ตอนที่แล้วตอนที่ 52 แผนที่สมบัติลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 54 คำจำกัดความ ความแข็งแกร่งสัตว์อสูร

ตอนที่ 53 ตัดสินใจแล้ว โกหกเถอะ


สำหรับ'เย่ว์หยาง'แล้ว แผนที่ขุมทรัพย์เก็บไว้ในกระเป๋าเขาปลอดภัยที่สุด เขาค่อนข้างพอใจกับรางวัลครั้งนี้  ไม่เพียงแต่ได้รับกระดิ่งทอง, อักขระบอดและแผนที่ขุมสมบัติลับเท่านั้น

แต่เขายังได้ยกระดับทักษะญาณทิพย์อีกด้วย นี่ความจริงเป็นเรื่องที่ทำให้เขาสุขใจที่สุด  ต้องทราบว่าเย่ว์หยางมีความทะเยอทะยานสูงจึงต้องการยกระดับทักษะญาณทิพย์  เพื่อเขาจะได้มองทะลุเสื้อผ้า ทำให้มันง่ายสำหรับเขาเวลาดูสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเสื้อผ้าสาวๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา

มีสิ่งเดียวที่ทำให้เขาปวดใจนิดหน่อยก็คือเขาใช้ทองไปถึง 15 เหรียญเพื่อรับเอาแผนที่สมบัติลับ มันเปลืองเงินในประเป๋ามากไปหน่อย  นี่จะเป็นสาเหตุให้คุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้ร่ำรวยก่อนหน้านี้ต้องยากจนลงเล็กน้อย

พอก้าวออกมาที่เวทีต่อสู้  'เย่ว์หยาง'เห็นว่า'ฮุยไท่หลาง'กำลังกลิ้งอยู่บนพื้น  ดูเหมือนมันจะเจ็บปวดมาก เป็นไปได้ว่าเจ้าหมาตัวนี้หาเรื่องกับซากงูจริงๆ มันพยายามระบายความโกรธจากการโดนงูกลืนลงไป

พอเขาสังเกตเพิ่มขึ้นหน่อยกลับกลายเป็นว่าไม่ใช่เรื่องนั้น  พลังงานปีศาจในตัวของฮุยไท่หลางเริ่มหลอมรวมดีขึ้นจากการได้ต่อสู้  บวกกับเนื้อหางของไคเมรา สัตว์อสูรทองระดับ 6 ได้ช่วยพัฒนาและยกระดับให้มัน

มันยกระดับขึ้นเป็นสัตว์อสูรชั้นทองแดงระดับ 4  จากเดิมที่เป็นหมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดง ระดับ 3 แน่นอน การเพิ่มระดับคราวนี้ไม่ใช่สาเหตุทำให้มันเจ็บปวด

'เย่ว์หยาง'เห็นว่า 'ฮุยไท่หลาง'ดูเหมือนมันจะสำลักอะไรบางอย่าง  เขาคิดว่ากระดูกงูที่มันกินลงไปคงจะติดคอ  พออ้าปาก'ฮุ่ยไทหลาง'ตรวจดู เขาเห็นแก้วผลึกสีเขียวขนาดใหญ่กว่ากำปั้นติดอยู่ที่คอของมัน

มันคือผลึกปีศาจหรือเปล่า? มันมาจากไหนกัน? เย่ว์หยางเห็นรูบนหน้าผากของงูที่เกิดจากฝีมือฮุยไท่หลาง แล้วเขาก็ตระหนักถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

เขาถีบเจ้าหมาโลภมากด้วยความโกรธ

"ฮุยไท่หลาง!  แกมันบ้าจริงๆ มันไม่ง่ายสำหรับข้านะกว่าจะเอาชนะเจ้างูร้ายนี้ได้ แล้วแกยังกล้าขโมยผลึกปีศาจของข้าหรือ? นี่มันเป็นครั้งแรกของข้านะที่ได้ผลึกปีศาจในฐานะของมีค่า   แกแทนที่จะเห็นมันแล้ว ดันไม่บอกอะไรเลย  มันน่าจะปล่อยให้ติดคอตายไปเลย"”

ด้วยพลังเตะของ'เย่ว์หยาง' มันปลิวไปมากกว่า 10 เมตรแล้วหล่นลงพื้นดังตุ้บ

อย่างไรก็ตาม แรงเตะช่วยมันไว้ ทำให้ผลึกเขียวกระเด็นออกมาจากคอของมัน  หลังจากเกือบตาย 'ฮุยไท่หลาง'ไม่กล้ามีความคิดใดๆ กับผลึกปีศาจงูต่อไปอีก

มันรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้น คาบผลึกปีศาจงูนำกลับมาให้เย่ว์หยางพลางกระดิกหางไปด้วย พอเห็นว่ามีน้ำลายติดอยู่บนผลึกนิดหน่อย มันรีบเช็ดทำความสะอาด จากนั้นก็จ้องดูเจ้านายอย่างจริงใจ  ท่าทางดูซื่อสัตย์เหมือนจะฟ้องว่า

"ข้าแค่ต้องการชิมดูว่ามันคืออะไรเท่านั้น"”

ขณะที่'ฮุยไท่หลาง'กังวลมาก 'เย่ว์หยาง'ทั้งขำทั้งขุ่นเคือง ถ้าเขาออกมาช้าสัก 10 นาที เขาคาดว่าเจ้าคู่หูตัวนี้จะเป็นสัตว์อสูรตัวแรกที่โชคร้ายโดนแก้วผลึกปีศาจติดคอตายเพราะความโล�

โดยที่ยังไม่ทันได้ฉลองที่มันได้ยกระดับก่อนที่จะตายอย่างอนาถ นับว่ายังโชคดีอยู่ ถ้าเขาพยายามตรวจสอบแผนที่สมบัติลับในห้องโถงก่อน

เจ้า'ฮุยไท่หลาง'คงตายไปแล้ว เอาชนะสัตว์ประหลาดได้แล้ว และสมบัติเขาก็ได้มาแล้ว  'เย่ว์หยาง'เตรียมจะออกไปอย่างสุขใจ

ทันใดนั้นเขาก็ตบหน้าผากตัวเอง อา..เราต้องการหลักฐานพิสูจน์ความสำเร็จก่อน 'เย่ว์หยาง'ข้ามไปที่มุมเวทีต่อสู้และเดินตรงไปที่ประตูลับที่เปิดออกหลังจากไคเมราจากไปแล้ว

เมื่อเขาเข้าไปในห้องก็พบว่าห้องสามารถเปิดได้ในเวลาที่จำกัด  'เย่ว์หยาง'ตระหนักว่าเขาใช้เวลาในห้องโถงขวานานเกินไปแล้ว และเวลาเหลือไม่มากก่อนประตูลับจะปิดลง

ดังนั้นเขาต้องรีบจัดการ ไฟที่ส่องอยู่ภายในห้องลับอุ่นและชัดเจนมาก  แต่ก็ไม่ทำแสบตา ข้างหน้า มีรูปปั้นเทพนารีที่ดูเหมือนมีชีวิต  หนึ่งในนั้นถือตะกร้าชุบทองสวยงามซึ่งมีลูกบอลสีขาวเปล่งแสงอบอุ่นอยู่ 2-3 ลูก  อีกรูปหนึ่งถูกปิดตาไว้ มือซ้ายของนางทาบอยู่ที่หัวใจ  มือขวาถือตาชั่งทอง

'เย่ว์หยาง'หยิบบัตรแก้วของเขาออกมาและวางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง  ไม่มีการสนองตอบใดๆ  ดังนั้นเขาจึงวางไว้อีกข้างหนึ่ง หลังจากวางบัตรแก้วไว้ด้านซ้ายของตาชั่งทองแล้ว มันก็เปล่งแสงสีรุ้งออกมาทันที ลูกบอลสีขาวในตะกร้าชุบทองสว่างขึ้นทันที

และส่องแสงตรงไปที่โคเงาและ'ฮุยไท่หลาง' แสงที่ฉายลงไปที่โคเงาจะใหญ่กว่าที่ฉายไปที่'ฮุยไท่หลาง' เมื่อโคเงาและ'ฮุยไท่หลาง'อาบแสงสีขาว  ลูกบอลสีขาวในตะกร้าชุบทองก็มืดลง

ในที่สุด ก็กลายเป็นแก้วผลึกกลมที่ใช้พลังงานไปทั้งหมดแล้ว  'เย่ว์หยาง'ยื่นมือออกไปด้วยความอยากได้แก้วผลึกเหล่านี้ทั้งหมด  แต่พลังของกฎคุ้มกันไม่ยอมให้เขาทำเช่นนั้น และเมื่อเขาใช้เรี่ยวแรงตนเองทั้งหมด

เขาก็ยังไม่สามารถขยับแก้วผลึกได้ มีเวลาอย่างจำกัด  ถ้าประตูลับปิด  ใครจะรู้ว่าผลอะไรจะตามมา ขณะที่'เย่ว์หยาง'ไม่ต้องการถูกขังอยู่ในห้องลับนี้ไปทั้งชีวิต เขายื่นมือไปหยิบบัตรแก้วและหันกลับออกมาทันที

เพียงเมื่อเขากลับไปที่ประตูเทเลพอร์ตที่ส่งเขามาที่นี่ ทำให้'เย่ว์หยาง'ถอนหายเฮือก เขารู้สึกว่าเมื่อเขามาท้าสู้ตอนนี้   การเตรียมพร้อมทางจิตใจของเขาไม่มากพอ  ในตอนเริ่มแรก   เขามาท้าทายด้วยอารมณ์ประมาณว่า

"ลองเล่นก่อน แล้วดูสิ่งที่เกิดขึ้น"”

ซึ่งจบลงด้วยอันตรายรอบด้าน อย่างไรก็ตาม  หลังจากผ่านท้าทายอย่างโง่ๆ และน่ากลัวครั้งนี้แล้ว เขายังคงได้รับประสบการณ์มากมาย

ถ้าเขาท้าแข่งอีก  เขาคาดว่าเขาจะผ่านมันได้ง่าย พอมองผลงานและคะแนนสะสมในบัตรแก้วแล้ว 'เย่ว์หยาง'ถึงกับยิ้มออก วิหาร 12 นักษัตรถือเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดและผิดปกติที่สุด  มันยากพอจะทำให้คนถึงกับคุมอารมณ์ไม่ได้

แต่หลังจากผ่านการแข่งขันได้สำเร็จ คะแนนที่ได้รับยังคงสูงมาก 'เย่ว์หยาง'เคยเห็นบัตรทองแดงของ'เย่คง' 'หลี่เชีย'และพี่น้องตระกูลหลี่ คะแนนทั้งหมดที่พวกเขาได้สะสมจนถึงตอนนี้ ยังน้อยกว่าที่เขาได้ในระหว่างท้าสู้เพียงครั้งเดียว

สำหรับรางวัลที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันล่ะ?  แสงสีขาวนั้นคืออะไร? 'เย่ว์หยาง'เรียกคัมภีร์ของเขาออกมา และดูทักษะอื่นๆ ของโคเงาทันที มันไม่เปลี่ยนไปเลย  มีคุณลักษณะเพิ่มขึ้นมาอย่างหนึ่ง ปัญญาต่ำ

ซึ่งมันทำให้เขาสุขใจมากที่คิดว่าเป็นความฝัน ในโลกของสัตว์อสูรจำนวนมากนี้  อะไรคือทักษะที่ยกระดับได้ยากที่สุด? ไม่ต้องสงสัยเลย มันคือปัญญา ทำไมทักษะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ของสัตว์อสูรจึงถูกประเมินไว้อย่างสูง?

เหตุผลก็คือทักษะแปลงเป็นรูปมนุษย์ได้ทำให้สัตว์อสูรได้รับปัญญาที่สามารถพัฒนาต่อได้  ทำไมสัตว์อสูรบางพวกไม่อ่อนแอ  พวกมันแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรอื่นๆ ในระดับเดียวกัน คนก็ยังประเมินพวกมันไว้ในระดับต่ำ  เรียกพวกมันว่าสัตว์อสูรทึ่ม?  เหตุผลก็คือพวกมันโง่

ขณะที่มันไม่มีปัญญา ปัญญายังคงเป็นเกณฑ์การประเมินความสามารถของสัตว์อสูรเพื่อวิวัฒนาการ เมื่อปัญญาของมันสูง  ศักยภาพในการวิวัฒนาการของมันก็สูงตามไปด้วย  มันจะพัฒนาได้เร็วกว่า ทักษะจากการพัฒนาของมันก็ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย

ความแตกต่างใหญ่ที่สุดระหว่างสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์กับอสูรธรรมดาก็คือระดับปัญญาของอสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีสูง  ขณะที่สัตว์อสูรธรรมดาไม่มีปัญญา อีกนัยหนึ่งก็เปรียบเหมือนความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับลิงนั่นเอง โคเงาเดิมทีนั้นไม่มีปัญญา

นางแค่รู้แต่วิธีขวิดศัตรูแบบโง่ๆ  พอแข่งขันชนะที่วิหารราศีเมษ ผู้คุมกฎให้รางวัลนางโดยยกระดับปัญญาให้  แน่นอน นี่ทำให้'เย่ว์หยาง'มีความสุขมาก  พอมีปัญญา ก็จะทำให้นางเข้าใจคำสั่งของเขาได้ง่ายขึ้น

ความสามารถในการทำความเข้าใจของนางทำได้ดีขึ้น  และง่ายที่จะทำให้ความคิดตรงกัน  ด้วยปัญญานี้ เขาจะสามารถสอนทักษะสู้อย่างง่ายๆ ให้นางได้

"เก็บสมบัติทั้งหมด ในที่สุด จะยอมให้คนอื่นเห็นไม่ได้"”

'เย่ว์หยาง'ไม่สนใจคนอื่น  แต่เขากลัวว่าสตรีงามชุดไหม เจ้าสำนักแห่งเมืองโล่วฮัวจะเห็นมัน ยอดฝีมือเมืองโล่วฮัวผู้นี้ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงอันตราย

แม้ว่านางจะไม่อันตรายขนาดหญิงงามอกโตที่เขาพบที่ค่ายฉางอู่ก็ตาม  แต่สตรีคนนี้ไม่ใช่คนที่ใครจะรับมือได้ง่าย นางก็ยังคือยอดฝีมือของเมือง คนระดับยอดฝีมือและเจ้าเมืองในแผ่นดินมังกรทะยานที่ซึ่งเหยื่อก็ยังแข็งแกร่ง

โลกที่นักสู้ได้รับการยอมรับนับถือ  ตำแหน่งเหล่านี้ถือครองโดยนักสู้ชั้นผู้แก่กล้าระดับ 6 กล่าวอีกนัยหนึ่ง  ยอดฝีมือแห่งโล่วฮัวผู้สวมชุดไหมนี้ อย่างน้อยเป็นนักสู้ชั้นผู้แก่กล้าระดับ 6  ในทั้งทวีปมังกรทะยาน นางเป็นบุคคลผู้โดดเด่น

เมื่อ'เย่ว์หยาง'ไม่มีสมบัติใดๆ อยู่กับตัว แน่นอนว่าไม่มีปัญหา  แต่ตอนนี้หลังจากเขาได้รับสมบัติแล้ว เขาต้องระวัง เขาไม่ต้องการให้นางเห็นพลังที่แท้จริงของเขาจากผลงานหาสมบัติหลังจากที่เขาก้าวออกมา

หลังจากเทเลพอร์ตออกมา เย่ว์หยางไม่เห็นสตรีชุดไหม จอมยุทธเมืองโล่วฮัว  แต่เขาเห็นเย่คงและคนอื่นๆ กำลังมองมาที่เขาเหมือนกับว่าพวกเขาเห็นปาฏิหาริย์แห่งสวรรค์

"ท่านยังไม่ตายหรือ?"”

'เย่คง'ถามอย่างโง่ๆ

"อย่าล้อเล่นน่า!"”

'เย่ว์หยาง'แค่นเสียง อย่างอารมณ์ไม่ดี

"ท่านไม่ตายจริงๆ หรือ? นี่เป็น เป็นไปได้อย่างไร?"”

หัวหน้าผู้คุ้มกันเกราะทองอ้าปากค้างที่ไคเมรา 3 หัวอยู่ข้างใน

“…”

'เย่ว์หยาง'พูดไม่ออก และเขารู้สึกว่าปฏิกิริยาของคนพวกนี้ไร้สาระ ด้วยความอยากรู้ เขาจึงย้อนถามพวกเขา

"ทำไมกันล่ะ คนตั้งมากมายก็เข้าไปท้าประลองนี่  แต่พอข้าเข้าไป ข้าจะต้องตายงั้นหรือ? เป็นเพราะเมื่อผู้ท้าประลองที่เป็นนักสู้ระดับ 5 ยังไม่มีแม้แต่คนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาหลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง ท่านเป็นคนแรก ไม่ใช่สิ ผิดแล้ว ท่านยังแค่ระดับ 1 ชั้นเริ่มต้นฝึก ไม่ใช่ชั้นยอดฝีมือ ระดับ 5  บอกเราหน่อยได้ไหม ท่านอยู่ในนั้นนานถึง 3 ชั่วโมง ท่านทำอะไรอยู่? หรือว่าคุยกับไคเมรา 3 หัวจนเพลิน?"”

หัวหน้าผู้คุ้มกันเกราะทองกระตุ้นเขาจนอยากจะเอาหัวโขกกำแพง  เพราะเมื่อเขาท้าประลอง  บันทึกของเขาเมื่อชั่วโมงครึ่งก่อนนั้น เขาถอนออกไปแล้ว

ตามปกติมันก็เหมือนกับว่าเขาถูกล็อตเตอรีแล้วเอาไปอวดคนอื่นๆ บ่อยๆ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าสถิติของเขาจะถูกทำลายได้ง่ายๆ โดยนักสู้ระดับเริ่มต้น

"ก็ได้ ท่านทำอะไรอยู่ข้างใน?"”

ทุกคนอยากรู้เต็มที่ และมุงอยู่รอบ'เย่ว์หยาง'

"อ่า...."”

พอเห็นสีหน้าของคนที่รุมล้อมเขา  'เย่ว์หยาง'ตัดสินใจโกหกคำโตพวกเขาทันที

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=53

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด