ตอนที่แล้วตอนที่ 32 สมคบคิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 34 ฉันรู้จักมหาเศรษฐีหมื่นล้านในเมืองเจียงโจวนี้อยู่ไม่น้อย

ตอนที่ 33 เข้าใจผิด


เมื่อ เหยียน ไป๋เหมย ตัดสินใจแล้ว เธอก็ส่งเลขาไปติดต่อ หลิง ซีเอ๋อร์ และผู้อำนวยการหลิว ทันที เพื่อแสดงความต้องการที่จะร่วมมือ

“เลขาหลี่ ได้บอกความตั้งใจของ ประธานเหยียน กับเราทุกอย่างแล้วครับ”

“เลขาหลี่ อธิบายทุกอย่างชัดเจนแล้วคะ”

เหยียน ไป๋เหมย พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วกล่าวเสริมว่า :

“ตราบใดที่พวกคุณยินดีมาร่วมงานกับเหยี่ยนเหยียน ของฉัน ฉันยินดีจ่ายให้พวกคุณในราคาที่สูงกว่า 1.3 เท่า”

หลิง ซีเอ๋อร์ เคยเป็นอินฟลูเอนเซอร์ใหญ่ใน Douyin มีผู้ติดตามหลายล้านคน สัญญาที่เซ็นกับบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ มีมูลค่า 10 ล้านหยวน

ตอนนี้ เหยียน ไป๋เหมย เสนอสัญญาเพิ่มอีก 1.3 เท่าให้กับ หลิง ซีเอ๋อร์

ส่วนทาง ผู้อำนวยการหลิว ก็เช่นกัน เขาได้รับสัญญาในราคาที่สูงขึ้น 1.3 เท่า

“คุณคิดว่าอย่างไร?”

เหยียน ไป๋เหมย ลงทุนมากเพื่อทำลายบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่

“ได้..ได้เลย ผมตกลงๆ”

ผู้อำนวยการหลิว พยักหน้าซ้ำๆ

“ฉันก็ยินดีค่ะ ขอบคุณ ประธานเหยียน”

หลิง ซีเอ๋อร์ ดีใจมาก และตกลงทันทีโดยไม่ลังเล

เดิมทีเธอคิดว่า เหยียน ไป๋เหมย จะเสนอราคาใกล้เคียงกับที่เซ็นกับบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เหยียน ไป๋เหมย จะจ่ายเพิ่มอีก 1.3 เท่าจากเดิมโดยตรง

เงินมากขึ้น ใครจะไม่ตกลงล่ะ?

“ประธานเหยียน แล้ว..พวกเราจะเซ็นสัญญากันเมื่อไหร่คะ?”

หลิง ซีเอ๋อร์ ถามอย่างกระตือรือร้น

“ไม่ต้องรีบร้อนในการเซ็นสัญญา ก่อนอื่นคุณต้องตอบรับเงื่อนไขของฉันก่อน”

เหยียน ไป๋เหมย กล่าวอย่างมีเลศนัย

“ข้อแรกเลย หลิง ซีเอ๋อร์ คุณต้องช่วยเราถ่ายวิดีโอหลายๆ คลิปหน่อย ในฐานะอดีตพนักงานของบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ คุณจะต้องเปิดโปงความชั่วร้ายต่างๆ ของประธานคนใหม่ของบริษัท อี้หลิน เช่น การให้คุณไปดื่มกับเขา หรือการที่เขาบังคับให้คุณไปรับแขก ..เป็นต้น”

“คุณคงเข้าใจได้ ..ใช่มั้ย?”

หืม?

เมื่อได้ยินดังนี้ หลิง ซีเอ๋อร์ และผู้อำนวยการหลิว ต่างตกตะลึง

บังคับ หลิง ซีเอ๋อร์ ดื่มกับคุณ ..รับแขก?

ทำไม.. พวกเขาถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน?

“ประธานเหยียน ฉันไม่รู้ว่า.......”

หลิง ซีเอ๋อร์ ถามกลับด้วยความสับสน

“คุณไม่เห็นจำเป็นต้องรู้เลย เราขอแค่คุณแสดงตัวก็พอ ส่วนที่เหลือไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรา”

เหยียน ไป๋เหมย กล่าวอย่างมีความหมายอันลึกซึ้ง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิง ซีเอ๋อร์ และผู้อำนวยการหลิว ก็พลันเข้าใจความหมายที่แท้จริงของ เหยียน ไป๋เหมย ..ได้ในทันที

ไม่ใช่อะไรนอกจากการใส่ร้ายบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ และเย่เฉิน ประธานคนใหม่ ด้วยเรื่องโกหกที่ไม่มีมูลความจริงใดๆ เลย ไม่ใช่หรือ?

ด้วยฐานแฟนคลับที่ หลิง ซีเอ๋อร์ เคยมี.. ถ้าเธอออกมาพูดเรื่องนี้ ก็คงจะมีผลกระทบไม่น้อยแน่นอน

“ประธานเหยียนค่ะ แต่ว่าทำแบบนี้จะไม่เกิดปัญหาอะไรแน่หรือคะ?”

หลิง ซีเอ๋อร์ ยังคงกังวลอยู่

ในที่สุดมันก็คือการสร้างข่าวลือ เผื่อ..หากเกิดอะไรขึ้นตามมาล่ะ?

“แต่แล้ว.. ผลลัพธ์นี้ก็อาจจะไม่ดีเท่าที่คิด”

“ไม่เป็นไร..”

เหยียน ไป๋เหมย ตอบอย่างไม่แยแส

“ฉันเพิ่งรู้จักผู้มีอิทธิพลในเจียงโจวคนหนึ่ง มูลค่าทรัพย์สินของเขามีหลายพันล้าน”

“เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะขอให้เขาช่วย ขยายอิทธิพลของเรื่องนี้ในเจียงโจว”

เหยียน ไป๋เหมย อธิบาย

“ตราบใดที่ไม่มีอะไรผิดพลาด การขับไล่บริษัท อี้หลิน ออกจาก เจียงโจวก็จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด”

แม้ว่า เหยียน ไป๋เหมย หวังว่าจะสามารถทำลายบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ไปได้ในคราวเดียว แต่นั่นไม่สมเหตุสมผล

ท้ายที่สุดตอนนี้บริษัท อี้หลิน มีสินทรัพย์รวมหนึ่งพันล้านหยวนแล้ว

หากถ้าจะทำลายบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ในคราวเดียว บริษัท เหยี่ยนเหยียน เอเจนซี่ เองก็จำต้องเสียสละจ่ายราคาอันหนักหน่วงอย่างมากเช่นกัน

ไม่เพียงแค่นั้น เรายังจำเป็นต้องมีสายสัมพันธ์กับผู้คนที่อำนาจอย่างแน่นแฟ้นด้วย

ด้วยสถานะของ เหยียน ไป๋เหมย แน่นอนไม่สามารถทำได้ แม้ว่าเธอจะรู้จักมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินหลายสิบพันล้านหยวน ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้สำเร็จ..

เว้นแต่จะเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินหลายหมื่นล้านหยวน หรือมากกว่านั้นถึงจะสามารถโค่นล้มบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ลงได้โดยสิ้นเชิง

น่าเสียดายที่เธอไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้จักมหาเศรษฐีระดับนั้น

แม้ว่าเป้าหมายของการดำเนินการครั้งนี้คือการโค่นล้มบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ แต่หากถ้าเพียงสามารถขับไล่บริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ออกจาก เจียงโจว ได้ ..ก็นับว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่แล้ว

“ข้อที่สอง...”

เหยียน ไป๋เหมย กล่าวอีกสองสามเงื่อนไข ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ และประธานคนใหม่ เย่เฉิน

หลิง ซีเอ๋อร์ และผู้อำนวยการหลิว ตอบตกลง

ในที่สุดทั้งสามคนก็ตกลงที่จะร่วมมือกัน

“จริงสิ.. หลิง ซีเอ๋อร์ ตอนนี้เธอใช้บัญชี Douyin ไม่ได้แล้ว งั้นไปลองใช้ Shark Live ก่อนละกันนะ”

เหยียน ไป๋เหมย สั่งงานทันที

ก่อนหน้านี้บัญชี Douyin ของ หลิง ซีเอ๋อร์ เป็นของบริษัท อี้หลิน เอเจนซี่ ตอนนี้เธอถูกไล่ออกแล้ว แน่นอนไม่สามารถใช้งานต่อได้

“พรุ่งนี้ เธอก็เริ่มไลฟ์(Live)ได้เลย”

“ตอนนี้ Douyin มีการแข่งขันสูง การสร้างบัญชีใหม่ค่อนข้างยาก ไปลองที่ Shark Live ก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยกลับไปที่ Douyin”

เหยียน ไป๋เหม่ย อธิบาย

“ได้ค่ะ ประธานเหยียน”

หลิง ซีเอ๋อร์ ย่อมไม่กล้าขัดคำสั่งของ เหยียน ไป๋เหม่ย เจ้านายคนใหม่ของเธอ

……..

อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่ หลิง ซีเอ๋อร์ และเหยียน ไป๋เหมย กำลังวางแผนต่อต้าน เย่เฉิน

เย่เฉิน ที่อยู่ในคฤหาสน์ของเขาเวลานี้ กลับคิดไม่ตกว่าคืนนี้จะกินอะไรดี

การเลือกกินอะไร เป็นคำถามที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ปิ๊งป่อง..

จู่ๆ เสียงกริ่งหน้าประตูคฤหาสน์ของ เย่เฉิน ก็ดังขึ้น มีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน

ด้วยความอยากรู้ เย่เฉิน จึงเดินไปเปิดประตูคฤหาสน์

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า เย่เฉิน คือเพื่อนบ้านสาวสวยสุดเพอร์เฟคของเขา โม่ เมิ่งเฟย

โม่ เมิ่งเฟย ได้มาเชิญ เย่เฉิน ไปทานข้าวเย็นที่บ้านของเธอ

เนื่องจากเหตุการณ์ลูกแมวตัวน้อยในครั้งที่แล้ว โม่ เมิ่งเฟย จึงอยากจะขอบคุณ เย่เฉิน มาโดยตลอด

แต่ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งมากจนเธอไม่ค่อยมีเวลา

จนกระทั่งบ่ายวันนี้ โม่ เมิ่งเฟย ได้เคลียร์งานส่วนใหญ่เสร็จแล้วจึงพอมีเวลาว่าง

โม่ เมิ่งเฟย ที่ยังจำได้ว่าอยากจะขอบคุณ เย่เฉิน หลังจากคิดทบทวน เธอตัดสินใจไปเชิญ เย่เฉิน มาทานข้าวเย็นที่บ้านของเธอ

แบบนี้มันออกจะดูจริงใจมากกว่าการเชิญเขาไปทานที่ร้านอาหาร

“ได้ครับ”

เย่เฉิน พยักหน้า

พอดีเขากำลังคิดไม่ตกว่าจะกินอะไรดี ตอนนี้มีคนเชิญไปกินข้าว แถมเป็นเพื่อนบ้านอีก ดังนั้น เย่เฉิน จึงไม่กล้าปฏิเสธ

เย่เฉิน กลับเข้าไปในคฤหาสน์ หยิบโทรศัพท์มือถือ แล้วไปที่บ้านของ โม่ เมิ่งเฟย

ก่อนจะมาเชิญ เย่เฉิน โม่ เมิ่งเฟย ได้จัดเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

เหลือเพียงแค่ทำอาหาร

โม่ เมิ่งเฟย จึงขอให้ เย่เฉิน พักผ่อนที่ห้องนั่งเล่นก่อน ส่วนเธอก็เดินไปที่ห้องครัว

เย่เฉิน ไม่มีอะไรทำ เลยเล่นกับลูกแมวตัวน้อยของ โม่ เมิ่งเฟย

เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งก่อน ลูกแมวตัวน้อยของ โม่ เมิ่งเฟย จึงรู้จัก เย่เฉิน และไม่รังเกียจที่ เย่เฉิน จะเล่นด้วย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา โม่ เมิ่งเฟย ที่รวบผม สวมผ้ากันเปื้อน แล้วถือจานอาหารในมือเดินออกมา

ท้ายที่สุดแล้ว..มีแค่ เย่เฉิน กับโม่ เมิ่งเฟย แค่สองคน โม่ เมิ่งเฟย จึงไม่ได้ทำอาหารมากมาย

แค่อาหารสี่จานบวกกับซุปธรรมดาอีกหนึ่งอย่าง

เย่เฉิน ยังได้ไปช่วยถือจานอาหารออกมา

โม่ เมิ่งเฟย เปิดไวน์แดงหนึ่งขวด เพื่อต้อนรับแขกอย่าง เย่เฉิน

ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน กับโม่ เมิ่งเฟย เคยวิ่งจ๊อกกิ้งรอบทะเลสาบหลิงหยุนด้วยกันมาหลายครั้ง ทั้งสองจึงค่อนข้างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว

ทั้งสองคนทานข้าวไปคุยกันไป

โม่ เมิ่งเฟย ที่กำลังตักซุปให้ เย่เฉิน เย่เฉิน เองจึงลุกขึ้นมารับซุป แต่ โม่ เมิ่งเฟย กลับพลาดทำซุปหกใส่ตัว เย่เฉิน โดยไม่ได้ตั้งใจ

โชคดีที่ซุปไม่ร้อนแล้ว เย่เฉิน เพียงแค่เสื้อผ้าเปียกเท่านั้น

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ”

โม่ เมิ่งเฟย รีบกล่าวขอโทษ แล้วหยิบกระดาษเช็ดปากขึ้นมาช่วยเช็ดเสื้อผ้าให้ เย่เฉิน

คลิก..

ในขณะนั้น จู่ๆ ประตูบ้านของ โม่ เมิ่งเฟย ก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก

ต่อจากนั้น พ่อแม่ของ โม่ เมิ่งเฟย ก็เดินเข้ามา

เมื่อเข้ามา พ่อแม่ของ โม่ เมิ่งเฟย ที่เห็นพอดีว่า โม่ เมิ่งเฟย กำลังเช็ดเสื้อผ้าให้.. เย่เฉิน

ทันใดนั้นบรรยากาศจึงดูแปลกๆ ไปในทันที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด