ตอนที่แล้วตอนที่ 61 พ่อตัวตลก ค่อยๆ แสดงให้ข้าดูก็ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 63 ตอบโต้แดนปีศาจ

ตอนที่ 62 รอพวกเจ้ามานานแล้ว


"เจ้า?"”

'เฉินถู่หาว'โกรธจัดจนแทบกระอักเลือด  เขาทำหน้าบิดเบี้ยวถมึงทึงตะโกนอย่างน่ากลัวว่า

"ข้าจะฆ่าเจ้า!"

"ฝันเอาไว้เป็นเรื่องดีเสมอ"”

'เย่ว์หยาง'ยักไหล่และหันไปรอบๆ

"ฮุยไท่หลาง  แกเล่นกับเจ้าตัวตลกนี่สักครู่เถอะ แม้ว่าเจ้าตัวตลกนี่จะอ่อนแอไปนิด  แต่เขาก็ยังรู้วิธีเล่นตลก..."”

'ฮุยไท่หลาง'หูตั้งทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น มันเชิดหน้าหอนใส่ท้องฟ้าแล้วมองหา'มันติคอร์'จากนั้นกระโจนตรงไปหามันทันที

แม้ว่า'มันติคอร์'ชั้นทองแดงระดับ 3 จะมีระดับที่ต่ำกว่า'ฮุยไท่หลาง'  แต่ภายใต้การชี้นำของ'เฉินถู่หาว' มันคำรามอย่างไม่เกรงกลัวเผชิญหน้ากับ'ฮุยไท่หลาง' มันแยกเขี้ยวแหลมคมและพยายามกัดขาหลังของ'ฮุยไท่หลาง'

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ามันเป็นอสูรที่ทำสัญญา  มันอาจเลือกโจมตีที่คอหอยของ'ฮุยไท่หลาง'แทน  การพยายามกัดหมาป่าปีศาจหลังเหล็กที่ปราดเปรียวมากและมีระดับสูงกว่ามัน เป็นการยากมากกว่าปกติ

แต่'เฉินถู่หาว'เพิ่มกลยุทธ์ในสู้เข้าไปด้วย และเขาได้เปรียบที่รู้จุดอ่อนของสัตว์อสูรชนิดต่างๆ  ในโรงเรียน เขาได้เรียนรู้ทักษะในการตอบโต้สัตว์อสูรที่แคล่วคล่องว่องไวอย่างสุนัขป่า สุนัขธรรมดา สุนัขจิ้งจอกและอื่นๆ

หนึ่ง คอหอย สอง กระดูกสันหลัง สาม ขา เพื่อจะฆ่าสัตว์อสูรที่ปราดเปรียวมากกว่าอย่างสุนัขป่า สุนัข สุนัขจิ้งจอกที่ใหญ่กว่าสัตว์อสูรประเภทสิงโต เสือโคร่ง หรือเสือดำที่อาศัยพลังที่แท้จริง  จะต้องโจมตีจุดอ่อนใหญ่ที่สุดของคู่ต่อสู้อย่างคาดไม่ถึง  ทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีพิเศษ

คอของหมาป่าปีศาจหลังเหล็กไม่สามารถกัดได้ และสันหลังของมันก็ไม่มีจุดอ่อน  ดังนั้นจึงต้องทำลายแบบพิเศษ และกำจัดกรงเล็บของมัน

มิฉะนั้น ด้วยความคล่องแคล่วของ'ฮุยไท่หลาง' 'มันติคอร์'ที่มีระดับต่ำกว่า มีแต่จะถูกมันล่อหลอกให้เหนื่อยตาย  'เฉินถู่หาว'มีความมั่นใจใน'มันติคอร์'ของเขา

ขณะที่'ฮุยไท่หลาง'เป็นสัตว์อสูรที่ไม่ได้ทำสัญญา  ไม่ว่า'ฮุยไท่หลาง'จะฉลาดแค่ไหน  หากปราศจากคำสั่งของเจ้านาย มันก็ได้แต่พึ่งพาสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น

แม้ว่ามันจะมีระดับสูงกว่า'มันติคอร์'ของเขา  มันก็ยังไม่สามารถเอาชนะ'มันติคอร์'ที่เขาใช้ภูมิปัญญาเขากำกับอยู่ด้วย ในสถาบันฉางจิง

มีคำพูดยอดนิยมว่า : เฉพาะอสูรที่ทำสัญญาแล้วเท่านั้นถึงจะเรียกได้ว่าสัตว์อสูรรบ  ถ้าไม่อย่างนั้น พวกมันก็เป็นแค่เพียงสัตว์ป่า ทันทีที่'ฮุยไท่หลาง'ลงยืนบนพื้น มันกระโดดกลับอย่างรวดเร็ว  มันใช้เล็บข่วนไปที่ปากใหญ่ของ'มันติคอร์'ที่ถอยหลบไม่ทัน เลือดไหลออกทันที  เมื่อ'มันติคอร์'โกรธพยายามกัดโต้ตอบ  'ฮุยไท่หลาง'ก็โดดขึ้นไปในอากาศแล้ว หลบหลีกการจู่โจมของ'มันติคอร์'อย่างคล่องแคล่ว  ในทันทีที่'มันติคอร์'หันมาโจมตี  'ฮุยไท่หลาง'ใช้กรงเล็บตะกุยจนเป็นรอยเลือดที่หลังของ'มันติคอร์'....

พวกทหารรับจ้างพากันน้ำลายยืดพลางชมดู  เหมือนกับจะคาดหวังจากหมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดงระดับ 4 แม้ว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า มันเป็นไปได้ที่จะไม่สนใจความแตกต่างของขนาดและกำจัด'มันติคอร์'ชั้นทองแดงระดับ 3 ให้ได้เด็ดขาด

ในระดับนี้มันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว พึ่งพาสัญชาตญาณในการต่อสู้  จะเป็นอย่างไรถ้ามันทำสัญญาและมีเจ้านายสั่งการ?  นั่นจะไม่ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นหลายเท่าหรือ?

ถ้าเพียงแต่พวกเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรอย่างหมาป่าปีศาจหลังเหล็กได้ มันเป็นเรื่องแย่เกินไปที่สัตว์อสูรชั้นทองแดงไม่สามารถทำสัญญาได้ทั้งที่มันเต็มใจ  ไม่ต้องพูดถึงนักสู้ชั้นผู้กล้าระดับ 2

แม้แต่นักสู้ชั้นวีรบุรุษระดับ 3 ก็ยังกระหายที่จะทำสัญญากับมัน  หมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวนี้จัดอยู่ในชั้นทองแดงระดับ 4 อย่างน้อยอาจต้องได้นักสู้ชั้นยอดฝีมือระดับ 4 มาทำสัญญากับมัน...

"ฮุยไท่หลาง แก..เจ้าโง่  แกเอาแต่ใช้วิธีเกาก้นมันอยู่ได้?  ผิวของมันติคอร์หนา  แกตั้งใจว่าจะสู้กับมันไปอีกกี่พันปี? แกน่าจะกัดลูกป๋องแป๋งกับพวกสวรรค์ของมันให้กระจุยสิ  รู้จักสิ่งที่เรียกว่าจุดสำคัญไหม?"”

'เย่ว์หยาง'ตะโกนลั่น ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของ'เย่ว์หยาง'ถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก กัดพวงสวรรค์ให้กระจุยเลยเหรอ? ขณะที่ทุกคนคิดกลยุทธ์นี้  ทุกคนรู้สึกถึงลมหนาวที่พัดเข้าไปในกางเกงพวกเขา แม้ว่าในใจพวกเขาจะไม่ยอมรับ  แต่ถ้ากลยุทธ์นี้สำเร็จผล  มันเป็นเรื่องเจ็บปวดที่สุด เป็นการทำลายล้างศัตรูมากที่สุด

เดิมที'เย่ว์หยาง'ไม่ได้ต้องการให้'ฮุยไท่หลาง'เข้าสู้  ตัวเขาต้องการลุยเข้าหาและล้ม'เฉินถู่หาว'ด้วยหมัดเขากระทั่งฟันของ'เฉินถู่หาว'กระเด็นตกพื้นทั้งหมด

จากนั้นเหยียบเขาอย่างไม่ปราณีเอาให้กระดูกหักไปทั้งร่าง จากนั้นก็ฉี่ใส่เขา  สุดท้ายเขาจะให้'เฉินถู่หาว'คุกเข่าต่อหน้าเขาเหมือนสุนัขและให้เลียรองเท้าของเขา ร้องไห้ขอให้เขาไว้ชีวิต  แต่ว่ามีคนมากกว่า 1 คนปรากฏตัวมาสมทบทันที

หญิงงามชุดไหม เจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวแอบเข้ามาสังเกตดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กทารก นอกจากนาง ยังมีคนอื่นอีก คนผู้นี้ดูเหมือนคนธรรมดา เป็นคนประเภทที่ไม่มีใครจำได้ต่อให้เขาเดินผ่านไปมาถึง 100 เที่ยว

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ญาณทิพย์ของ'เย่ว์หยาง'  เขาเห็นว่าคนผู้นี้มีพลังแข็งแกร่ง  คนผู้นี้อาจอ้างความเหนือชั้นกว่ากับพวกทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่  และเขาแค่อันตรายน้อยกว่าหญิงงามชุดไหมเจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวเท่านั้น

ดูผิวเผิน บุรุษผู้นี้แต่งกายเหมือนทหารรับจ้างธรรมดา และไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเขา 'เย่ว์หยาง'ไม่ทันได้สังเกตการปรากฏตัวของเขาตั้งแต่แรก

เมื่อตอนที่โดดลงมาก่อนทำลายหัวหุ่นติดดาบทำให้คนผู้นี้มีตาฉายประกายและเผยให้เห็นตัวตนว่าเขาเป็นคนแข็งแกร่ง สิ่งที่ทำให้'เย่ว์หยาง'ตื่นตัวก็คือว่าคนผู้นี้ถือแก้วผลึก 6 เหลี่ยมแปลกๆ เล็งไปที่สนามต่อสู้ เหมือนกับว่าเขากำลังบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด ความเคลื่อนไหวของคนผู้นี้ทำให้จิตใจของ'เย่ว์หยา'งสงบลงทันที

มันจำเป็นต้องสั่งสอน'เฉินถู่หาว'ให้หลาบจำ  หากแต่เขาไม่สามารถเปิดเผยความลับที่เขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดคนใหม่ได้ ดังนั้น 'เย่ว์หยาง'จึงวางกับดักเขา

เขาจะหลอกทุกคนที่นี่ และให้คนฉลาดเหล่านี้ยึดถือความรู้สึกลวงนั้นอย่างจริงจัง  พวกเขาจะไม่มีทางสงสัยว่าเขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด

หลังจากนี้..แน่นอน เขาจึงได้ส่ง'ฮุยไท่หลาง'ออกไปสู้กับ'มันติคอร์'ของ'เฉินถู่หาว'ก่อน

"ระวัง!  เฉินถู่หาวอาจใช้ม้วนเวทพันธสัญญาเมื่อฮุยไท่หลายได้รับบาดเจ็บ  พลังวิญญาณของสัตว์อสูรจะอ่อนแอ เมื่อมันเจ็บหนัก  จิตตานุภาพที่อ่อนแอของมันจะทำให้คนอื่นฉวยโอกาสทำสัญญากับมันได้"”

'เย่คง'รีบมาอยู่ข้างๆ 'เย่ว์หยาง'และเตือนเขาด้วยเสียงเบา  แต่ พอเห็นตาของ'เย่ว์หยาง'ที่มีประกายและรอยยิ้มในนั้น เขาถึงได้รู้ว่าเขากังวลเรื่องเล็กน้อยมากเกินไป  เขาชะงักไปชั่วขณะและพูดอีกว่า

"ข้ายังคงสงสัยว่าทำไมเฉินถู่หาวถึงมุ่งเป้าไปที่เย่ว์ปิง"”

ดังนั้น...

"เป็นไปได้ว่าคงเพราะการแข่งขัน  ตระกูลเฉินถู่มีเด็กผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่คนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับเย่ว์ปิง  ทั้งสองคนเป็นที่จับตาของนิกายศาลาเซียนจันทราเหนือและกลายเป็นตัวเลือกชั้นยอดให้เป็นผู้เข้าสอบเพื่อให้ได้เข้าศึกษาในนิกายของพวกเขา  ดังนั้น ถ้าเฉินถู่หาวเอาชนะพลังของ'เย่ว์ปิง'ได้ศาลาเซียนจันทราเหนือก็จะเลือกน้องสาวของเขาให้ได้รับสิทธิ์ก่อน"

"เป็นอย่างนั้นเองหรือ"”

'เย่ว์หยาง'เข้าใจขึ้นบ้างถึงเหตุผลที่'เฉินถู่หาว'กระตือรือร้นที่จะชวนทีมของ'เย่ว์ปิง'ให้ไปยังหอทงเทียนหลังจากได้ฟังเรื่องนี้  มันเป็นเหตุผลที่เขาต้องการทำลาย'เย่ว์ปิง'ด้วยมือเขาเอง

จนทำให้นางไม่สามารถก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง  หลังจากให้นางเข้าไปในหอทงเทียนแล้ว  ไม่เพียงแต่จะทำให้นางสอบตกในการเข้าร่วมทดสอบเท่านั้น แต่พลังของนางก็จะตกมากเกินไปด้วย

'เฉินถู่หาว'กล้ามายับยั้ง'เย่ว์ปิง'อย่างเปิดเผย  คงมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหยานที่คอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง ตระกูลหยานยังคงพยายามก้าวข้ามตระกูลเย่ว์มานานแล้ว  เพื่อข่มดรุณีอัจฉริยะอย่าง'เย่ว์ปิง'  ตระกูลหยานคงไม่ยอมละเลยโอกาสเช่นนี้

สำหรับ'เย่ว์เยี่ยน'  'เย่ว์หยาง'ไม่ได้ตราหน้าว่าเป็นไปได้ที่เขาจะสมคบคิดกับศัตรู.. หัวใจเ'ย่ว์หยาง'รุ่มร้อนด้วยความโกรธ  แต่ตอนนี้เขายิ้มกว้าง  นี่ไม่ใช่การละเล่นเล็กน้อยแล้วหรือนี่?  ใครจะไปรู้เล่า?

พื้นที่เล่นของเกมนี้ก็คือการต่อสู้กันระหว่างตระกูล  เขาจะดูว่าใครสามารถทำลายใครได้กันแน่ และใครจะได้หัวเราะในที่สุด พอกวาดสายตาไปที่ฝูงคนเสร็จแล้ว 'เย่ว์หยาง'ถอดเสื้อออกและฉีกเป็นริ้วคล้ายสายผ้า

จากนั้นเขาใช้มันหุ้ม'เย่ว์ปิง'ที่ยังหมดสติอยู่ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้ทุกคนมึนงง รวมทั้ง'เย่คง'ด้วย ใช้ผ้าที่ฉีกห่อตัว'เย่ว์ปิง' 'หมายความว่ายังไง?

'เย่คง'นึกเหตุผลไม่ออก ทุกคนที่สังเกตออกเห็นว่า'เย่ว์หยาง'หน้าเครียดเล็กน้อย  ปกติพอพูดแล้วบุรุษผู้นี้จะไม่เคลื่อนไหวแบบสูญเปล่า  ทำไมเขาถึงไม่สนกระบวนการต่อสู้ระหว่าง'ฮุยไท่หลาง'กับ'มันติคอร์' และมีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์แบบนี้อีกด้วย?

ฉีกชุดของตนมาทำเป็นสายรัดน้องสาวไว้กับตัว ทำอย่างนี้เพื่ออะไร? มีบ้างบางคนไม่ได้รู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่เคลื่อนไหวมั่วๆ เขาจะต้องมีแผนดำเนินการแน่ ปัญหาก็คือ ไม่มีใครเดาออกว่าเขาวางแผนอะไรไว้

นี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนปวดหัว การต่อสู้ในสนามต่อสู้ ยังคงดำเนินต่อไป บาดแผลหลายแห่งมีเลือดหยดปรากฏอยู่บนร่างของ'ฮุยไท่หลาง' นี่เป็นเพราะเล็บของ'มันติคอร์'

แม้ว่ามันจะเร็วกว่า แต่ปราศจากจิตสำนึกของเจ้านายช่วย มันไม่สามารถหลบการโจมตีได้ทุกครั้งทำได้แค่เพียงพึ่งสัญชาตญาณ

อย่างไรก็ตาม  'มันติคอร์'ยังมีระดับต่ำและสภาพย่ำแย่กว่า'ฮุยไท่หลาง' 'มันติคอร์'ได้รับบาดแผล มีเลือดสดๆ ไหลออกมา  แม้ว่าจะไม่มีบาดแผลหนัก

แต่ความสามารถในการต่อสู้ของมันเริ่มลดลงเล็กน้อย  แม้แต่คนตาบอดก็เห็นได้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ'ฮุยไท่หลาง'  สิงโตชั้นสามัญระดับ 1 อาจจะเอาชนะหมาป่าระดับ 2 ได้  แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สิงโตระดับ 3 จะเอาชนะหมาป่าระดับ 4  ระหว่างสัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่า

แค่ต่างกันระดับเดียวก็ทำให้สัตว์อสูรแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายถึง 2-3 เท่าเลยทีเดียว  ไม่ใช่เพียงแค่นั้น  สัตว์อสูรระดับสูงชั้นทองแดง  ก็มีพลังที่เหลื่อมล้ำกว่ากัน

ดังนั้นแม้ด้วยคำสั่งของเจ้านาย 'มันติคอร์'ชั้นทองแดงระดับ 3 ยังไม่สามารถเอาชนะ'ฮุยไท่หลาง'ที่ไม่มีเจ้านายคอยควบคุม ขณะที่มันไม่ได้ทำสัญญา ใช้หางแมงป่องต่อย

'เฉินถู่หาว'ไม่ได้ตกใจ  ราวกับว่าเขาคาดการณ์ผลเอาไว้แล้ว  เขายิ้มเยาะและสั่งให้'มันติคอร์'ใช้ไม้ตาย หางแมงป่อง หางแมงป่องนั้นไม่ขยับโจมตีมาตลอดเวลานี้

ภายใต้คำสั่งโจมตีของ'เฉินถู่หาว'  'มันติคอร์'ที่ยังเก็บพลังของมันไว้มานานเริ่มกระโดดไปรอบๆ หางแมงป่องแหวกอากาศไว้ปานสายฟ้าต่อยไปที่'ฮุยไท่หลาง'อย่างแม่นยำ

'ฮุยไท่หลาง'กลิ้งหลบหางแมงป่อง  'ฮุยไท่หลาง'ปล่อยให้หางแมงป่องพันรอบมันทันที ต่อจากนั้นมันใช้ฟันคมกัดลงไปที่ต้นหาง'มันติคอร์'เต็มเหนี่ยว (อัณฑะ) และไม่ยอมปล่อย

พอจุดอ่อนถูกโจมตี  'มันติคอร์'ร้องโหยหวนอย่างน่าสงสาร หางแมงป่องของมันตกลง  แต่'ฮุยไท่หลาง'ยังกัดแน่น 'เฉินถู่หาว'ไม่ได้แสดงท่าทีเสียใจ

แต่มีพฤติกรรมที่แปลก เขาสั่งให้'มันติคอร์'กลับ 'ฮุยไท่หลาง'ยังใช้เรี่ยวแรงกัดหางแมงป่องทั้งหมด 'มันติคอร์'ถอยไปอยู่ข้างๆ 'เฉินถู่ห่าว'อย่างเจ็บปวด

มันยังร้องครวญครางอย่างน่าสงสาร  อย่างไรก็ตาม 'เฉินถู่หาว'ไม่ได้ปลอบมัน แต่ล้วงเอาม้วนอักขระเวทออกมาและเปิดออก  ม้วนเวทเปล่งแสงสีขาวจ้าครอบคลุม'ฮุยไท่หลาง'ไว้

"เด็กดี ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว  ข้าไม่ใช่ไอ้สวะนั่น  เขาไม่สามารถทำสัญญากับหมาป่าปีศาจชั้นดีได้  ข้าแตกต่างออกไป  ข้าเป็นนักสู้ขั้นสูงชั้นวีรบุรุษ มาเถิด..มาทำสัญญากับข้า..."”

'เย่คง'ตื่นตระหนก แต่เห็นว่า'เย่ว์หยาง'แค่มองดูอย่างเย็นชาและไม่ขยับอะไร เขารู้สึกผิดหวังทันที เขารู้ว่า'เย่ว์หยาง'ไม่ชอบ'ฮุยไท่หลาง'  ที่สำคัญคือเขาชอบเตะ ชอบเหยียบมัน แต่จะยอมปล่อยให้'เฉินถู่หาว'ทำสัญญากับ'ฮุยไท่หลาง'ในลักษณะนี้หรือ?

'ฮุยไท่หลาง'ไม่ใช่แค่หมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดงระดับ 4 เท่านั้น  มันยังมีความสำคัญ  มันว่าง่ายและพื้นฐานเลยก็คือมันเป็นอสูรชั้นดีที่มีเพียงหนึ่งในหมื่น

แต่เย่คงไม่รู้ว่าจุดสมดุลและจุดวิวัฒนาการสำหรับปราณปีศาจในตัว'ฮุยไท่หลาง'ก็คือปราณก่อกำเนิดของ'เย่ว์หยาง'  ต่อให้ตาย มันก็ไม่ยอมจาก'เย่ว์หยาง'

"เด็กดี เจ้าหนูที่มีค่าของข้า มาเถิด"”

'เฉินถู่หาว'ยังคงบังคับ'ฮุยไท่หลาง'ต่อ สายตาของ'ฮุยไท่หลาง'ดูเหมือนจะกลายเป็นเบลอๆ เดินตัวสั่นเข้าไปหา'เฉินถู่หาว' เห็นภาพอย่างนี้ 'เย่คง'แทบจะเป็นลม กับการคาดหวังของทุกคน

'เย่ว์หยาง'ไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อแม้แต่นิด เมื่อทุกคนเอาแต่กังวลถึง'เย่ว์หยาง'  'ฮุยไท่หลาง'ก็ขยับทันที มันกระโจนเข้าใส่อ้อมอกของ'เฉินถุ่หาว'ราวพายุหมุน

จากนั้นใช้คมเขี้ยวที่แหลมคมกัดม้วนเวทพันธสัญญาของ'เฉินถู่หาว' ม้วนเวทปล่อยเสียง

"โฮ่ง"”

ออกมาแล้วก็ระเบิด การทำสัญญาของ'เฉินถู่หาว'ล้มเหลว และม้วนเวทพันธสัญญาถูกทำลาย

ในเวลาเดียวกันเขายังถูกดวงจิตของ'ฮุยไท่หลาง'โจมตีกลับ  เขาเริ่มกุมศีรษะอย่างเจ็บปวดและแหกปากร้องออกมา อัศวินดำที่ถูกสวมเป็นเกราะ

เนื่องจากดวงจิตของเจ้านายอ่อนแอลงและการเชื่อมโยงถูกตัดกระทันหัน มันจึงแยกออกไปเอง มันไม่สามารถรักษาสถานะเสริมพลังให้กับเจ้านายของมันได้

ก่อนที่อัศวินดำจะมีเวลาพอกลับเข้าไปในแก้วผลึก มีหอกเล่มหนึ่งพุ่งตรงมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้าและปักเข้าไปในช่องตรงเบ้าตาของอัศวินดำ เหมือนกับว่าแทงผ่านไม้ไผ่  อัศวินดำไม่มีร่างจริงๆ มีแต่วิญญาณล้วนๆที่สวมเกราะ

หลังจากทุกข์ทรมานจากพลังโจมตีที่ร้ายแรง ปราณสีดำไหลออกจากจมูกและปากของมันไม่รู้จบสิ้นราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม ในที่สุด มันก็ระเบิดกระจายหายไป อัศวินดำถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุทันที

เศษเกราะแตกตกลงบนพื้นเสียงดังแคล้ง สัตว์อสูรสายเสริมพลังมีจุดอ่อนที่สุดเพียงจุดเดียวคือเวลา  ช่วงเวลาที่มันแยกตัวออกจากเจ้านายของมัน

เมื่อได้รับบาดเจ็บหนักตรงจุดของเวลา  มันจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย  แม้ว่า'เย่ว์หยาง'ไม่คุ้นเคยความรู้พื้นฐานการต่อสู้สัตว์อสูร  แต่ในบันทึกของพ่อแม่เจ้าเด็กที่น่าสงสาร เขาได้อ่านมามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว

ในความเป็นจริงกลยุทธ์นี้เป็นวิธีทำลายศัตรูที่บิดาของเจ้าเด็กผู้สงสารชื่นชอบ อัศวินดำของ'เฉินถู่หาว'ระเบิดกระจายตกอยู่บนพื้น ทำให้เขาได้รับความกระทบเทือนจิตใจอย่างหนัก

เขาร้องโหยหวนอีกครั้งร่างเซไปมาจนแทบจะล้มลงกับพื้น ผลึกอัญเชิญทั้งสองลูกในมือของเขาแตกเป็นหลายเสี่ยง เมื่อเขามองเห็น'มันติคอร์'ของตนอย่างสิ้นหวัง

'ฮุยไท่หลาง'งับคอหอยของ'มันติคอร์'แน่น  และหอกที่พุ่งมาฆ่าอัศวินดำยังทะลุเข้าไปในท่อปัสสาวะของ'มันติคอร์จน'ทำให้พวงอัณฑะของมันบวมเป่ง...

“ท่านเฉินถู่! รู้สึกยังไงบ้างที่อัจฉริยะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ในทันที?  เจ้ารู้สึกดีบ้างไหม?  ข้ารู้จักคนที่มีนิสัยชอบเจ็บตัวมาตั้งแต่เกิดอย่างท่าน ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนแบบนี้จะไม่มีความสุข  ไม่ต้องห่วง ยังจะมีมากกว่านี้อีก  ท่านเฉินถู่!  ท่านมีสัตว์อสูรมากไม่ใช่หรือ?  ข้าขอบอกเรื่องนี้ให้นะ ถ้าท่านยังมีสัตว์อสูรในอนาคตอีก  ข้าจะฆ่ามันทันที  ข้าเชื่อว่าโลกที่งดงามปราศจากความเป็นธรรมคงจะสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเจ้าแน่นอน  เย่คง, หลี่เชีย, หลี่เกอ พวกท่านรออะไรกันอยู่?  รีบเข้าไปช่วยส่งเสริมท่านเฉินถู่สิ!”

'เย่ว์หยาง'ดึงหอกที่มีเลือดเนื้อและอวัยวะภายในของ'มันติคอร์'ติดมาด้วยออกมาทันที  แล้วหวดไปที่หน้าของ'เฉินถู่หาว'จนทำให้ฟังและเลือดของเขากระเซ็นไปทั่วบริเวณ

ไม่มีเวลาให้'เฉินถู่หาว'ได้แหกปากร้อง  'เย่คง', 'หลี่เชีย', 'หลี่เกอ'ที่เต็มไปด้วยบาดแผลกระโจนเข้าหาเขาเหมือนสุนัขบ้า  ทุบตี'เฉินถู่หาว'อย่างโกรธแค้น

ตอนที่กลุ่มคนได้สติจากความมึนงง  'เฉินถู่หาว'ก็โดนซ้อมจนเลือดโทรมกายแล้ว คนเก่งที่ดูเหมือนธรรมดาก็เคลื่อนไหวในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำไม่ใช่ช่วย'เฉินถู่หาว'  แต่เข้าไปจับ'เย่ว์ปิง' ราวกับว่าเขารอเหตุการณ์นี้มาเป็นพันปี

'เย่ว์หยาง'เริ่มก้าวยาวๆ หลังจากรอมานาน เขาเหินขึ้นบนท้องฟ้าแล้วซัดหอกที่ใช้ฆ่าอัศวินดำและมันติคอร์ลงมาราวกับสายฟ้าฟาดจากท้องฟ้า เขาเชื่อว่าหอกจะปักลงที่หว่างขาของเจ้าคนเก่งที่ดูธรรมดาซึ่งกำลังเตรียมจับ'เย่ว์ปิง'

“ข้ารอเจ้ามานานเลยนะ  เสนอหน้ามาซะดีๆ”

ทุกคนแทบล้ม เมื่อ'เย่ว์หยาง'พูดแบบนี้ 'มันติคอร์'

 

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=62

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด