ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 ของขวัญอำลาคือความลับ

ตอนที่ 1 นี่คือจุดเริ่มต้นของท้องฟ้าในฤดูใบไม้ร่วง


ตื่นขึ้นมาแล้วก็ทำอาหารเช้า ขณะเดียวกันก็เตรียมข้าวกล่องเสร็จสิ้นการฝึกที่ชมรมในตอนเช้า เรียนต่อให้เสร็จในตอนกลางวัน แล้วก็กลับมาฝึกที่ชมรมอีกครั้งหนึ่งหลังจากพบปะพูดคุยกับเพื่อนที่ชมรมเสร็จ ผมก็กลับบ้าน จากนั้นก็อาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้านั่งพูดคุยกับครอบครัวแล้วก็พักผ่อนในช่วงดึกของฤดูใบไม้ร่วง

ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม เล่นเกมส์หลายเกมส์ แล้วก็ท่องโลกอินเทอร์เน็ตหลับนั้นคือทุกสิ่งที่ผมทำ ในแต่ละวันมันอาจจะมีสิ่งอื่นอีกที่ขั้นกลางตารางเวลาเหล่านี้ แต่มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากมาย ซึ่งนั้นก็เป็นเหตุผลที่ว่า...

" มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ ที่ผมไม่ได้กำลังหลับอยู่ในบ้าน! "

นั้นน่ะสิ ไม่ต้องสงสัยเลยอย่างไรก็ตาม ผมก็ได้มาอยู่

"ที่นี่"

แล้วในห้องสี่เหลี่ยมที่ดูเหมือนจะมีดวงดาวหลายดวงถูกทำให้ติดกับผนังอยู่ ผมได้เดินไปรอบๆห้อง สำรวจทุกซอกทุกมุมทั้งพื้นและกำแพงของห้องนี้หลังจากสำรวจสักพักผมก็ประหลาดใจ ที่ว่าในห้องนี้ไม่มีแม้กระทั่งประตูหรือทางออกใดๆเลยและตั้งแต่ที่ผมมาโผล่ที่นี้ ผมไม่รู้สึกถึงตัวตนอื่นๆนอกจากตัวผมเองเลยในห้องนี้ตอนนี้ผมได้แต่ยืนเอาหลังแนบติดกับมุมห้องและพึมพำไปมา

" เจ้าดูใจเย็นจังเลยนะ หือ? "

" ?! "”

เสียง? มันเป็นเสียงที่ดังมาก แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นกับห้องอันว่างเปล่านี้อยู่ดี ผมมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยจริงๆ

" ข้าใช้เสียงพูดในระดับดังแค่ครั้งเดียว จากนั้นเจ้ากลับเดินไปสำรวจรอบๆห้อง แล้วพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็จัดระเบียบความคิดของตัวเองด้วยงั้นสินะ หือ "

" คุณคือใครกัน? "”

เสียงนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ผมเข้าใจเพียงว่ามันเป็นเสียงพูดเท่านั้น ดูเหมือนว่าถ้าอยากเข้าใจสถานการณ์ ผมคงต้องถามไปตรงๆด้วยตัวเอง

" พระเจ้า ถ้าข้าพูดออกไปแบบนั้นแล้ว เจ้าจะเชื่อหรือเปล่าหล่ะ? "

" ไม่มีทาง "”

เจ้าของเสียงนี่ สติดีอยู่หรือเปล่า?

" นั้นมันก็ช่วยไม่ได้หล่ะนะ.. เอาหล่ะ จากนี้ข้าจะส่งเจ้าไปยังโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกที่ดีมากๆเลยหล่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะว่า มันเป็นตั๋วเที่ยวเดียวไม่มีเที่ยวกลับ ฉะนั้นเจ้าจะไม่มีวันได้กลับมายังโลกเดิมของเจ้าอีกต่อไป "

" ฮะ..ฮะ.เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ยยยยยยยยยยยย!!! "”

นั้นมันเรื่องงี่เง่าอะไรกันถึงพูดได้หน้าตาเฉยแบบนั้น?

" เรื่องที่เจ้าควรจะทำ ไว้ค่อยเข้าไปถามผู้ดูแลของโลกใบนั้นเมื่อไปถึงแล้วก็แล้วกัน แต่ก่อนอื่น.. ข้าขอโทษด้วย แต่ข้าต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าในการส่งเธอไปยังโลกใบนั้น "

" ให้ตายก็ไม่ไป! "”

ตามที่คิดเลย น้ำเสียงผมดุดันขึ้น แต่มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ใครจะอยากยอมรับข้อตกลงหลังจากได้ยินเรื่องพรรค์นั้นกัน?

" หืม.. เจ้าไม่อยากจะไปอย่างงั้นรึ? มันเป็นการสนทนาที่แปลกอยู่หรอก แต่ข้าได้ยินมาว่าคนที่จะไปก็คือเจ้านะ "”

ตอนนี้เสียงนั้น เริ่มจะมีน้ำเสียงลำบากใจปนมาด้วย แต่อย่างไรก็ตามเรื่องตลกหน่ะมันควรมีขีดจำกัดกันบ้าง เพราะผมไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องอะไรพวกนี้มาก่อนเลย!!!

" ผมไม่ได้โกหก ผมไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย! โอเคไหม? ยิ่งไปกว่านั้น จะมีคนงี่เง่าที่ไหนตอบรับข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องการย้ายข้ามโลกแบบนี้?! และการที่พวกเรากำลังคุยถึงเรื่องนี้กันอยู่ ก็แปลกพอๆกันนั้นแหละ! "”

ผมพยายามอธิบาย ด้วยความสามารถทั้งหมดที่ผมมี

" หืม ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เจ้าจริงๆด้วยสินะ ข้าทำเรื่องไม่ดีเข้าซะแล้ว ข้าต้องขอโทษด้วย "

" คือ... ผมก็รู้สึกดีใจนะที่คุณขอโทษผม แต่ว่าจะช่วยส่งผมกลับได้หรือยัง?! "”

น้ำเสียงแบบปกติของผมยังคงไม่กลับมา มันอาจจะไม่เหมือนน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะเข่นฆ่ากัน แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่น้ำเสียงที่สุภาพแน่นอน ยังไงมันก็เป็นความผิดของเขาไม่ใช่ของผม ที่ทำให้ผมมาอยู่ในสถานการณ์ที่แย่แบบนี้

" แน่นอนอยู่แล้ว "”

เสียงนั้นพูดว่าแบบนั้นผมดีใจมาก มันเป็น 'เสียง' ที่ผมสามารถเข้าใจได้  ซึ่งในสถานการณ์ทั่วไป

ประโยคนี้จะต้องเป็นส่วนที่ผู้พูดจะต้องพูดว่า 'ขอโทษด้วย'

'เป็นไปไม่ได้หรอก' หรือไม่ก็ 'เอ่อ..ก็ พยายามเข้าละกัน'

หลังจากนั้นก็ส่งผมไปยังโลกใบใหม่หรือไม่ก็พูดว่า

'เธอน่ะตายไปแล้ว~'

แล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ส่งตัวผู้เคราะห์ร้ายไปยังอีกโลกหนึ่ง นั้นเป็นสิ่งที่ผมคิดในตอนแรกว่าจะเกิดขึ้น แต่ว่า...ผมรอดแล้ว~

" ยังไงก็ต้องขอโทษเธอด้วย... แต่ถ้าอย่างนั้น คนที่จะไปก็ต้องเป็นน้องสาวคนโตหรือน้องสาวคนเล็กของเจ้าอย่างนั้นสินะ "”

ผมถอนคำพูดเดิมแถบจะไม่ทัน ผู้ชายคนนี้พูดในสิ่งที่ตอนนี้เรียกว่าเรื่องตลกไม่ได้แล้ว เขาพูดในน้ำเสียงไม่ใยดี แต่คำพูดเหล่านั้นจะปล่อยให้ผมหูทวนลมไปเฉยๆก็ไม่ได้ซะด้วย

" คุณพูดว่าอะไรนะ? "

" หือ? ก็ถ้าหากเจ้าไม่ได้เป็นคนที่ถูกเลือกละก็ นั้นหมายความว่าคนที่ถูกเลือกก็คือน้องสาวคนโตหรือน้องสาวคนเล็กของเจ้านั้นแหละนะ "

" อย่าพูดว่า 'หือ?' กับผมเลย! เพราะถ้าหากคุณทำอะไรพวกน้องสาวของผมละก็ ผมจะไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่ "”

พวกน้องสาวของผมทั้งสองคน ไม่มีทีท่าว่ามีอะไรแปลกไปจากเดิมเลย สำหรับพวกเขาที่ยอมรับข้อเสนอพวกนี้ล่วงหน้ามันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน และผู้ชายคนนี้กลับพูดว่าจะพาตัวคนใดคนหนึ่งไปโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย อย่าเล่นตลกกับผมเกินไปหน่อยเลย

" เจ้ารู้สินะ ว่าตัวเจ้าคือลูกชายคนโตของตระกูล มิซุมิ  ฉะนั้นเธอก็คือ มิซุมิ มาโกโตะ ใช่ไหม? "”

ทำไมเขาถึงรู้จักชื่อของผมหล่ะ?

" รุ่นลูกๆของตระกูล มิซุมิ ได้ยินและทราบเรื่องราวพวกนี้แล้ว นั้นคือสิ่งที่ฉันได้ยินมาหน่ะนะ "”

เจ้าของเสียงนี้ ดูเหมือนน้ำเสียงจะปนความรู้สึกกังวลมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีกระดับหนึ่ง ผมรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับเสียงเสียงนี้ ตั้งแต่ตอนที่เจ้าของเสียงนี้ลักพาตัวผมมา แต่ก็ยังพยายามที่จะเคารพในความตั้งใจของผมถ้าอย่างนั้น...

" คือว่า ยังไงตอนนี้ก็แนะนำตัวให้ผมรู้จักหน่อยได้ไหม? "”

(มาโกโตะ)นั้นสินะ ผมไม่รู้ว่าผมทำได้อย่างไรที่ทำให้ตัวผมเองไม่ตกอยู่ในสภาวะตื่นตกใจ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมยังคงใจเย็นอยู่ ณ ตอนนี้ผมรู้สึกใจเย็นอย่างบอกไม่ถูก พูดแบบนี้น่าจะถูกต้องมากกว่า ผมจำเป็นต้องตั้งตัวต่อสถานการณ์ให้ได้เพราะผมยังไม่รู้แม่กระทั่งชื่อของเจ้าของเสียงนี่เลย

" ??. หืม นั้นสินะ ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้แนะนำตัวก่อน ข้ามีนามว่า สึคุโยมิ "”

(สึคุโยมิ)

" งั้นเหรอ สึคุโยมิ สึคุโยมิ.... เดี๋ยวก่อนนะ สึคุโยมิ อย่างงั้นเหรอ?!"”

(มาโกโตะ)

" โอ้โห รู้จักข้าด้วยงั้นรึ? เจ้าค่อนข้างรอบรู้หมือนกันนะ "”

(สึคุโยมิ)

" หนึ่งในสามเทพเจ้าแห่งชินโต สึคุโยมิ โนะ มิโคโตะ คนนั้นน่ะเหรอ?! "”

(มาโกโตะ)

" โอ้ ถูกต้องแล้ว แต่ว่าเมื่อเทียบกับเทพอีกสองตนแล้ว ข้ามีบทบาทน้อยกว่ากันเยอะเลย "”

(สึคุโยมิ)

นั้นก็ถูกอีกหล่ะนะ แต่ว่ายังไงชื่อ 'สึคุโยมิ' มันก็ยังยิ่งใหญ่อยู่ดี

" สำหรับท่านสึคุโยมิผู้นั้น กลับมารู้จักตัวตนของผม มันเป็นไปได้อย่างไรกันครับ?"

(มาโกโตะ)

เรื่องแรกสุดเลยที่ผมพยายามจะเข้าใจ แต่กลับเข้าใจน้อยที่สุด คือ ทำไมผมถึงถูกเลือกให้เดินทางไปยังอีกโลกหนึ่ง ผมต้องพยายามทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้ได้

" ข้าเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆสินะ เอาหล่ะก็ได้ ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง "”

(สึคุโยมิ)

หลังจากนั้น เนื้อหาที่ถูกเล่ามา พูดตามตรงเลยว่า ผมแถบจะจับประเด็นไม่ได้เลยผมอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างจะเรียกได้ว่าโชคดี

เมื่อเทียบกับบุคคลอื่นที่ถูกเรียกตัวไปยังอีกโลกหนึ่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่ หลงทาง หรือไม่ก็ กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่ นั้นคือสิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น

ที่มา:https://my.dek-d.com/hitomi-yuriko/writer/viewlongc.php?id=1474392&chapter=1

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด