ตอนที่แล้วตอนที่ 48 ไคเมรา 3 หัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 50 คทาแห่งความเงียบ

ตอนที่ 49 ทายปริศนา


พอเห็นร่างดุจเนินเขาของมัน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความสามารถคายพิษและพ่นไฟของมัน  แรงกดดันที่มันแผ่ออกมาก็เหลือเชื่อแล้ว ตามที่จอมยุทธแห่งเมืองโล่วฮัว สตรีชุดไหมบอก

"เขาควรไปเอาคทาแห่งความเงียบจากห้องโถงซ้ายมือก่อน  จากนั้นไปที่ห้องโถงด้านขวาเพื่อเอาอักขระบอด อย่างนี้ถึงจะยับยั้งหัวมังกรทางซ้ายและหัวแพะด้านขวา จากนั้นค่อยสู้กับหัวไคเมราหัวกลาง คือหัวสิงห์เพลิง  แม้ว่าหัวกลางจะใหญ่ที่สุด ดูเหมือนคุกคามที่สุดและอาจเจอไฟที่ผิวของมัน แต่ในความเป็นจริงมันเป็นหัวที่อ่อนแอที่สุด  ควรเรียกว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของไคเมรา 3 หัว โคเงา"”

ภายใต้คำแนะนำของ'เย่ว์หยาง' ได้กำจัดปีศาจหัวแกะได้อย่างรวดเร็วทำให้คุกคามพวกมันได้ เป็นไปตามคาด เมื่อโคเงาตรงเข้ามาที่ทางเข้า ปีศาจหัวแกะก็หยุด

พวกมันคำรามเสียงต่ำและแออัดอยู่ในทางเดิน แต่ไม่กล้าบุกเข้ามาข้างใน  เห็นได้ชัดเจนว่าพวกมันกลัวไคเมรา 3 หัว 'เย่ว์หยาง'รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็ว

เขารีบวิ่งไปตามด้านข้างของห้องโถงใหญ่ และวิ่งราวกับลมพัดตรงไปที่ห้องด้านซ้าย เขาเตรียมตัวหาทางเข้าห้องด้านข้าง  แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเขาขยับ  ไคเมรา 3 หัวก็ตื่นขึ้นทันที มันลืมตาทั้ง 6 ขึ้นและเมื่อเห็นเย่ว์หยางผู้บุกรุก

มันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เสียงของมันทำให้แผ่นดินสะเทือนแทบระเบิด  ปีศาจหัวแกะที่ทางเดิน ต่างหนีหายด้วยความกลัวทันที ร่างขนาดยักษ์ของไคเมรา 3 หัวลุกขึ้นยืนและดูเหมือนภูเขาย่อมๆ ที่มีเลือดเนื้อเคลื่อนไหวได้ หัวมังกรพิษอ้าปากของมัน

หลังจากคำรามอย่างน่าสยดสยอง มันก็พ่นพิษเหลวออกมาจากปากใหญ่ และมันพ่นไปทั่วพื้นทั้งหมด 'เย่ว์หยาง'เตะ'ฮุยไท่หลาง'กระเด็นไป 10 เมตร และสั่งให้โคเงารีบถอยออกมา

เขารู้สึกว่าท้องฟ้ามืดคลึ้มทันที  จากนั้นของเหลวสีเขียวจำนวนมากถูกพ่นมาที่เขา  โชคดี เขามีโล่ห์ที่ป้องกันได้สมบูรณ์ ถ้าไม่ใช่เพราะมัน เขาคงเปียกโชกไปด้วยพิษแล้ว เมื่อของเหลวสีเขียวถูกพื้นศิลา  คลื่นควันสีเขียวก็พวยพุ่งออกมา ภายใต้ควันเขียว ศิลาดำที่สมบูรณ์ถูกควันเขียวกัดกร่อนจนเกิดเสียงฉ่า เหมือนน้ำตาลถูกละลายด้วยน้ำร้อน

"โอว..ตายแล้ว!"”

'เย่ว์หยาง'ตกใจ ไม่แปลกใจที่สัตว์อสูรธรรมดาจะถูกฆ่าภายในชั่ววินาที เมื่อพวกมันพบกับจ้าวสัตว์อสูรทอง  นี่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินจริง  พิษของไคเมรา 3 หัวรุนแรงกว่าพิษของดอกหนามถึงร้อยเท่า  เป็นไปได้ว่าเจ้าไคเมรา 3 หัวนี้คงมีความสัมพันธ์กับเอเลียนมั้ง?

แต่เฉพาะเลือดของเอเลียนเท่านั้นที่กัดกร่อนนี่นา น้ำลายของมันไม่รุนแรงอะไร ตามคาด นี่สมกับที่ถูกเรียกว่า จ้าวสัตว์อสูรทองระดับ 6  มันน่าหวาดหวั่นจริงๆ  ถ้าสัตว์อสูรธรรมดาอย่างโคเงาชั้นทองแดงโดนปากที่เต็มไปด้วยพิษกัดแล้ว

แม้มันจะไม่ตาย  แต่ก็อาจพิการก็ได้ ขณะที่สำหรับฝีมืออย่าง'ฮุยไท่หลาง'  ถ้ามันบุ่มบ่ามเข้าไปสู้กับไคเมรา 3 หัวตามลำพังก็เหมือนบริการเสริฟอาหารให้มันถึงที่

ถ้าไม่ได้ฟังข้อมูลจากสตรีชุดไหมเมื่อเขาเข้าไปเอาคทาแห่งความเงียบมาก่อนที่จะไปเผชิญหน้ากับกรดชนิดนี้ การสู้กับไคเมรา 3 หัวอาจเป็นการฆ่าตัวตายก็ได้ บุรุษผอมที่ชื่อเย่คง อาจโดนน้ำลายของไคเมรา 3 หัวนี้เล่นงานเมื่อคราวเขาท้าประลองที่วิหารราศีเมษ

"โฮ่ง!"”

หัวสิงห์ที่มีเปลวไฟตรงกลางพ่นลูกไฟที่ระเบิดได้มาตรงเท้าของ'เย่ว์หยาง'  ถ้าไม่ใช่เพราะมีโล่ห์ป้องกันไว้ ร่างน้อยๆ ของ'เย่ว์หยาง'คงโดนเป่ากระเด็นไปแล้ว  'เย่ว์หยาง'เหงื่อตกทันที  ไม่ใช่แค่พ่นพิษเท่านั้น แต่มันพ่นลูกไฟได้ด้วย เขาคงไม่สามารถรับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ โชคดี ที่หัวแกะด้านขวามันเงียบมากและไม่มีการตอบสนอง

ขณะที่เย่ว์'หยางวิ่ง'  เขาคิดอย่างชั่วร้ายว่า ถ้าเขาสามารถจับไคเมรา 3 หัวได้จะไปดำเนินกิจการละครสัตว์คงเก็บค่าเข้าชมได้มาก ในความเป็นจริง ไคเมรา 3 หัว ไม่สนคนขี้ขลาดไร้ยางอายชื่อ'เย่ว์หยาง'เลย

ในฐานะจ้าวสัตว์อสูร ตราบเท่าที่ดินแดนมันไม่ถูกบุกรุก ก็ยังนับว่าดี  ขณะที่แมลงตัวจ้อยที่คอยมาไต่ตอม  มันไม่ได้สนใจจริงๆ  ในสายตาของมัน ผู้ท้าประลองก็คือแมลงตัวน้อยที่ชอบเคลื่อนไหวอย่างโง่ๆ  ถือดาบเท่าไม้จิ้มฟันเรียกสัตว์อสูรตัวเท่าหนู   ประเมินความสามารถตัวเองสูงเกินไปแล้วเข้ามาโจมตีไคเมรา

เมื่อมันเห็น'เย่ว์หยาง'หายไป  มันอ้าปากหาวแล้วนอนลงอย่างสบายอีกครั้งจากนั้นจึงฝันหวานต่อไป ทางเดินด้านซ้ายยาวประมาณ 100 เมตรและเป็นสีดำสนิท

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเย่ว์หยางเคยเข้าไปอยู่ในพื้นที่มืดมิดกับนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'ทำสัญญาวิญญาณโลหิต จนได้ทักษะมองเห็นในความมืดของนางพญา'เฟ่ยเหวินหลี'มาด้วย

เขาจึงเดินในที่มืดมิดได้ในตอนนี้ ด้านข้างห้องโถงใหญ่ ใหญ่มากพอๆ กับสนามบาสเก็ตบอล มีมนุษย์หัวแกะอยู่ข้างในไม่กี่สิบคน มนุษย์หัวแกะเหล่านี้แตกต่างจากพวกข้างนอก

ขณะที่พวกเขาเห็น'เย่ว์หยาง'พรวดพราดเข้ามา  พวกมันแปลงร่างทันที ใช้เวทแปลกๆ  จากมนุษย์หัวแกะเปลี่ยนเป็นทาคิน (สัตว์ประจำชาติภูฏาน คล้ายแพะไม่มีเครา) เขาของมันคม โค้งงอน่ากลัวกว่าหอกที่ทหารม้าใช้  เมื่อพวกมันลดหัวลง พวกมันจะวิ่งเข้าใส่ผู้บุกรุก

"ฮุยไท่หลาง หันก้นพอแกไปล่อพวกมัน  ปล่อยให้พวกมันวิ่งชนซะ.."”

'เย่ว์หยาง'ไม่ใส่ใจว่า'ฮุยไท่หลาง'หลังจากได้ยินเขาพูดคำนี้ มันจะรู้สึกอย่างไร  เขาไม่มีเวลาไปยุ่งกับมัน พอเห็นทาคินวิ่งเข้ามาใกล้  เขาสั่งให้โคเงาโดดให้สูงเท่าที่จะทำได้

จากนั้นพอนางย่ำลงพื้นแล้วก็เข้าโจมตีพวกมันทั้งหมดด้านหลัง'ฮุยไท่หลาง'  เกือบทันทีทันใด'เย่ว์หยาง' 'เย่ว์หยาง'ตัดสินใจเคลื่อนไหวอย่างดีที่สุด

เพียงแต่ตอนนี้'เย่ว์หยาง'สังเกตว่า เขามีพรสวรรค์ในการต่อสู้ แต่น่าเสียดายที่ว่าเขาไม่สามารถเข้าต่อสู้ได้โดยตรง  มิฉะนั้นเขาคงใช้กลยุทธ์ได้ดีกว่านี้ พวกทาคินทุกตัวยกเขาโค้งเกลียวของมันเล็งมาที่'ฮุยไท่หลาง'แล้ววิ่งใส่มันอย่างกะพายุ

มันน่ากลัวมากจนแทบทำจะทำให้'ฮุยไท่หลาง'หัวใจวาย มันไม่กล้าหันก้นให้ทาคินพวกนี้  นั่นมันเหมือนหาที่ตายชัดๆ มันหันก้นหนี พลางภาวนาว่าน่าจะมีขามากกว่า 4 ข้าง โคเงากระโดดสูงขึ้นไปกลางอากาศ ร่างยักษ์ของนางตกลงมาทับพวกมันขณะที่นางดูเหมือนภูเขาลูกหนึ่ง

พลังเตะของโคยักษ์กับแรงกระแทกพื้นดุจอัสนีบาตรตอนที่ลงมาที่พื้นอย่างเต็มกำลัง บวกกับแรงเสริมของเงายักษ์ นางใช้วิชาเฉพาะตัว พลังกระทืบ ด้วยพลัง 100 เท่า

“โฮ่ง!”

พื้นศิลาดำที่ถูกกระทืบถูกทุบ เกิดรอยแยกร้าวเป็นรูปใยแมงมุมไปทั่ว  พื้นสะเทือนจนทำให้ห้องโถงสั่นไปทั้งห้อง ขณะที่คลื่นกระแทกกระจายไป

พลังนั้นทำให้'เย่ว์หยาง'ผู้กำลังชมดูอยู่ด้านข้างถึงกับปากอ้าตาค้าง ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวจริงๆ พวกทาคินที่อยู่ใต้เท้าโคเงาบี้แบนกับพื้นทันที ซากศพของทาคินที่ถูกย่ำอยู่ใต้เท้าไม่อาจจะจำแนกได้ บางตัวกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนทันที

ขณะที่ทาคินที่อยู่ห่างออกไปจากศูนย์กลางแรงกระแทกออกไป ก็ถูกคลื่นกระแทกจนกระเด็นออกไปหลายเมตรและยังไม่สามารถลุกขึ้นมาได้  ทาคินอื่นๆ แม้จะอยู่ห่างออกไปถูกคลื่นกระแทกสะกดจนหยุดนิ่งเกิดอาการมึงงงเคลื่อนไหวไม่ได้

โคเงาทำตามคำแนะนำของ'เย่ว์หยาง'อย่างเคร่งครัด ไม่ได้ดำเนินการฆ่าต่อ แต่วิ่งก้าวยาวๆ ไปช่วยฮุยไท่หลางที่กำลังหนีเอาชีวิตรอด  แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ชั้นทองแดง

แต่ความแข็งแกร่งของโคเงากับ'ฮุยไท่หลาง'ต่างกันคนละระดับ  ไม่ใช่เพียงแค่นั้น  'ฮุยไท่หลาง'ยังถูกตัดสินว่าเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรคุณภาพสูงระดับ 6 ดาว

ถ้ามันถูกแปลงเป็นอสูรระดับ 3 ชั้นทองแดงทั่วๆ ไป  มันอาจจะไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าต่อหน้าโคเงาด้วยซ้ำ ทาคินไม่กี่ตัวยังคงไล่กวดฮุยไท่หลางใกล้เข้าไปจนเกือบจะขวิดก้นของ'ฮุยไท่หลาง'ได้แล้ว

แต่ก็ถูกโคเงาที่ไล่ตามมาทันย่ำจนบี้แบน เมื่อภัยคุกคามก้นมันคลี่คลายไป  'ฮุยไท่หลาง'กระโจนใส่ทาคินอีกครั้ง มันกระโจนเข้าหาทาคินตัวที่ใกล้ที่สุดและกัดคอของมัน  แววตากระหายเลือดของมัน เหมือนกับจะฟ้องว่า

“ที่ข้ากัด ไม่ใช่ลำคอ แต่เป็นความเดียวดาย”

ทาคินตัวอื่นวิ่งเข้ามาและลดหัวลงวิ่งเข้าหามัน 'ฮุยไท่หลาง'โดดอย่างแคล่วคล่องและใช้กรงเล็บของมันเฉือนทาคิน ก่อนอื่น มันทำลายตาของศัตรูก่อน

จากนั้นใช้วิธียืมแรงโน้มถ่วงกระโจนเข้าหาทาคินตัวที่ใหญ่กว่า  หมาป่าอ้าปากอวดเขี้ยวที่แหลมคมของมันแล้วกัดศัตรูของมันจนปางตาย  'ฮุยไท่หลาง'ต่อสู้กับหมอผีหัวแกะที่แปลงกายเป็นทาคินด้วยตัวมันเอง

เป็นไปไม่ได้ที่มันจะทำได้สำเร็จเองได้ทั้งหมด  แต่ก็เกินพอที่จะจัดการพวกทาคินได้ครั้งละ 3 ตัว ที่สำคัญที่สุดมันเป็นหมาป่าปีศาจหลังเหล็กแปรสภาพ ที่ดูดซึมไอปีศาจของจ้าวปีศาจฮาซินและยังเต่างจากสัตว์อสูรระดับ 3 ชั้นทองแดงทั่วไปอีกด้วย

'เย่ว์หยาง'ไม่มีเวลาจะไปวุ่นวายกับวิธีการต่อสู้ และในใจเขาแค่ต้องการหาคทาแห่งความเงียบให้พบ เดิมทีเขาคิดว่าคทาแห่งความเงียบน่าจะอยู่ในกลางห้องโถง หรือในหีบสมบัติ

แต่เมื่อเขาเปิดมัน.. ไม่ว่ากรณีไหน ก็ไม่มีเลย คทาแห่งความเงียบถูกแขวนไว้บนผนังสูง  ไม่แต่เพียงแค่นั้น คทาไม่ได้มีแค่ด้ามเดียว แต่มีถึง 3  ถ้ามีคนหยิบมันผิด

อาจจะไปกระตุ้นให้กับดักทำงานและชีวิตคนผู้อาจจบลงแค่นั้น จะหาของจริงได้อย่างไร? บนผนังที่แขวนคทาแห่งความเงียบแต่ละด้ามไว้  จะทิ้งตัวอักษรบอกใบ้ไว้ชุดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นคำแนะนำให้ผู้ท้าประลอง

เมื่อ'เย่ว์หยาง'มองที่มัน เขาแทบอยากเอาศีรษะโขกพื้นนัก  ไอ้ของพรรค์นี้ก็เลียนแบบคนอื่นมาไม่ใช่หรือ? เล่นทายเกมปริศนาด้วยชีวิต  เขาประท้วงต่อต้านเทพเจ้าที่ไม่ซื่อ ซึ่งร่วมกันสร้างหอทงเทียนขึ้นมา โอวสวรรค์.

 

ที่มา:https://writer.dek-d.com/tanay2507/story/viewlongc.php?id=1429532&chapter=49

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด