ตอนที่ 284 เจนปะทะแซมสัน(อ่านฟรี)
ตอนที่ 284 เจนปะทะแซมสัน
ตูม!!!
อยู่ ๆ เอเชอร์ที่กำลังต่อยลุคจนลมดินอย่างเมามันอยู่นั้นก็ถูกบางสิ่งโจมตีจนลอยทะลุออกไปจากโลกใต้พิภพ
แสงสว่างเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมาจากเพดานด้านบนลงมายังจุดที่เอเชอร์เคยอยู่ ในตำแหน่งที่เอเชอร์อยู่นั้นคือตาสามแต่ร่างกายของเขาสูงกว่าปกติอย่างน้อยก็สองเท่า
“พาลุคหนีไปที่เมืองปลายฝน” ตาสามหันไปกล่าวกับเจน
เจนพยักหน้าตกลง ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาลุค
ตาสามไม่ได้มีเวลาดูทั้งสอง แต่พุ่งออกไปจากโลกใต้พิภพตามเอเชอร์ออกไป
ปัง!
เอเชอร์ที่ทะลุออกมาจากใต้ดินก็ลงจอดบนพื้นดินด้วยขาทั้งสองข้างอย่างมั่นคง เขาบิดคอไปมาเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้าลง
ตาสามตามขึ้นมา ก่อนจะยืนประจันหน้ากับเอเชอร์
“เจ้ารู้ใช่ไหวว่าทำอะไรลงไป”
“ข้าบอกแล้วว่าให้ปล่อยเด็กสองคนนั้นไป อนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นอยู่กับพวกเขา” ตาสามกล่าว ก่อนจะหยิบขวดออกมา มันมีมากกว่า 5 ขวด
ตาสามเปิดมันพร้อม ๆ กันก่อนจะดื่มยาเหล่านั้นลงไปพร้อม ๆ กัน
พริบตาที่กลืนยาเหล่านั้นลงไปร่างกายของตาสามก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นมอนสเตอร์ที่ราวกับอสุรกายที่ผสมผสานของมอนสเตอร์หลากหลายสายพันธุ์ไว้ในตัวเอง
โดยหัวของเขาเหมือนกับมังกรเพลิง ตัวเหมือนกับราชาวานรสี่แขน มีกรงเล็บของพยัคฆ์สีเงิน มีหางของงูเขี้ยวน้ำแข็ง มีเกราะของราชาเต่ายักษ์ และดวงตาของยักษ์ตาเดียว
คลื่นพลังของเขาสับสนและวุ่นวาย มันรุนแรงราวกับพายุขนาดใหญ่ท่ามกลางท้องทะเลที่มืดมิด แต่ถึงอย่างนั้นคลื่นพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นจนเกินกว่าขีดจำกัดของระดับ A ไปแล้ว
“ข้าเตรียมสิ่งนี้ไว้เพื่อรับมือกับท่าน มาดูกันว่าร่างอสูรคิเมราของข้ากับพลังของท่านใครจะเหนือกว่ากัน”
“ไปล่านาง” เอเชอร์กล่าว ก่อนที่ตัวตนแซมสันจะแยกออกไป
ตาสามไม่ได้ไปขัดขวาง ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่มันเปล่าประโยชน์ แม้จะอยู่ในร่างนี้เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเอเชอร์ได้
‘ได้แต่ภาวนาให้ลุคและเจนหนีรอดให้ได้’
ส่วนการที่เอเชอร์ส่งแค่แซมสันไปนั้นก็คือขีดจำกัดในการแบ่งตัวตนออกไปไล่ล่าทั้งสองแล้ว เพราะถ้ามากกว่านี้เขาก็อาจจะจัดการตาสามไม่ได้
‘ถ้าได้ตัวตนคืนมามากกว่านี้พวกเจ้าคงตายไปนานแล้ว น่าโมโหนักเจ้าพวกตัวตนที่กล้าทรยศข้า! พวกเจ้าต้องชดใช้!’
“เจ้ามันดื้อรั้นเอง ถ้าอย่างนั้นก็หายไปตลอดกาลซะ!!!”
เอเชอร์และตาสามเข้าปะทะกันในทันที
...
เจนแบกตัวของลุคไว้ด้านหลัง การขุดดินออกมาจากใต้ดินของระดับ A ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่นานเธอก็ทะลวงออกมาจากใต้ดินได้แล้ว
ขณะที่วิ่งหนีออกจากเมืองหลวงสหพันธรัฐตอนนั้นเสียงขององค์หญิงเทพอสูรก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“มีคนตามมา เป็นแซมสัน รีบให้ฉันกลับมาควบคุมร่างกายเร็วเข้า!”
ไม่นานเจนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังของแซมสัน แต่ว่าเธอไม่ได้ทำตามคำแนะนำขององค์หญิงเทพอสูร เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้องค์หญิงเทพอสูรออกมา เธอจะต้องทิ้งลุคและพาตัวเองหนีไปคนเดียวแน่นอน
ส่วนแซมสันจะต้องพาต้องจัดการลุคแน่นอน
เธอไม่มีทางทิ้งพี่ชายเพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง
“พี่อดทนหน่อยนะหนูจะพาพี่กลับบ้านให้ได้” เจนกล่าวด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ก่อนจะแบกลุคและวิ่งหนีไปที่พื้นด้วยความเร็วมากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
แน่นอนว่าเธอสามารถบินบนท้องฟ้าได้ แต่มันโดดเด่นเกินไป
แซมสันมีพลังในระดับ A ที่แข็งแกร่งมาก ถ้าเธอหนีบนฟ้าก็ไม่เท่ากับการปรากฏตัวให้แซมสันเห็น อีกฝ่ายตามไม่ปล่อยแน่นอน
ที่สำคัญเจนไม่สามารถหนีโดยยืดเยื้อได้ เพราะเธอเองก็บาดเจ็บไม่แพ้กัน ดังนั้นการวิ่งไปบนพื้น ถึงจะช้าเล็กน้อย แต่สามารถปกปิดตัวเองและหลอกล่อแซมสันได้
เจนกัดฟันกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงไป ก่อนจะแบกลุควิ่งไปเรื่อย ๆ หลังจากไปเส้นตรงสักพักเธอก็เปลี่ยนทิศทางวิ่งไปอีกทางหนึ่ง
หลังจากหนีมาได้สักพักเจนก็หยุดลงและหอบหายใจ เธอกระอักเลือดออกมาและจับไปที่หน้าอก ตอนนี้ราวกับว่าปลอดของเธอกำลังฉีกออกจากกันเป็นเสี่ยง ๆ
ตอนที่องค์หญิงเทพอสูรสู้กับเอเชอร์ในที่คุกมืด เธอโดนต่อยเข้าที่หน้าอกไม่ต่ำกว่า 10 หมัด ทำให้ตอนนี้ผลจากตอนนั้นส่งมาถึงเจนเจ้าของร่างด้วย
“หนีไปไม่พ้นแน่ เร็วเข้ารีบให้ฉันควบคุมร่างกาย” องค์หญิงเทพอสูรพยายามที่จะกลับเข้ามาควบคุมร่างกายและบังคับให้เจนออกไป
“ไม่! ฉันยังไหว!!!”
“บ้าจริง แซมสันเจอเธอแล้ว”
“เป็นไปได้ยังไง ฉันก็หลบมาทางอื่นแล้ว”
“ถึงเธอจะหลบออกมาจากขอบเขตสัมผัสของแซมสันมาตลอด แต่ว่ามีร่องรอยมากเกินไป ถ้าหาดี ๆ ก็เจอได้ไม่อยาก แถมเธอยังแบกเขามาอีกและยังบาดเจ็บร่วมด้วย ทำให้ความเร็วเธอลดลงมาก อีกไม่นานก็โดนตามทันแน่”
“...” เจนกัดริมฝีปาก
ตอนนี้เธอกดดันมากและไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ไม่ว่าจะเข้าตาจนแค่ไหนเธอก็ไม่มียอมให้องค์หญิงเทพอสูรกลับมาควบคุมร่างกายแน่
ตั้งแต่เล็กจนโตเจนคือคนที่ฉลาดมาก อาจจะมากกว่าลุคด้วยซ้ำ แม้เธอจะไม่เคยฆ่าคนมาก่อน แต่ก็ยังเข้าใจดีว่าถ้าต้องการรอดไปได้พร้อมกับลุค ทางเดียวเท่านั้นคือจัดการแซมสัน
แซมสันเป็นระดับ A เธอก็เป็นระดับ A เช่นกัน
เจนหยุดลงบนกิ่งไม้หนึ่งและไม่เคลื่อนไหว
องค์หญิงเทพอสูรราวกับคาดเดาได้ถึงความคิดของเจนก็รีบพูดขึ้นมาในทันที
“เธอจะฆ่าเจ้านั้นเหรอ ต่อให้มีพลังแต่เธอมีประสบการณ์ในการสู้กับเจ้านั้นอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่มี ดังนั้นเธอต้องช่วยฉัน ถ้าฉันตายเธอก็ต้องตายเหมือนกัน”
“เจ้า!”
องค์หญิงเทพอสูรหงุดหงิดและกำลังหมดความอดทน เพราะเจนกำลังข่มขู่เธอ
เจนไม่สนใจเสียงบ่นขององค์หญิงเทพอสูร เธอกำลังเดิมพันว่าเธอหรือองค์หญิงเทพอสูร ใครจะมีความอดทนมากกว่ากัน
เธอรีบพาลุคไปซ่อน ก่อนจะย้อนกลับมาเส้นทางเดิมและเลือกจะหนีไปอีกทาง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผลจากการต่อสู้มาถึงตัวของลุค
ตอนที่เปลี่ยนเส้นทางอีกครั้งเพื่อล่อแซมสัน เจนไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้อย่างตั้งใจ เพราะแบบนั้นจะจงใจจนเกินไปและทำให้แซมสันสงสัยได้
...
“เจ้าเด็กนั้นอยู่ทางนี้”
แซมสันสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่แผ่วเบาในอากาศไม่ผิดแน่นอน ต้องบอกว่าถ้าใครจะคุ้นเคยคลื่นพลังของเจนมากที่สุดก็ต้องเป็นแซมสัน เพราะในตอนที่ช่วยให้องค์หญิงเทพอสูรควบคุมร่างกายเจนได้ แซมสันได้แอบวิเคราะห์คลื่นพลังไว้ด้วย
“เธอกำลังบาดเจ็บและช้าลง คิดว่าจะหนีรอดอย่างนั้นเหรอ” แซมสันแสยะยิ้มก่อนจะไล่ตามเจนไป
ห่างออกไปไม่ไกลเจนไม่ได้หนีต่อแล้ว เธอลดความเร็วลงเรื่อย ๆ และมองหาความได้เปรียบ ก่อนจะเจอกับทะเลสาบแห่งหนึ่ง
ทะเลสาบแห่งนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่และไร้ผู้คน
“ให้ฉันควบคุมร่างกายแล้วฉันจะจัดการเจ้านั้นให้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายพี่ของเธอ” องค์หญิงเทพอสูรกล่าวอีกครั้ง
เจนไม่ตอบ เธอจ้องมองไปที่จุดไกล ๆ บนท้องฟ้า
จุดนั้นไม่กี่วินาทีก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากแซมสัน
“เขาดูหนุ่มขึ้น”
“ที่พวกตัวตนเหล่านี้แก่ เพราะมันถูกตัดขาดจากเอเชอร์เป็นเวลานาน แต่ตอนนี้มันได้กลับคืนสู้พลังของเอเชอร์ก็ไม่แปลกที่จะหนุ่มขึ้น แถมพลังก็เริ่มกลับคืนมาด้วย ดังนั้นเธอจัดการมันไม่ได้หรอก” องค์หญิงเทพอสูรกล่าวกับเจน
“ไม่หนีแล้ว?” แซมสันหยุดยืนบนอากาศก้มหน้ามองลงมาที่เจน ซึ่งยืนอยู่ใจกลางผิวน้ำ
หลังจากกวาดตามองไปรอบ ๆ เพื่อหาลุค เพราะนั้นคือเป้าหมายหลักที่จะต้องฆ่าให้ได้ แต่แซมสันก็ไม่เห็นลุค แม้แต่พื้นที่รอบ ๆ ก็ไม่มี
แซมสันเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที
“แกเอามันไปซ่อนไว้ที่ไหน”
เจนทำหน้านิ่งไม่ยอมตอบอีกฝ่าย
“ก็ได้ไว้ค่อยง้างออกมาจากปากของแก” แซมสันระเบิดพลังกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ก่อนจะตรงเข้าไปหาเจนในทันที
“เร็วมาก” เจนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ถึงจะเตรียมใจมาบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ เธอไม่เคยสู้มาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะสู้ไม่ได้
เจนไม่คิดจะรับหมัดนั้นตรง ๆ เพราะเคยเห็นตอนที่แซมสันโจมตีมาก่อน พละกำลังไม่ใช่สิ่งที่เหนือมนุษย์ระดับ A จะระดับได้ง่าย ๆ
เธอหลบหลีกไปมาโดยอาศัยความเร็วในการเคลื่อนไหว
“หืม คิดจะหลบไปถึงไหน” แซมสันเพิ่มความเร็วขึ้นมา ทุกการต่อยแม้จะพลาดเป้า แต่ก็ระเบิดน้ำในทะเลสาบจนกระเซ็นและตกลงมาราวกับพื้นที่แถบนี้มีพายุฝนตกลงมา
เจนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวรวมกับน้ำที่เปียกโชก เพราะฝืนตัวเองมากจนเกินไป
“อย่าเอาแต่หนี โจมตีมันกลับไปบ้าง”
“บ้าจริงเธอทำแบบนี้เราจะตายกันหมด”
“ระวังด้านหลัง ด้านข้างมาแล้ว หลบเร็ว”
ปัง!
ตอนนั้นเองเจนก็โดนหมัดของแซมสันแบบเฉี่ยว ๆ เข้าไปทีเดียวก่อนจะกลิ้งไปบนผิวน้ำและกระแทกเข้ากับภูเขาแห่งหนึ่ง
“รีบลุกขึ้นมา” เสียงขององค์หญิงเทพอสูรเริ่มร้อนรนมากขึ้น
เจนกัดฟันเลิกสนใจเลือดที่ไหลออกมาจากไหลข้างซ้ายและหลบหนีออกมาก่อนที่แซมสันจะกระทืบเข้าไปที่ตรงตำแหน่งที่เธอเคยอยู่
ตูม!
ภูเขาโดนทำลายไปครึ่งลูก
เจนใช้โอกาสนี้ตอบโต้กลับไปด้วยการโจมตีไปที่ด้านหลังของแซมสัน แต่แซมสันกลับเอียงศีรษะหลบและคว้าเอาแขนข้างที่ต่อยของเจนไว้
ปัง!
แซมสันจับแขนเจน ก่อนจะทุ่มตัวเธอฟาดใส่พื้นอย่างรุนแรง จนเกิดหลุมขนาดใหญ่ แซมสันไม่มีความเห็นใจว่านั้นคือผู้หญิงแม้แต่น้อย
อั๊ก!
เจนรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย ราวกับว่ากระดูกทั้งตัวเธอแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ก็ยังกระเสือกกระสนที่จะหนี
แซมสันง้างขาแตะเข้าใส่ที่ท้องของเจนจนเธอกลิ้งจากบนฝั่งลอยไปตกในทะเลสาบ
ร่างของเจนค่อย ๆ จมลงไปในน้ำ เลือดที่ไหลจากร่างกายย้อมสีน้ำจนแดงฉาน เจนสติเลือนรอยใกล้จะหยุดหายใจเต็มที
“บ้าจริง แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น” ตอนนั้นเององค์หญิงเทพอสูรก็ยอมแพ้ในความดื้อด้านของเจนเธอเลือกจะช่วยเหลือเจน