ตอนที่แล้วตอนที่ 60 คนชั่วต้องถูกคนชั่วกำจัด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 62 รอพวกเจ้ามานานแล้ว

ตอนที่ 61 พ่อตัวตลก ค่อยๆ แสดงให้ข้าดูก็ได้


เหงื่อผุดออกจากหน้าผาก'เฉินถู่หาว'เป็นเม็ดพราว  เขากลืนน้ำลายอย่างกังวล   แต่พยายามทำเป็นใจเย็น

"เจ้าแข็งแกร่งจริงๆ แตกต่างจากคำร่ำลือมาก แต่ถ้าเจ้านึกว่าจะเอาชนะข้าได้ อย่างนั้นเจ้าก็ผิดเสียแล้ว  ข้าต่างจากพวกมัน ข้าคือระดับหัวกะทิของสถาบันตัวจริง"”

เขาปล่อยให้มันติคอร์ชั้นทองแดงระดับ 3 มายืนขวางหน้าคอยป้องกันเขา ไม่ให้'เย่ว์หยาง'โจมตีอย่างไม่คาดหมาย

จากนั้นจึงอัญเชิญอัศวินดำ แสงที่เป็นแฉกสีดำขนาดใหญ่ปล่อยออกมาจากเท้าของอัศวินดำ มันเปลี่ยนเป็นควันสีดำในที่สุด  ดูเหมือนว่ามันมีชีวิตของมันเองขณะที่มันลอยขึ้น

มันดูเบาดุจขนนก แล้วเข้าคลอบคลุมร่างของ'เฉินถู่หาว'ไว้    อัศวินดำโอบร่างเฉินถู่หาวไว้อย่างรวดเร็ว ภายใน 3 วินาที  อัศวินดำก็หายไป และไปปรากฏอยู่บนตัว'เฉินถู่หาว' กลายเป็นชั้นเกราะหนา

แม้แต่ใบหน้าและดวงตาของเขาก็ได้รับการปกป้องโดยเกราะที่แข็งและหนา  คนที่คุ้นเคยกับ'เฉินถู่หาว'รู้ว่านี่คือหนึ่งในอสูรที่มีชื่อเสียงของตระกูลเฉินถู่ซึ่งตกทอดกันมาหลายชั่วคน อัศวินดำ  มันคืออสูรสายเสริมพลัง

เมื่อเรียกออกมาแล้ว  มันสามารถเพิ่มพลังรุกให้เจ้านายของมันถึง 5 เท่า พลังป้องกันได้ถึง 10 เท่าอยู่ได้นาน 1 ชั่วโมง  ความสามารถป้องกันนี้เหนือกว่าสัตว์อสูรสายป้องกันชนิดอื่นอย่างเช่น เกราะศิลาและผิวเหล็ก

"เอ๋ นี่น่ะหรือ? อัศวินดำ"”

นักรบตาแหลมคมคนหนึ่งกล่าวยอมรับมันเป็นคนแรก

"สวรรค์ ศึกครั้งนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องน่ากลัวเสียแล้ว"”

นักรบที่ล้อมอยู่โดยรอบ รู้สึกว่าสถานการณ์ต่อสู้ในตอนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้เลย อสูรสายเสริมพลังอย่างอัศวินดำไม่ค่อยมีให้เห็นกัน และสามารถเปลี่ยนเป็นเกราะป้องกันเจ้านายของมันได้หลังจากที่ถูกเรียกออกมา เพราะมันมีระดับชั้นที่สูงกว่าระดับ 3

ตอนนี้ ในสายตาของทหารรับจ้าง  หัวหน้าทีมจอมยโสอย่าง'เฉินถู่หาว'ก็มีต้นทุนให้เย่อหยิ่งอย่างนี้  หัวหน้าทีม'เฉินถู่หาว'ผู้นี้ไม่เพียงแต่มีสัตว์อสูรชั้นทองแดงระดับ 3 ที่ทรงอานุภาพ มันติคอร์

เขายังมีสัตว์อสูรที่ไม่ด้อยกว่า'มันติคอร์'เลย อัศวินดำ  ด้วยวิธีรวมสัตว์อสูรทั้งสองด้วยกัน  ความแข็งแกร่งของเขาคงไม่ดูง่ายเหมือนบวกเลขหนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองอย่างแน่นอน หากพลังที่เกรี้ยวกราดนั้นน่าตื่นตาตื่นใจ เด็กหนุ่มผู้มีฝีมือต่อสู้ที่สูงเยี่ยมยังมีอสูรที่ทำสัญญาตัวหนึ่ง ก็แค่ปล่อยให้มันจัดการกับ'มันติคอร์'

ความตึงเครียดก็จะลดลงอย่างมาก ตอนนี้ แค่ใช้วิทยายุทธ์อย่างเดียวสู้กับสัตว์อสูรอัญเชิญที่ดุร้าย 2 ตัว เป็นการลำบากยากเย็นเสียจริง

"ระวังนะ!  อัศวินดำคืออสูรสายเสริมพลัง สามารถเปลี่ยนสภาพเป็นเกราะได้  มิใช่แค่เพิ่มพลังรบที่แข็งแกร่งให้ผู้ใช้เท่านั้น  มันสามารถพัฒนาตัวเองในช่วงระหว่างสู้ก็ได้"”

'เย่คง'กลัวว่า'เย่ว์หยาง'จะไม่รู้เรื่องสัตว์อสูร  และกลัวว่าเขาจะเสียเปรียบเมื่อสู้กับ'เฉินถู่หาว'จึงรีบเตือนเขาด้วยเสียงดัง

"ไม่มีสัตว์อสูร อาศัยแค่วิทยายุทธ์ เป็นเรื่องเปล่าประโยชน์  ไม่ว่าเจ้าจะมีวิทยายุทธ์แข็งแกร่งแค่ไหน  อย่างมากที่สุด เจ้าก็เป็นได้เพียงทหารรับจ้างที่ไร้ประโยชน์"”

'เฉินถู่หาว'กลัวที่สุดว่า'เย่ว์หยาง'จะลอบทำร้ายขณะที่เขาอัญเชิญยังไม่เสร็จ  ความเร็วของ'เย่ว์หยาง'ยามโจมตีในตอนนี้ทำให้เขาตกตะลึงมาก

อย่างไรก็ตาม  เขาเห็นว่า'เย่ว์หยาง'ไม่ได้จู่โจม  แต่รอให้เขาอัญเชิญจนเสร็จอย่างเงียบๆ และในชั่วพริบตา ก็เพิ่มความมั่นใจอย่างมหาศาล

พอเห็น'เย่ว์หยาง'ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบงัน แม้ว่าเขาจะคิดว่า'เย่ว์หยาง'รู้สึกกดดันเพราะเขา จนไม่สามารถทำอะไรได้จึงหัวเราะขึ้นอย่างลำพองใจ

"เจ้านึกหรือว่ามันจะจบเพียงแค่นี้? ไม่ ไม่เลย นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น"”

จากนั้น'เฉินถู่หาว'ดึงแก้วผลึกมีแสงดำออกมาจากอกของเขาด้วยความพึงพอใจ และเล็งมันไปทาง'เย่ว์หยาง'จนเขาตาพร่า เสียงของเขาเต็มไปด้วยความลำพองใจ

"เจ้า..รู้จักไหมว่าสิ่งนี้คืออะไร?  โกเล็มติดดาบ สินค้าแนะนำจากตระกูลเย่ว์เชียวนะ"”

หลังจาก'เฉินถู่หาว'อัญเชิญเสร็จ

แก้วผลึกของเขาเปล่งแสงวาบ ปรากฏโกเล็มเหล็กที่สูงมากกว่า 4 เมตรถูกเรียกออกมา โกเล็มเหล็กมีแขนกลที่หนาใหญ่และตั้งแต่ข้อมือของมันติดดาบคมกล้าไว้ข้างละ 3 เล่ม ส่วนล่างที่เป็นเท้าของมันประกอบด้วยลูกล้อทรงกระบอกมีขวากแหลมคมครอบไว้

เมื่อกลุ่มคนที่ชมดูเห็นหุ่นเหล็กถูกเรียกออกมา พวกเขาต่างสะท้านใจเป็นห่วง'เย่ว์หยาง'  ด้วยเหตุที่หุ่นติดดาบที่น่ากลัวคอยช่วยเหลือ'เฉินถู่หาว'นี้ ทำให้ยากที่จะเอาชนะคุณชาย'เฉินถู่'นี้ได้

ถ้าเขาต้องการจะสู้ต่อ.. หรือแม้จะไม่มีการสู้ก็ตาม  ทุกคนก็รู้ว่า'เฉินถู่หาว'จะใช้กลยุทธ์แบบไหน  หุ่นติดดาบใช้โจมตีเป็นหลัก  คอยใช้'มันติคอร์'ลอบกัดทำร้าย

และ'เฉินถู่หาว'  ใช้อัศวินดำเป็นเกราะป้องกันร่างตัวเอง ทำแค่เพียงป้องกันตัวเองอย่างเดียว  และเป็นไปได้ว่าหลอกล่อให้คู่ต่อสู้เหนื่อยและพิชิตชัยขั้นสุดท้ายในที่สุด

“เห็นหรือยัง?  นี่คือความแตกต่างระหว่างเจ้ากับข้า  แล้วยังเป็นความแตกต่างระหว่างสวรรค์กับสวะอีกด้วย”

'เฉินถู่หาว'โบกมืออย่างลำพองใจ  ส่วนล้อทรงกระบอกของหุ่นติดดาบเคลื่อนเข้าหา'เย่ว์หยาง'ทันที

ดาบทั้ง 6 เล่มบนข้อมือของมันหมุนด้วยความเร็วสูง กลายเป็นกงจักรที่น่ากลัว 2 วง ข้างซ้ายวงหนึ่ง ข้างขวาวงหนึ่ง เมื่อใดที่มันสัมผัสเขา ไม่ว่าจะเบาแค่ไหนก็ตาม  มันจะตัดแขนขาของเขา กระทั่งทำลายร่างกาย หัวใจ'เย่คง'ตกวูบ...

เขาเป็นกังวลอย่างมาก  'เย่คง'มีประสบการณ์ในการรบ แต่เพราะเขาสูญเสียสัตว์อสูรของเขาไป  จึงไม่อาจช่วยอะไรได้ในตอนนี้เมื่อสถานการณ์ต่อสู้มาถึงต่อหน้า เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับหุ่นติดดาบ วิธีที่ดีที่สุดคือทำลายข้อต่อตรงข้อมือของมัน

ตราบใดที่มีดทั้ง 6 เล่มไม่สามารถหมุนด้วยความเร็วสูงได้ หุ่นนี้จะกลายเป็นของไร้ประโยชน์  แต่'เย่คง'ไม่มีสัตว์อสูร  ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าวิ่งเข้าหามัน ก็เท่ากับพาตัวเองเข้าไปตาย

เขาได้แต่ดู'เย่ว์หยาง'สู้อย่างเป็นกังวล  เขาไม่รู้ว่า'เย่ว์หยาง'เรียนรู้หลักการของหุ่นเชิดมาแล้ว  ถ้าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์นี้ไม่ได้เรียนรู้เรื่องหุ่นเชิดมาเลย  เพียงแต่เน้นฝึกวิทยายุทธ์อย่างเดียว

อย่างนั้นมีหวังตกอยู่ในอันตรายแน่ ผู้เยาว์ของตระกูลเย่ว์จะพ่ายแพ้หุ่นติดดาบที่ตระกูลเย่ว์สร้างขึ้นมา นี่เป็นเรื่องขมขื่นจริงๆ 'เย่ว์หยาง'ไม่ได้หลบ มองดูหุ่นติดมีดแล่นตรงมาหาเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน

“โห...”

ทหารรับจ้างทุกคนกำมือตนเองแน่น  พวกเขาไม่อาจทนดูภาพการสังหารที่น่าอนาถซึ่งกำลังจะตามมา ทำไมเขาถึงไม่ยอมหลบ? ไม่มีใครเข้าใจ  เป็นไปได้ว่าเจ้าเด็กแสบนี่กลัวจนทำอะไรไม่ถูกหรือ?

เมื่อ'เฉินถู่หาว'แสยะยิ้มลำพองในชัยชนะของตน  ทันใดนั้น'เย่ว์หยาง'เหินขึ้นไปในอากาศอย่างแผ่วเบาแล้วร่อนลงที่บ่าของหุ่นติดดาบ  หุ่นติดดาบมีการตอบสนองค่อนข้างรวดเร็ว  มันบิดแขนทั้งสองมาในตำแหน่งที่เหลือเชื่อ หมายจะใช้วงจักรตัดขาซ้ายขวาของ'เย่ว์หยาง'

'เย่ว์หยาง'ไม่ได้หยุด เขาโดดตีลังการ่อนลงมาที่พื้นราวกับนกนางแอ่น ที่ด้านหลังของเขา เกิดประกายไฟจากการจากตัดโลหะอย่างรุนแรง

หลังจากมีการระเบิดอย่างรุนแรง  เสียงที่เสียดแก้วหูทำให้ทุกคนที่ได้ยินอึดอัด  มีใบมีดที่แตกหัก 2-3 ชิ้นกระเด็นขึ้นไปในอากาศ หุ่นติดดาบได้รับความเสียหายที่คอ มีรอยดาบลึก 2 สาย มันสั่นอยู่ 2- 3 ครั้้ง  ร่างของมันมีประกายไฟที่รอยแตก

จากนั้นมีเสียงดังกึกก้อง มันล้มลงต่อหน้า'เย่วหยาง'  สมองโลหะแตกจนหลุดออกมาจากคอและกลิ้งมาหยุดอยู่แทบเท้า'เย่ว์หยาง' เหมือนกับเล่นของเล่น 'เย่ว์หยาง'ย่ำสมองของหุ่นกลติดดาบอย่างแรงจนบิดเบี้ยวและมีประกายไฟแล่บออกมา  เขาแสดงสีหน้าผิดหวัง

“นี่น่ะหรืออัจฉริยะ?  ใช้หุ่นเชิดของตระกูลเย่ว์เอามาสู้กับผู้เยาว์ตระกูลเย่ว์หรือ?  อัจฉริยะคิดได้แค่นี้จริงๆ หรือ?  เจ้าเป็นระดับหัวกะทิของสถาบันจริงๆ หรือ? ก็ดี ขนาดคนอย่างเจ้ายังนับว่าเป็นอัจฉริยะ งั้นข้าก็เลยถูกคนอื่นๆ เรียกเป็นสวะสินะ”

'เย่คง'ตื่นเต้นจัดจนแทบเป็นลม  นักรบธรรมดาไม่มีทางเอาชนะโกเล็มติดดาบได้แน่นอน  พอมันอยู่ต่อหน้าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้นี้ที่ใครๆ เรียกกันว่าสวะ  มันแทบจะกลายเป็นตัวตลก

“เยี่ยม!”

พวกทหารรับจ้างตื่นเต้นเหลือจะกล่าว พากันชูกำปั้นสะใจแล้วปรบมือให้'เย่ว์หยาง'

แม้ทุกคนรู้ว่าการตัดหัวหุ่นให้แยกจากกัน การทำลายวงจรสั่งการของหุ่น เป็นวิธีการต่อสู้อสูรประเภทหุ่นที่ฉลาดที่สุด อย่างไรก็ตาม  แทบไม่มีใครสามารถทำได้

เมื่อใดก็ตามที่ต้องเผชิญหน้ากับหุ่นอสูร  พวกเขามักใช้วิธีที่โง่ที่สุด ก็คือหนีไปให้ไกล ไม่มีใครกล้าเสี่ยงชีวิตเข้าไปใกล้มัน  หุ่นอสูรมีพลังโจมตีรุนแรง  มีความทนทานกว่าที่ชีวิตของมันจะถูกทำลาย

ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกได้เห็นนักรบคนหนึ่งทำลายส่วนหัวของหุ่นอสูร  ตรงกันข้ามจากนั้น พวกเขาเห็นวิธีทำแบบนั้นมาหลายครั้ง  แต่พวกเขาไม่เคยเห็นวิธีที่ง่ายหรือมีประสิทธิภาพอย่างที่เห็นประจักษ์อยู่ในตอนนี้

เมื่อพวกเขาเห็นหน้า'เย่ว์หยาง'มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ถึงพวกเขาช่วยไม่ได้ก็จริง  แต่หัวใจที่ร้อนระอุไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้  พวกเขาพากันปรบมือให้เจ้าเด็กน้อยอย่างเต็มใจ นี่นับว่ามีประสิทธิภาพมาก สวยงามมาก ไม่สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงสักนิด

เขาก็สามารถเล่นงานศัตรูได้ เหมือนว่าศัตรูอยู่ในเงื้อมมือเขาแล้ว อะไรกันนี่?  เด็กน้อยนี่ไม่ได้ใช้วิทยายุทธ์สู้ แต่ใช้ชั้นเชิงล่อหลอกเล่นงานมันได้ สุดยอด ถ้าใช้คำๆ หนึ่งมาอธิบาย ก็ยากที่จะบังคับให้ทุกพูดถึงความรู้สึกที่ออกมาจากก้นบึ้งหัวใจได้

“สุดยอด”

ไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหนกันแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่สุดยอดอย่างนี้ 'เฉินถู่หาว'ยืนตะลึงหน้าซีดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็รีบระงับอาการตกใจทันที  เขาตะโกนอย่างมีอารมณ์บ้าง

“เจ้าคิดว่าทำแค่นั้นก็เอาชนะข้าได้แล้วหรือ?  ข้ายอมรับว่าการเรียกหุ่นติดดาบมาอยู่ต่อหน้าเจ้าเป็นเรื่องผิดพลาดเล็กน้อย  แต่ข้าขอบอก  พลังของข้าไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่นี้...”

'เย่ว์หยาง'พยักหน้า จากนั้นล้วงเหรียญทองแดงออกมาแล้วโยนไปข้างหน้า'เฉินถู่หาว'

“พ่อตัวตลก!  ค่อยๆ แสดงให้ข้าดูก็ได้  แค่นี้ข้าก็ขำพอแล้ว เอ้านี่! ข้าทิปให้เจ้า”

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=61

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด