎเข้าไปช่วย'เย่ว์เฟิง' นั่นคือสาเหตุที่โดนเจ้าสวะจอมเพี้ยนทุบตีเอาอย่างเจ็บปวด แม้แต่นักรบทั่วไปจะรู้สึกว่ายอดฝีมือมนุษย์หมาป่าสมควรถูกทุบตีต่อหน้าฮ่องเต้'จุนอู๋โหย่ว'หรือผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่' แม้ว่าเขาต้องการปกป้อง'เย่ว์เฟิง' เขาก็ควรดูกำลังของตนเองเสียก่อน แม้แต่อาจารย์ของ'เสี่ยวจิ่ว'และบิดาของเขาก็ยังไม่ออกตัว  แล้วทำไมเขาที่เป็นอาจารย์สอนวิชาสัตร์อสูรต้องแส่ด้วยเล่า ? มันคงดีถ้าเป็นแค่วิ่งเข้ามาไกล่เกลี่ยห้ามปราม  แต่เขากลับพยายามลอบทำร้ายต่อหน้านักสู้จำนวนมาก?

เจ้าเด็กบ้านี่เมื่อเร็วๆ นี้ ใช้กำลังตนเองต่อสู้เบิกทางเข้าปราสาทโดยไม่มีผู้ใดหยุดยั้งเขาได้  ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'ประมุขตระกูลเข้ามาขวางควบคุมสถานการณ์ไว้ คงได้มีการนองเลือดแน่  สำหรับเจ้าเด็กบ้านี่ ดูเหมือนว่าจะลงมืออย่างไร้ความปราณีกับฝ่ายตรงข้ามที่ขัดกับกฎ  เขาจะยินดีกับการเจรจาต่อรองหรือไม่? ถ้ายอดฝีมือมนุษย์หมาป่านี้พูดผิดประโยคเดียว เท่ากับแสวงหาที่ตาย

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ, ซานเอ๋อ, ฟังทุกคนสิ, เจ้าสามารถทุบตีฝ่ายตรงข้ามระหว่างแข่งขันได้ แต่ที่นี่ไม่อนุญาตให้ฆ่า  เจ้าชนะไปแล้ว จงรีบลงมาซะ ตอนนี้ถึงรอบเย่ว์ปิงขึ้นไปสู้บ้างแล้ว”

ปู่'ห้า'รู้ว่า'เย่ว์หยาง'กำลังเผชิญหน้ากับ'เย่ว์ซาน'และ'เย่ว์หลิ่ง'   แต่พวกเขาเป็นเหมือนจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์  ดังนั้นพวกเขาไม่ยอมหลงกลแผนง่ายๆ อย่างนี้แน่  ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้จะไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้

“เอาล่ะ เอาล่ะ หลานชาย, เจ้าไม่ควรไม่แสดงความไม่เกรงใจต่อหน้าฮ่องเตและประมุขตระกูล”

'เย่ว์หลิ่ง'บิดาของ'เย่ว์เฟิง'ยืนขึ้นเล่นบทคนดีบ้าง

“ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย  พูดท่านพูดว่าไงนะ?”

'เย่ว์หยางย่ำลงบนหลังของยอดฝีมือมนุษย์หมาป่า เหมือนกับย่ำคางคกที่น่ารังเกียจ

“อาเซียน, เขาฟังแต่เจ้า ช่วยแนะนำเขาด้วย  ไม่ว่าอย่างไร เจ้าต้องรีบเอาตัวเขาลงมา”

ปู่'ห้า'หันไปขอร้องหญิงงาม

“ซานเอ๋อ! ลงมานี่”

ตอนแรกนางไม่อยากรบกวนเรื่องของ'เย่ว์หยาง'  แต่ขัดคำขอร้องของผู้อาวุโสไม่ได้

“โอว..ได้เลย มีแต่แม่สี่พูดชัดถ้อยชัดคำ ข้าได้ยินชัดเจนทันทีที่ท่านพูด”

'เย่ว์หยาง'ผ่อนแรงขาและดึงยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าขึ้นมา  เขาช่วยจัดเสื้อผ้าที่ฉีกขาดของยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าและพูดด้วยเสียงจริงใจว่า

“โปรดยกโทษให้ขยะอย่างข้าด้วย  ท่านเป็นนักสู้ระดับ 5 แล้วยังเป็นอาจารย์ผู้สอนของนิกายภูเขาหมอกแดนใต้  ขณะที่ข้าเองเป็นสวะที่ใครๆ ก็รังแกได้ง่าย  นอกจากแม่สี่คอยประคบประหงมข้าแล้ว  ไม่มีใครอื่นสนใจข้าหรอก โปรดเอื้อเฟื้อยอมละเว้นข้าสักครา  เรื่องต่างๆ อย่างพวกค่ารักษาที่ท่านทุบตีข้า, ฟันหลังข้า, เหยียบหัวข้า  ข้าคงไม่กล้าพูดถึงมันแล้ว เรื่องทั้งหมดต้องโทษตัวข้าเองที่เป็นเพียงเศษสวะเท่านั้น  ท่านก็เห็นตอนนี้ข้าทั้งเสียเลือด และเสื้อผ้าก็ขาดวิ่นไปหมดแล้ว  ข้าเสียใจจริงๆ ท่านโปรดไว้ชีวิตข้าและยอมปล่อยให้ข้าได้กลับลงไปหาครอบครัวได้ไหม?”

“….”

ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าไม่ได้ร้องไห้  แต่เขารู้ว่าสีหน้าของเขาคงย่ำแย่ไม่ต่างจากคนร้องไห้

ถ้าเขาทำได้ เขาอยากทึ้งศีรษะตัวเองจนตาย อย่างไรก็ตาม  ตอนนี้ชีวิตของเขายังอยู่ในเงื้อมมือเจ้าบ้านี่และเขายังทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าเขาอยากจะฆ่าตัวตาย  เขาเกรงว่าต้องรอให้'เย่ว์หยาง'พูดจบเสียก่อน  ยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าเพียงหวังว่าเขาจะหมดสติไปเอง แต่เขาก็ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ตาม 'เย่ว์หยาง'ปล่อยยอดฝีมือมนุษย์หมาป่าไปแถมโบกมือให้อีก

“ขอบคุณอาจารย์ที่ไว้ชีวิตข้านะ  ข้ารู้แต่แรกแล้วว่าท่านโชกเลือด เอ๊ย.. ไม่ใช่.. ข้าประทับใจอาจารย์อย่างท่าน แน่นอนว่าท่านคงไม่ถือสาคนอ่อนแออย่างข้า  ขอบคุณนะท่านอาจารย์ ตอนนี้ข้าจะส่งท่านลงเวทีละนะ”

ด้วยแรงยันของเขา ส่งผลให้อาจารย์ผู้นั้นลอยละลิ่วไป 10 เมตร ขณะที่เขาพึมพำว่า

“ข้าจะส่งท่านไปสักพันไมล์ก็แล้วกัน”

เพียงไม่นานเขาก็ลงมาอยู่ข้างหญิงงามและทำตัวเหมือนเด็กว่านอนสอนง่าย เขาโค้งคำนับนางอย่างสุภาพและพูดว่า

“แม่สี่! ข้ากลับมาแล้ว โชคดีจริงๆ ที่ทุกคนช่วยกันอ้อนวอนขอร้องแทนข้า อาจารย์ท่านนั้นก็เลยใจดีไว้ชีวิตข้า แค่เรื่องนี้ก็เลยทำให้ข้าพ้นจากอันตรายได้  ข้ารู้สำนึกผิดแล้ว ต่อไปข้าไม่กล้าไม่เชื่อฟังคำของท่านอีกแล้ว”

“เด็กโง่!”

หญิงงามเข้าใจว่า'เย่ว์หยาง'พยายามทำให้นางดูมีความสำคัญด้วยคำพูดของเขา  จึงอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาทันที

“….”

กลุ่มคนไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

ขณะที่มองการกระทำที่ประหลาดของเจ้าเด็กนี่ มันเป็นเรื่องบ้าขณะที่เขาขึงขังคาดคั้นต่อหน้าทุกคน  เขาทำตัวมีเหตุผลตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแผนหรือคำพูดของเขา  ไม่ได้มีทีท่าว่าเขาจะยอมลดความก้าวร้าวของตน  แต่การกระทำของเขาดูไม่มีเหตุผลเลย  เพราะเขาประเมินตัวเองสูงเกินและกันศัตรูออกจากทุกคน  เขากล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับนิกายภูเขาหมอกแดนใต้ หนึ่งในสี่นิกายใหญ่

ขณะที่เขาตั้งประจันหน้ากับตระกูลและขัดขืนไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของผู้อาวุโสของเขา  แต่กลับมีใจกตัญญูต่อแม่สี่ ทุกอย่างที่เขาทำมาก็เพื่อยกระดับให้ความสำคัญต่อแม่สี่ของเขา เจ้าเด็กบ้านี่มีเรื่องขัดแย้งมากมายเหลือเกิน สำหรับเจ้าเด็กนี่มีอารมณ์ที่ไม่สมดุลเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวกบฏเดี๋ยวก็เคารพ นับว่าเป็นคนแปลกโดยแท้

“พี่ไห่! คุณชายสามของตระกูลท่านน่าสนใจจริงๆ เก่งจริงๆ เขาน่าสนใจมากกว่าบิดาของเขาที่ดื้อรั้นเสียอีก  ถ้าข้ามีโอรสที่น่ารักอย่างนั้น จะเป็นเรื่องดีสักเพียงไหน”

ฮ่องเต้'จุนอู๋โหย่ว'ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นพลางตบไหล่ของผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'

“องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ก็กตัญญูมากมิใช่หรือ?”

ผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'หัวเราะอย่างอารมณ์ดีพลางมองดู'เย่ว์หยาง'ด้วยสายตาแปลกๆ

อาจเป็นไปได้ว่าเขาเตือนให้ท่านระลึกถึงเย่ว์ชิวบุตรชายผู้ล่วงลับที่ทำให้ท่านยินดีและภาคภูมิใจที่สุดเมื่อก่อนนี้  สีหน้าของเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย  สีหน้าของฮ่องเต้'จุนอู๋โหย่ว'ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเหมือนกับผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'

“น่าเสียดายที่นางเป็นสตรีไม่ใช่บุรุษ เสียดายจริงๆ”

“ใช่ น่าเสียดาย”

แม้ว่าผู้เฒ่า'เย่ว์ไห่'จะพูดว่ามันน่าเสียดาย

แต่ไม่ชัดเจนว่าหมายถึงองค์หญิง'เชียนเชียน'หรือว่า'เย่ว์ชิว'บุตรชายผู้ล่วงลับในการศึก 'เย่ว์เทียน', 'เย่ว์เยี่ยน'และคนอื่นๆ มองดู'เย่ว์หยาง'จากระยะไกล  แม้ว่า'เย่ว์หยาง'จะเอาแต่แสดงฝีมือของเขาล้วนๆ แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะ'เย่ว์หยาง'ได้  มีอสูรที่สามารถสู้กับคนที่เอาแต่ใช้วิทยายุทธสู้ได้ และพวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีอสูรชนิดนั้นอยู่ในคลังของเขา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่เหมือน'เย่ว์หยาง'ที่สามารถเรียกสัตว์อสูรได้เพียงตัวเดียว แต่พวกเขาได้ฝึกมาหลายปีแล้ว

นอกจาก 3 ดาวเพชฌฆาตผู้ยิ่งใหญ่  'เย่ว์เทียน'และ'เย่ว์เยี่ยน'ไม่รู้สึกว่าจะมีผู้ใดสามารถต่อกรพวกเขาได้ คุณชายสามผู้สวะนี่น่ะหรือ? แม้ว่าเขาจะมีวิทยายุทธที่สูงส่ง เขาจะไม่เหนื่อยจนได้หรือ? กับอีแค่คัมภีร์อัญเชิญที่เพิ่งทำสัญญามาได้เพียงครึ่งปี ไม่มีสัตว์อสูรเก็บไว้เลย  แล้วเขาจะมาต่อกรพวกเขาได้อย่างไร?  ยิ่งไปกว่านั้น

หลังจากได้รับสิ่งนี้มาเมื่อสามวันที่แล้ว  เจ้าสวะสามคงถึงคราวที่จะพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของพวกเขาแล้ว  ตอนนี้พวกเขาปล่อยให้เจ้าสวะผยองไปก่อน  ดังนั้นพวกเขาจะได้รับความนับถือมากขึ้นเมื่อเอาชนะเขาได้ในภายหลัง  ปล่อยให้เขาเหลิงไปก่อนแล้วค่อยล้มเขาในภายหลัง

ในความคิดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของ'เย่ว์เทียน'และ'เย่ว์เยี่ยน' 'เย่ว์หยาง'ได้แต่หัวเราะสะใจ เขาเชื่อว่ามีเหตุผลที่ทั้งสองคนสงบอยู่ได้นานเป็นเพราะพวกเขามีวิธีจัดการกับเขานั่นเอง อย่างไรก็ตาม โชคไม่ดี พวกเขาไม่รู้ว่าฝีมือของเขาคือระดับปราณก่อกำเนิด และเขาไม่จำเป็นต้องใช้สัตว์อสูรใดๆ เลย ไม่ต้องพูดถึงทักษะนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด

'เย่ว์หยาง'มองล่วงหน้าว่าพวกเขาจะทำสีหน้าแบบไหนเมื่อเขาปล่อย'โคเงา'ออกมาสู้กับพวกเขา ถ้าเขาเรียกนางพญากระหายเลือดออกมาฆ่าสัตว์อสูรของพวกเขาไม่เหลืออะไรเลยในที่สุด พวกเขาจะทำสีหน้าเช่นไร? ที่หน้าปราสาทตระกูลเย่ว์ เหตุผลที่เย่ว์หยางหยุดสู้หยุดพยายามสู้เสี่ยงชีวิตกับ'เย่ว์ซาน' เป็นเพราะเขากลัวว่า'เย่ว์เทียน'และ'เย่ว์เยี่ยน'จะยอมแพ้ในการแข่งขัน พวกเขาหยิ่งผยองมานานเกินไปแล้ว...

'เย่ว์หยาง'ตัดสินในกำจัดพวกเขาจากการจัดอันดับในหมู่อัจฉริยะรุ่นเยาว์ผู้มีพรสวรรค์ ไม่เหลืออะไรให้พวกเขาเลย ดังนั้น เขาทนเก็บความโกรธเอาไว้จนถึงช่วงแข่งขันประจำปีของตระกูล เขาตั้งใจจะกลั่นแกล้งพวกเขาให้หนักต่อหน้าสาธารณชนระหว่างแข่งขันและปล่อยให้ทุกคนตะลึงจนพูดไม่ออก  ขณะที่พวกเขากลับไปเป็นคนธรรมดาร้องไห้อย่างน่าสงสาร

“พี่สาม! ตอนนี้ถึงรอบข้าแล้ว ข้าจะเอาชนะพวกเขาให้ได้ด้วยทุกอย่างที่พี่สอนข้า”

'เย่ว์ปิง'กำหมัดแน่น

ช่วยพี่ชายนางเชิดชูศักดิ์ศรีของครอบครัวนั่นคือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ของนาง  ไม่ว่าคู่ต่อสู้ที่อยู่ต่อหน้าจะเป็นผู้ใดก็ตาม  นางจะไม่ปราณี  นางต้องคว้าชัยชนะโดยราบรื่นและสนุกสนานที่สุดให้พี่ชายของนางได้เห็นให้ได้  ซึ่งจะเป็นเหมือนกับให้ของขวัญปีใหม่แก่เขา

“ข้าเข้าใจ  น้องสาวข้าเก่งที่สุดอยู่แล้ว  ต่อให้มีสุนัขหลายตัวดูถูกเจ้า มันก็เปลี่ยนความจริงข้อนี้ไม่ได้  เจ้าจงบอกพวกเขาว่าอัจฉริยะหมายความจริงๆว่าอย่างไร  ไปเลย ปิงเอ๋อ, ทำให้คู่ต่อสู้ต้องสั่นสะท้านต่อหน้าเจ้าให้ได้”

ด้วยคำพูดปลุกใจของ'เย่ว์หยาง'  ประกายในดวงตาของ'เย่ว์ปิง'ค่อยๆ ฉายแววอบอุ่น จากนั้นก็ร้อนแรงดุจดวงอาทิตย์

“ได้เลยพี่สาม!  ข้าจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง”

'เย่ว์ปิง'กำหมัดแน่น  นางตะโกนเสียงน่ารักเจี้อยแจ้งดังผ่านอากาศทะยานเข้าไปถึงชั้นฟ้า

 

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=109

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด