หุบปากของแกเสียบ้าง! (อ่านฟรี 05/08/2567)
“ใช่แล้ว ฉันจะคืนเงินเปาหยุนเย็นนี้น่ะ บังเอิญได้เงินมาก้อนนึง” เย่เซวียนไม่ได้แสดงอาการหัวเสียหรืออะไรออกมา มันเป็นเรื่องปกติที่คนในที่ทำงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรนัก
รวมถึงชายตรงหน้าคนนี้เช่นกัน แต่ถ้าจำไม่ผิดเขาไม่เคยยืมเงินจากชายตรงหน้าเลยนะ ไม่ใช่เพราะไม่กล้าขอหรืออะไร แต่เป็นเพราะชายตรงหน้าไม่เคยให้ยืมเลยสักครั้งต่างหาก แถมยังชอบใช้กำลังข่มขู่เอาเงินจากเขาอีกด้วย
ที่ผ่านมาก็มีให้อีกฝ่ายไปบ้างเพื่อให้จบเรื่อง แต่ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งหนักข้อขึ้น จากข่มขู่เอาเงินก็เริ่มมีการทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของ กุเรื่องใส่ร้ายให้เสียชื่อเสียง ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดแต่เขาก็มั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของชายตรงหน้าอย่างแน่นอน
“ไปขโมยเงินใครมารึไง ? มีปัญญาไปตัดผมเสริมสวยอีก ช่วยคืนเงินคนอื่นให้หมดก่อนจะไม่ดีกว่าเหรอ ?” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อยผ่านเขาไปง่าย ๆ เพราะมันพยายามจะส่งเสียงให้ดังขึ้นเพื่อเรียกความสนใจจากผู้คนโดยรอบนั่นเอง
“ฉันไม่ได้ไปขโมยเงินใครมา อีกอย่างวันนี้ก็ตั้งใจว่าจะคืนเงินให้ทุกคนอยู่แล้วด้วย” เย่เซวียนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ เขาพยายามที่จะไม่โกรธอีกฝ่าย
ถึงยังไงคนผิดก็เป็นเขาที่ไปยืมเงินของคนอื่นมาเองแล้วไม่ยอมใช้คืนให้ตรงเวลา
“เล่อปู๋ ถ้าฉันจำไม่ผิด... ฉันไม่เคยยืมเงินนายมาสักหยวนเลยนะ ทำไมนายถึงเสนอหน้ามาสั่งสอนฉันได้ล่ะ ?” ชายหนุ่มมองหน้าของอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวประโยคนี้ออกมา
เขายอมอดทนมามากเกินพอแล้ว ยิ่งกับคนที่คอยไถเงินและทำร้ายร่างกายของเขาเหมือนชายตรงหน้า นับว่าเขาให้เกียรติอีกฝ่ายมากแล้วที่ไม่ซัดหน้าอีกฝ่ายเข้าให้
ด้วยกายาหยินหยางบริสุทธิ์การจะต่อสู้กับคนธรรมดาแบบชายตรงหน้านับว่าง่ายดายสำหรับเย่เซวียนเป็นอย่างมาก ต่อให้เขาจะไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้อะไรมาก่อนก็ตาม แต่ก็สามารถใช้ความแข็งแรงจากกายา และความเร็วจากขาที่ได้รับคุณสมบัติมาใหม่ในการทดแทนความห่างชั้นของการต่อสู้ได้ไม่ยาก
“กะ.. ก็ฉันเป็นตัวแทนของคนในที่ทำงานไงล่ะ! ไม่งั้นแกก็คงไม่คืนเงินคนอื่นอยู่ดี” เล่อปู๋ที่ถูกชายยาจกและมืดมนในสายตาของเขาดูถูกต่อหน้าคนมากมาย ก็ตวาดออกมาด้วยความโกรธ
“ใช่แล้ว! เงินฉันล่ะเย่เซวียน คืนมาได้แล้ว” มีพนักงานชายคนหนึ่งเดินมาสมทบก่อนจะตะโกนขึ้นมา แม้อีกฝ่ายจะยืมเงินเขาแค่ห้าร้อยหยวนแต่เขาก็อยากร่วมผสมโรงด้วยอยู่ดี
“ของฉันด้วย นายยืมไปหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ ไม่คืนสักทีที่สัญญาว่าจะให้ดอกเบี้ย 50% ก็ตามนั้นด้วยล่ะ” มีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเดินมาโวยวายด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นพนักงานประมาณยี่สิบคนก็เดินมารุมล้อมจนเกินเป็นกลุ่มคนขนาดย่อม ทุกคนต่างพากันด่าว่าเย่เซวียนโดยไม่เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้กล่าวอะไรแม้แต่น้อย
“ฉันก็บอกอยู่นี่ไง ว่าวันนี้ฉันจะคืนให้ครบทุกคนเลย! ช่วยหุบปากสักทีได้ไหม!” เย่เซวียนตะโกนออกมาเสียงดังลั่น เหมือนมีมนต์สะกดอยู่ในน้ำเสียงนี้ ผู้คนโดยรอบที่พากันโวยวายต่างปิดปากกันเงียบในทันที
“ละ..แล้วถ้าแกไม่คืนล่ะ! แกจะไปมีปัญญาเอาเงินจากไหนมาคืนเยอะแยะขนาดนั้นกัน” เล่อปู๋ที่ได้สติเป็นคนแรกกล่าวออกมาด้วยความไม่ชอบใจ
เขากลัว ? เมื่อสักครู่ที่ไอ้เย่เซวียนมันตะโกนออกมาถึงกับทำให้เขารู้สึกกลัวไปชั่วขณะเลยทีเดียว เขาไม่ยอมรับเด็ดขาด!
“ใช่แล้ว เงินรวม ๆ กันทั้งหมดก็หลายหมื่นหยวนเลยนะ! นายจะมีปัญญาเอาเงินจากไหนมาใช้นักหนา เป็นพนักงานส่งของก็ได้แค่เดือนละสามพันหยวนเอง” พนักงานที่อยู่ฝ่ายเล่อปู๋กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อใจเช่นกัน
“อ๋อ! แต่ถ้านายขายไอ้ร้านเก่า ๆ ของไอ้ปู่เฮงซวยของนายไป มันก็พอใช้หนี้ของพวกเราทุกคนแล้วนะ” พนักงานคนเดิมกล่าวเน้นเสียงและเยาะเย้ยชายหนุ่มออกมาด้วยใบหน้ายียวน
ฟึ่บ! คร่อก! คร่อก!
ไม่มีใครมองทันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ตัวอีกทีพนักงานที่เยาะเย้ยเสียดสีเย่เซวียนเมื่อสักครู่ก็ถูกคนที่เขาเยาะเย้ยใส่ยกคอเสื้อจนลอยเหนือพื้นเสียแล้ว พนักงานคนนั้นไอออกมาด้วยความอึดอัด ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะหนกที่ปิดไม่มิด
ครึ่งหลัง
“บางที... แกก็ควรจะหุบปากของแกเสียบ้าง!” เย่เซวียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา มันผิดไปจากการกระทำตามปกติของตัวเขาเอามาก ๆ
“เฮ้ย! ปล่อยไอ้ฉีเป้ยเดี๋ยวนี้นะ” เล่อปู๋ที่ได้สติก็พุ่งเข้าไปหาเย่เซวียนหมายจะชกอีกฝ่ายเพื่อให้ปล่อยฉีเป้ย ถ้ามีปัญหาอะไรเขาก็จะบอกว่าเย่เซวียนเป็นคนหาเรื่องก่อน ซึ่งทุกคนที่นี่ก็คงจะเป็นพยานให้เขาทั้งนั้น
แถมในห้องพนักงานนี้ถึงมันจะมีกล้องวงจรปิดแต่ก็ไม่มีการอัดเสียงเอาไว้ พวกเขาจะโกหกยังไงก็ได้แค่มันเข้ากับวิดีโอก็พอ แต่ก็คงจะเห็น ๆ อยู่ว่าเป็นฝ่ายเย่เซวียนที่พุ่งเข้ามาคว้าคอเสื้อของฉีเป้ยก่อน
วืดด โครม!
“ใจเย็น ๆ ฉันไม่ได้คิดจะใช้ความรุนแรงอะไรหรอก... อย่างน้อยก็ตอนนี้ล่ะนะ” เย่เซวียนปล่อยมือออกทำให้ร่างของฉีเป้ยหล่นลงพื้นเสียงดังก่อนเขาจะโยกตัวหลบหมัดของเล่อปู๋จนทำให้อีกฝ่ายจั่วลมจนเซไปหลายก้าว
“เอาอย่างนี้ เรามาพนันกันไหมว่าฉันจ่ายเงินทุกคนในร้านที่ฉันติดหนี้ภายในเย็นนี้สำเร็จหรือเปล่า พวกนายสนใจไหม ?” ไม่รอให้มีใครพูดอะไรเย่เซวียนก็กล่าวออกมาทันที
“เอาสิ! นายจะเดินพันด้วยอะไรล่ะ ? อย่าบอกนะว่าจะเป็นเงิน ? เฮอะ!” เล่อปู๋กล่าวตอบรับทันที ถึงยังไงเขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายจะมีปัญญาหาเงินมาจ่ายไหว
ถ้ามีเงินจริง ๆ จะปั่นจักรยานมาทำงานทำไมกัน ? ถึงจะเป็นจักรยานเสือภูเขาก็เถอะ แต่ไปทำสีทองปลอม ๆ แบบนั้นมาก็คงจะคันกี่ร้อยหยวนนั่นแหละ
“ถ้าฉันทำได้ พวกนายทุกคนที่เคยทำตัวแย่ ๆ กับฉันเอาไว้ต้องคุกเข่าขอโทษฉัน แค่นั้นก็พอแล้ว” เย่เซวียนกล่าวออกมา
“แล้วถ้านายทำไม่ได้ล่ะ ?” เล่อปู๋กล่าวออกมาทันที ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่เขาก็ไม่ชอบหน้าอีกฝ่าย ดังนั้นจึงพยายามทำตัวเป็นแกนนำให้ถึงที่สุด
“พวกนายต้องการอะไรล่ะ ?” เย่เซวียนถามกลับไป ถึงยังไงเขาก็ชนะอยู่แล้วในการเดินพันครั้งนี้
“ถ้านายทำไม่ได้ ก็ไปขายไอ้ร้านขายของเก่านั่นมาใช้หนี้พวกฉันซะ! แล้วก็ต้องคืนดอกเป็นสองเท่าของที่ตกลงด้วย!” เป็นฉีเป้ยที่ถูกเย่เซวียนคว้าคอเอาไว้กล่าวออกมาด้วยความโกรธแค้น
ไอ้เวรนั่นมันยกเขาซะสูงเลย! ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกอึดอัดไม่หาย
“ตกลง! ฉันรับคำท้า” เย่เซวียนยิ้มออกมาพลางตอบกลับไป
เมื่อได้ยินคำตอบของเย่เซวียนทุกคนที่มุงดูอยู่ก็พากันตกตะลึงไม่น้อย ในตอนแรกพวกเขาเพียงรู้สึกว่าคำขอของฉีเป้ยมันมากเกินไป! แต่แล้วพวกเขาก็อึ้งยิ่งกว่าเดิมเมื่อเย่เซวียนตอบรับเสียอย่างนั้น
นี่เขาไม่เสียดายสมบัติตกทอดของปู่ตัวเองเลยรึไงกัน?!
“แกพูดเองนะ!” ฉีเป้ยที่อึ้งไปเหมือนกันกล่าวออกมาเสียงดัง ตอนแรกเขากะว่าแค่จะพูดไปงั้นเพื่อให้อีกฝ่ายตอบปฏิเสธจะได้ใช้เหตุผลนี้มาเยาะเย้ยอีกฝ่ายแทน
เขาไม่คาดคิดเลยว่าไอ้เย่เซวียนมันจะตอบรับซะอย่างนั้น
“ทำไมคนพวกนี้ถึงนิสัยเสียจังเลยครับพี่ชาย ?” วิญญาณของเด็กชายที่ตามติดเขามาด้วยตั้งแต่ห้างซานหมิงกล่าวถามขึ้นมา ความจริงเขาก็ถามนั่นนี่ตลอดเวลาเพียงแต่เย่เซวียนจะตอบเป็นบางครั้งเท่านั้น
ในครั้งนี้เย่เซวียนก็ทำเพียงหันไปยิ้มให้เด็กน้อยเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นเรามาทำสัญญากันเถอะ! อัดคลิปไว้ด้วยนะเป็นหลักฐานสำรอง” เย่เซวียนยิ้มก่อนจะกล่าวออกมา
“ฮ่าฮ่า ไม่คิดว่าแกจะกล้าขนาดนี้ งั้นก็มาทำสัญญากัน!” เล่อปู๋หัวเราออกมาดังลั่นก่อนจะไปหยิบกระดาษออกมาร่างสัญญาแบบคร่าว ๆ พร้อมกับอัดคลิปวิดีโอไปด้วย
พวกเล่อปู๋ ฉีเป้ย พนักงานคนอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าหนี้และต้องการไล่บี้เย่เซวียนต่างพากันยิ้มออกมาทันที พวกเขาฝันถึงเงินก้อนที่จะได้คืนพร้อมดอกเบี้ยถึงสองเท่า
ไม่มีใครสักคนที่คิดถึงภาพของตัวเองยามตั้งลงไปคุกเข่าให้เย่เซวียนแม้แต่น้อย
ก็คนที่เป็นแค่พนักงานส่งของเหมือนกันแถมมีฉายาว่ายาจกผู้มืดมนของที่ทำงาน มันจะไปเอาเงินหลายหมื่นหยวนมาคืนทั้งหมดได้ยังไงกัน!